เจิ้งเฉียนนั้นไม่คิดสนใจหัวเราะตอบกลับมา “คนที่ขึ้นระดับเจ้าโลกไม่ได้มันจะไม่เรียกว่าขยะได้อย่างไร? นักหลอมโอสถสวรรค์ระดับห้าที่บรรลุระดับลึกล้ำได้แต่กลับไม่มีบรรพบุรุษคนไหนลดตัวลงมารับเป็นศิษย์! ฮ่าๆๆ น่าขันนัก! ส่วนตัวเจ้านั้นก็คงอยู่ปากมากไปได้อีกไม่กี่วันแล้ว ไม่ว่าเจ้าจะอัจฉริยะแค่ไหนก็ตาม! ท่านชิง…หากมีปัญญาก็ไปอวดโม้ต่อหน้าศิษย์พี่หลัวห่าวไป!”
หยางชิงได้แต่ต้องทำหน้าเหยเกเมื่อได้ยินนามนั้นจนทำให้เย่หยวนอดถามขึ้นไม่ได้ “มันเกิดอะไรขึ้นหรือหยางชิง?”
เจิ้งเฉียนนั้นเหมือนกลัวจะหมดบทรีบร้องตอบกลับมาแทน “ขยะอย่างเจ้าคงยังไม่รู้ใช่ไหม? หยางชิงนั้นมันสังหารน้องชายแท้ๆ ของศิษย์พี่หลัวห่าว ตอนนี้พวกเขาทั้งสองได้ตกลงต่อสู้เดิมพันชีวิตกันอีกในสองวัน! ศิษย์พี่หลัวห่าวนั้นเป็นจักรพรรดิเที่ยงอันดับที่สี่ของนิกาย ยอดฝีมือมหาจักรพรรดิครึ่งก้าว! เจ้าคิดว่ามันจะรอดมือเขาไปได้หรือเปล่าเล่า?”
ในนิกายยาสุดล้ำนั้นมันมีจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดอยู่เกลื่อนกลาดแต่คนที่ก้าวขึ้นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้นั้นมีไม่มาก
เพราะการขึ้นไปถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้นั้นมันคือคนที่มีหวังจะบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ไปได้!
เพราะฉะนั้นคนส่วนมากที่มาถึงนั้นจึงล้วนเป็นยอดอัจฉริยะ!
และหลัวห่าวนั้นยิ่งเป็นหัวกะทิในหมู่คนทั้งหลาย!
หยางชิงนั้นเรียกได้ว่าแทบไร้เทียมทานใต้จักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดลงมา
เพราะว่าจักรพรรดิเที่ยงที่อยู่อันดับสูงกว่าเขานั้นส่วนมากแล้วเป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวทั้งสิ้น
ด้วยพลังบ่มเพาะในตอนนี้ของหยางชิงย่อมจะไม่มีทางเอาชนะพวกเขาได้
ที่สำคัญไปกว่านั้นหลัวห่าวยังเป็นถึงมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวที่อยู่ในสิบอันดับแรก!
จักรพรรดิเที่ยงอันดับสี่ ตัวตนที่สามารถขึ้นไปเหยียบอาณาจักรมหาจักรพรรดิได้ทุกเมื่อ!
เย่หยวนมองหน้าหยางชิงก่อนจะถามขึ้น “เจ้าเอาชนะมันไม่ได้?”
หยางชิงส่ายหัวตอบกลับไปด้วยรอยยิ้มแห้งๆ เพราะคำโม้ของเขานั้นมันคงมาได้แค่นี้
จะอัจฉริยะแค่ไหนมันก็มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะมากพรสวรรค์เพียงใดมันก็ไม่อาจจะกระโดดข้ามอาณาจักรได้อย่างไร้จำกัด
“เจ้ารับมือได้กี่กระบวนท่า?” เย่หยวนถามขึ้นอีก
“หนึ่ง!” หยางชิงนั้นตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สุดแสนขมขื่น
เขานั้นเคยท้าทายพวกที่เป็นมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวมาก่อนและรู้ดีว่าช่องว่างระหว่างพวกเขามันยิ่งใหญ่จนเกินไป
และในหมู่คนที่ติดแนวหน้านั้น แค่มหาจักรพรรดิครึ่งก้าวทั่วๆ ไปย่อมไม่อาจเทียบ
ต่อให้จะเป็นยอดฝีมือจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดเองมันก็ไม่อาจจะเอาชนะมหาจักรพรรดิครึ่งก้าวได้
ช่องว่างระหว่างหยางชิงและหลัวห่าวนั้นยิ่งใหญ่กว่านั้น!
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากข้าช่วยให้เจ้าบรรลุจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดได้แล้วเจ้าจะไหวไหม?”
หยางชิงนั้นเบิกตากว้างขึ้นมาทันที “แน่นอนว่าไหว! หากข้าขึ้นไปถึงจักรพรรดิเที่ยงขั้นสุดได้ข้าย่อมจะเอาชนะมันได้แน่นอนอย่างไม่ต้องสงสัย!”
สีหน้าของเจิ้งเฉียนที่อยู่ไม่ไกลไปนั้นมันก็เปลี่ยนสีขึ้นเมื่อได้ยินแต่ไม่นานมันก็กลับมาเป็นท่าทางดูถูกอีกครั้ง
“ยอดฝีมือระดับลึกล้ำนี่มันเก่งกาจดีจริงๆ! แต่ว่านะ…ไอ้ขยะ หากข้าเดาไม่ผิดเจ้าคงยังไม่เคยหาแต้มความดีเลยตั้งแต่เข้านิกายมาใช่หรือไม่? ต่อให้เจ้าจะอยากหลอมโอสถแต่มันจะหาสมุนไพรสวรรค์โดยไม่มีแต้มความดีได้อย่างไร?”
ในตอนนั้นเองที่หวังหลินก็ปรากฏขึ้นมากล่าวเสริมอย่างไม่ให้สุ้มให้เสียง “มันไม่ใช่แค่ไม่มีแต้มความดี แต่เขายังติดแต้มความดีกับห้องสมุดคัมภีร์อีกถึงห้าหมื่นสี่พันสี่ร้อยห้าสิบแต้มด้วย! แม้ว่าอาจารย์ลุงจั่วเฉินนั้นจะออกหน้ารับรองให้แก่มันแต่ตอนนี้เมื่อมันออกจากการเก็บตัวมาแล้วมันก็ต้องหาทางจ่ายคืนแต้มความดีมา! เย่หยวนจากวันนี้ไปเจ้าคงต้องหลอมโอสถสวรรค์อย่างไม่พักเพื่อชดใช้แต้มความดีคืนให้แก่นิกายแล้ว!”
เย่หยวนนั้นผงะไปทันที มันกลับยังมีเรื่องเช่นนั้นด้วย?
เย่หยวนไม่รู้ถึงมันจริงๆ!
แน่นอนว่าต่อให้จะเป็นศิษย์ของนิกายยาสุดล้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้ทุกอย่างตามที่ต้องการมาฟรีๆ
นิกายใหญ่ที่มีสมาชิกนับแสนๆ คนเช่นนี้มันย่อมจะต้องใช้ทรัพยากรแต่ละวันอย่างมหาศาล หากไม่มีการทำงานชดใช้กลับให้นิกายบ้างมันก็ย่อมจะไม่สามารถคงอยู่กันต่อไปได้
หยางชิงนั้นเองก็รับภารกิจมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อแลกกับทรัพยากรต่างๆ ใช้ในการฝึกฝนตัวทำให้เขาพัฒนาไปได้อย่างไม่หยุดยั้ง
แท้จริงแล้วทางห้องสมุดคัมภีร์นั้นย่อมจะไม่ยอมให้ใครมาติดแต้มความดีไว้ก่อน แต่ด้วยอาวุโสของเย่หยวนนั้นมันจึงไม่มีใครคิดทวงถามอะไรกับเขาทั้งสิ้น
แต่หากดูตามอาวุโสเบื้องหน้าของเย่หยวนที่เป็นศิษย์จั่วเฉินแล้ว เขาย่อมจะมีแต้มความดีติดตัวมาสามร้อยตอนที่เข้านิกาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...