เสียงคนมากมายร้องตามขึ้นมาอย่างตกตะลึง
ตีหลอมร่างวิญญาณในเส้นทางคุมวิญญาณมันเป็นเรื่องที่บ้าอย่างมาก! แม้ว่าเส้นทางคุมวิญญาณนั้น มีประสิทธิภาพในการตีหลอมร่างวิญญาณมันก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะทำได้ เพราะว่าการโจมตีที่ต่อเนื่องเช่นนี้ มันจะทำให้จิตใจของผู้คนเหนื่อยอ่อนลงเรื่อยๆ หากหมดกำลังใจลงแล้วการโจมตีวิญญาณรุนแรงนั้น มันก็อาจจะเข้ามาเอาชีวิตไป
แม้แต่ยอดฝีมืออย่างฉินซื่อเถียนเองก็ยังไม่กล้าจะอยู่นานนัก
หลังจากเข้ามาถึงระดับที่สามแล้ว เขาก็ไม่กล้าจะถ่วงเวลาใดๆ อีก
แต่เย่หยวนนั้นกลับจงใจเดินช้าๆ ให้ถูกโจมตีมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ระดับแรก มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก
“นี่มัน…เขาคงไม่ได้คิดจะตีหลอมไปเรื่อยๆ หรอกใช่ไหม? นี่คงไม่ได้หมายความว่าเขานั้นจะไปถึงระดับสิบได้หรอกนะ?” ผู้เข้าทดสอบคนหนึ่งกล่าวขึ้น
“ก่อนจะเข้าเส้นทางคุมวิญญาณไปนั้น…เขามีร่างวิญญาณแค่สองรูปเท่านั้น! แต่ตอนนี้เขากลับบรรลุ
สองรูปขึ้นมาติดๆ กันได้! เจ้าหนุ่มคนนี้มันมีจิตเต๋าที่หนักแน่นเหนือล้ำจริง ช่างเป็นพลังความมุ่งมั่นที่น่ากลัวนัก!
แต่ว่า…มันคงจบเท่านี้แล้ว! การตีหลอมเช่นนี้เป็นอะไรที่หนักหน่วงสร้างภาระให้ร่างวิญญาณอย่างมาก หากไม่ยอมถอยในระดับห้าเขาคงต้องตายลงแน่แล้ว!” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางกล่าวขึ้นมา
ได้ยินเช่นนั้นตัวฉินซื่อเถียนถึงค่อยถอนหายใจยาวออกมาได้
เพราะตอนที่เขาได้ยินว่าเย่หยวนกำลังตีหลอมร่างวิญญาณนั้นเขาเองก็ต้องปาดเหงื่อเช่นกัน
เช่นนั้นแล้วเย่หยวนจะพัฒนาไปได้เรื่อยๆ อย่างไม่มีสิ้นสุดหรือ?
ที่แท้เขาแค่คิดมากไปเอง
“เฮอะ! ไอ้เจ้าโง่ดื้อด้าน มีปัญญาจริงก็อย่าได้ถอนตัวสิโว้ย!” ฉินซื่อเถียนร้องลั่นขึ้น
ในใจของเขานั้นหวังว่าจะให้เย่หยวนตายๆ ไปลงตรงนี้
แต่ในตอนนี้เย่หยวนก็ก้าวเข้าไปยังระดับห้าเช่นกัน
คลื่นความกดดันมันหนักหน่วงขึ้นอย่างมาก!
หากเป็นวรยุทธบ่มเพาะทั่วๆ ไปแล้วมันย่อมจะไม่มีทางต้านทานความเสียหายเช่นนี้ได้
แต่กำเนิดเทพนั้นเป็นสุดยอดวรยุทธบ่มเพาะของเผ่าวิญญาณ
ร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นอาจจะดูบิดเบี้ยวจากการโจมตีมากมาย…
แต่แท้จริงแล้วความเสียหายมันไม่ได้มากจนเกินกว่าจะรับได้
แน่นอนว่ามันยังคงเจ็บปวดอย่างมาก
แต่สำหรับเย่หยวนนั้นความเจ็บปวดมันก็เหมือนสหายคนหนึ่ง
ตอนนี้เขามาถึงระดับห้าและร่างกายของเขามันก็บิดเบี้ยวขึ้นอย่างมากเช่นกัน
มันบิดเบี้ยวจนเหมือนกับร่างวิญญาณของเย่หยวนนั้นยิ่งดูน่ากลัวว่าจะแตกสลายลง
แต่เย่หยวนก็ยังคงก้าวต่อไปอย่างเชื่องช้า
ฉินซื่อเถียนเบิกตากว้างขึ้นร้องลั่นขึ้นมาในใจ ‘ใช่แล้ว! ทำเช่นนั้นแหละ! อย่าได้ออกมา! ไปอีก! ไปตายเลย!’
และเย่หยวนก็ไม่ทำให้เขาผิดหวังเพราะเย่หยวนย่อมจะไม่คิดถอนตัวออกมาแม้แต่น้อย
จากนั้นเขาก็เดินมาถึงหน้าระดับหก
คนทั้งหลายนั้นแทบลืมหายใจ!
หรือว่าเย่หยวนนั้นจะทำลายสถิติลงด้วยอีกคน?
กลายเป็นผู้เข้าทดสอบที่ผ่านถึงระดับหกเป็นคนที่สองของวัน?
เย่หยวนไม่ลังเลและก้าวเดินออกไปเรื่อยๆ
คลื่นพลังกดดันมันหนักหน่วงขึ้นมา!
จากนั้น…เย่หยวนก็บรรลุ!
ห้ารูป!
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเริ่มไม่อาจจะนั่งนิ่งได้อีก
เขานั้นคาดเดาไว้ว่าหากเย่หยวนยังไม่ถอยกลับมาแล้วเขาคงได้ตายลงแน่
แต่ตอนนี้เย่หยวนกลับผ่านระดับหกไปได้พร้อมบรรลุห้ารูป!
ราวกับว่าเขานั้นจงใจจะตบหน้าคน!
สายตาของมหาจักรพรรดิคนอื่นๆ หันมามองที่เขาเป็นตาเดียว
‘ไหนเจ้าว่าเย่หยวนจะตายหากยังไม่ถอยออกมากัน?’
“เจ้าเด็กนี่มันคงมีวิชาวิญญาณที่ช่วยฟื้นฟูร่างวิญญาณแน่แล้ว! แต่ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่เหนือล้ำปานใดมันก็คงไม่มีทางผ่านระดับหกไปได้แน่!” มหาจักรพรรดิตงหยางนั้นกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจ
ราวกับว่าเขานั้นพยายามจะหาข้ออ้างแก้ตัว
คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ต้องพยักหน้ารับไปตามๆ กัน ดูท่าเย่หยวนคงจะมีวิชาดีอะไรจริงๆ ถึงกล้าไปตีหลอมร่างวิญญาณเช่นนี้
เจ้าโถงนั้นเป็นถึงมหาจักรพรรดิล้ำ คำพูดของเขามันย่อมจะน่าเชื่อถือ
เพราะมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ
เพียงแค่ว่าพวกเขานั้นไม่ได้รู้เลยว่าวิชาของเย่หยวนนั้นมันเป็นวรยุทธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าวิญญาณ!
จากนั้นเย่หยวนก็เดินเข้าไปใกล้สถิติของฉินซื่อเถียนเรื่อยๆ
ฉินซื่อเถียนเองก็ได้แต่ยืนทำหน้าเหยเกเมื่อได้เห็น
ก้าวย่างของเขานั้นมันช้าเหมือนเต๋า แต่เป็นเต๋าที่ไม่คิดหยุดเดิน!
ความรู้สึกของฉินซื่อเถียนตอนนี้มันเหมือนกำลังถูกไฟลนอยู่ข้างในใจ
ร้อนรน!
‘ตายไปสิวะ! ทำไมยังไม่ตายอีก! การโจมตีของระดับหกมันน่ากลัวจะตายไป ทำไมยังไม่ตายอีก?’
ฉินซื่อเถียนนั้นร้องลั่นขึ้นมาในใจคิดหวังให้เย่หยวนกลายเป็นเถ้าถ่านไปเสียที
แต่น่าเสียดายที่เย่หยวนกลับไม่ตายลง!
ก้าวเท้าของเย่หยวนนั้นมันเชื่องช้าแต่หนักแน่น
“สองร้อยก้าว! เสมอแล้ว!”
เมื่อเย่หยวนก้าวไปถึงจุดนั้นมันก็มีคนร้องขึ้นมา
คนทั้งหลายสะดุ้งตัวตื่นขึ้นทันทีเพราะตอนนี้เย่หยวนได้ทำสถิติเทียบเท่าฉินซื่อเถียนแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...