มันไม่มีเสียงแตกตื่นฮือฮาใดๆ ในตอนนี้มีเพียงแค่ความเงียบงัน
เพราะจนตอนนี้หลายๆ คนก็ยังไม่อยากจะเชื่อภาพตรงหน้า
โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่เคยจะมีใครผ่านด่านนี้มาได้
แต่วันนี้มันมีคนผ่านแล้ว!
ไม่มีใครคิดว่าเต๋าอย่างเย่หยวนนั้นกลับจะสร้างตำนานขึ้นมาในที่สุด!
ผ่านด่าน!
“นี่มันผ่านด่านจริงๆ! เขา…ทำได้อย่างไรกัน?”
“ยังมีหน้ามาบอกว่าเผลอ…เจ้าบ้านี่มันจะถ่อมตัวไม่เป็นเลยหรือ!”
“ก่อนหน้านี้ข้ายังคิดว่าฉินซื่อเถียนนั้นเก่งกาจมากแล้ว แต่เทียบกับเย่หยวนแล้วเขาเป็นได้เพียงแค่เศษดิน!”
“ได้เห็นคนผ่านด่านกับตาเช่นนี้ชีวิตข้าไม่เสียเปล่าแล้ว!”
…
จู่ๆ คนทั้งหลายก็เริ่มได้สติและโห่ร้องขึ้นมา!
เส้นทางคุมวิญญาณนั้นมันไม่เคยมีใครผ่านมาได้ก่อนเลย!
บ้างนั้นตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมา
ได้เห็นปาฏิหาริย์กับตาเช่นนี้มันย่อมจะนับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก
เรื่องเช่นนี้เอาไปโม้ได้อีกเป็นหมื่นปี
ความอับอายใดๆ ก่อนหน้ามันได้จางหายไปจากใจของคนสิ้น
มันยังมีอะไรให้ต้องอายอีก?
ผู้เข้าทดสอบหลายคนนั้นยึดถือเย่หยวนเป็นดั่งเทพก้มกราบเขาไปแล้ว
คนเรานั้นเป็นเช่นนี้ ใครที่เก่งกาจกว่าเล็กน้อยนั้นมันย่อมจะทำให้ผู้คนเกิดความอิจฉาริษยาขึ้นมาได้
แต่หากเมื่อเก่งกาจกว่ามากล้ำจนเกินไปแล้ว ความอิจฉาริษยาใดๆ มันก็จะเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง
ความรู้สึกเดียวที่เหลือคือชื่นชม!
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นมองดูเย่หยวนและหันมามองดูหน้าฉินซื่อเถียนพร้อมกับถอนหายใจ
เมื่ออีกฝ่ายสัมผัสได้ถึงสายตานั้นเขาก็แทบอยากจะตายลงไปให้สิ้นเสียตรงนี้
ยิ่งเมื่อสักครู่นั้นเขายิ่งใหญ่แค่ไหน ตอนนี้มันก็ยิ่งทำให้เขาอับอายมากเท่านั้น
ความภาคภูมิของเขานั้นมันเป็นได้แค่หินให้เย่หยวนเหยียบ
สำหรับยอดอัจฉริยะแล้วมันไม่มีอะไรจะน่าอายไปกว่านี้
“ซีเฉิน หากข้าจำไม่ผิดช่วงสามหมื่นปีที่ผ่านมานั้นมันคงมีแต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านที่ผ่านด่านนี้ได้ใช่หรือไม่?” มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางถามขึ้นมา
มหาจักรพรรดิล้ำซีเฉินตอบกลับมาด้วยท่าทางตกตะลึงเช่นกัน “ใช่แล้ว! ที่โถงวิญญาณนิพพานรบวารีกลายเป็นหนึ่งในสิบโถงวิญญาณนิพพานที่ใหญ่ที่สุดก็เพราะว่าเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน! ไม่คิดเลยว่าเราเองจะมีโอกาสนี้ด้วย!”
แต่มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นกลับถอนหายใจยาวออกมา “น่าเสียดายที่เขานั้นสุดท้ายก็แค่เก้ารูป เทียบกับเจ้าโลกฟู่เทียนท่านแล้วมันยังอ่อนแอกว่ามาก!”
ซีเฉินกล่าวขึ้นต่อ “ก็จริง ตอนที่เจ้าโลกฟู่เทียนท่านผ่านเส้นทางคุมวิญญาณในตอนนั้นท่านได้พัฒนาร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชขึ้นมาพร้อมสิบรูป! จากนั้นท่านก็ใช้พลังของร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชนั้นผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดกลายเป็นเจ้าโลกในที่สุด! เย่หยวนนั้นจะอย่างไรก็อ่อนแอกว่าท่านไปไม่น้อย!”
“ความแตกต่างแค่ปลายเส้นผมมันอาจจะสร้างช่องว่างนับหมื่นกิโลเมตรได้! ต่อให้จะเป็นเก้ารูปแต่คิดอยากขึ้นเจ้าโลกมันคงไม่ง่ายดายแล้ว!” ซีเฉินกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดาย
หากไม่ถึงเจ้าโลกแล้วผลสุดท้ายมันก็คงจบแค่ที่ระดับพวกเขา
เพราะต่อให้จะเก่งกาจกว่าพวกเขาไปมาก แต่สุดท้ายมันก็จะยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิล้ำในที่สุด
มิได้กลายเป็นยอดฝีมือที่แท้จริง
มีเพียงแค่การบรรลุเจ้าโลกเท่านั้นที่จะเรียกได้ว่าเป็นการผงาดขึ้นอย่างแท้จริง
มันเป็นการก้าวสู่สวรรค์ด้วยย่างก้าวเดียว!
เพราะฉะนั้นต่อให้เย่หยวนจะเก่งกาจแค่ไหน…ในท้ายสุดแล้วมหาจักรพรรดิตงหยางก็ต้องเสียดายสุดใจขึ้นมา
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป
ที่แท้มันกลับยังมีเรื่องเช่นนี้ด้วย!
ฉินซื่อเถียนนั้นเริ่มกลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง
มันยังมีด่านที่สามอยู่มิใช่หรือ?
เย่หยวนทำได้ เขาก็ย่อมจะทำได้เช่นกัน!
‘ใครกำหนดเล่าว่าข้า ฉินซื่อเถียนคนนี้จะไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้?’
บนสนามรบเจาะชาดนั้นเขาเองก็ผ่านจังหวะเฉียดตายมามาก
กี่ครั้งแล้วที่เขารอดกลับมาจากนรก กี่ครั้งแล้วที่เขาพลิกสถานการณ์กลับอย่างไม่หวาดหวั่น?
ครั้งนี้เองก็เช่นกัน!
ฉินซื่อเถียนนั้นจะขอสู้สุดชีวิต!
คิดมาถึงตรงนี้ฉินซื่อเถียนก็คุกเข่าลงต่อหน้ามหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง “อาจารย์ท่าน รอบที่สามนี้ศิษย์จะพลิกสถานการณ์กู้หน้ากลับมาให้ได้!”
มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นเห็นได้ถึงความมุ่งมั่นใจสายตาของฉินซื่อเถียน
นี่มันคือความหนักแน่นที่เกิดขึ้นจากสนามรบเจาะชาด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...