“ตงหยางขอนำโถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบคารวะท่านหยุนหนี! คารวะเจ้าโลกหนุ่มเฟิงรุ่ย!” ตงหยางและพวกนั้นก้มหัวลงต่ำรับการมาถึงของคนทั้งสอง
คนผู้มาถึงนั้นเป็นหญิงงามล้ำคนหนึ่งดูเย็นเยือกพร้อมๆ กันนั้น ด้านหลังของนางก็มีชายหนุ่มท่าทางไม่สนใจโลกเดินตามออกมา เหมือนว่ามหาจักรพรรดิล้ำทั้งหลายตรงหน้าของเขานั้นมันไม่มีค่าใด
หยุนหนีนั้นพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวทักทาย “น้องตงหยางพัฒนาขึ้นได้มากทีเดียว”
ตงหยางนั้นได้แต่ต้องตอบกลับไปว่ามิกล้าๆ
ในกลุ่มคนนั้น เย่หยวนต้องหรี่ตามองหยุนหนีคนนี้อย่างสนใจ เขานั้นได้ยินมาว่านางคือหนึ่งในคนที่ได้รับยกย่อง ให้เข้าใจอาณาจักรเจ้าโลกมากที่สุดของเผ่าวิญญาณ
ในเผ่าวิญญาณนั้นนางมีตำแหน่งสูงล้ำ
นางนั้นเป็นสาวงามที่มีตำแหน่งสูงเหนือล้ำเป็นดอกฟ้าอย่างแท้จริง
เมื่อเข้ามาถึงโถงวิญญาณนิพพานคนทั้งหลายก็ต่างแยกย้ายกันไปนั่งตามตำแหน่งเจ้าบ้านและแขก
หยุนหนีนั้นมองหน้าเย่หยวนและกล่าวถามขึ้นมาอย่างไม่แสดงสีหน้าใดๆ “นั่นคือคนที่เจ้าบอกว่าอาจจะเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้ม?”
ตงหยางพยักหน้ารับ “ท่านหยุนหนีสายตาเฉียบคมนัก เขามีนามว่าเย่หยวน!”
“อาจารย์ ท่านไม่ต้องไปดูหรอกเพราะยังไงก็คงเป็นแค่ร่างวิญญาณกึ่งอมตะอีกตามเคยแหละ! พวกเจ้าคนนอกพวกนี้มันเห็นร่างวิญญาณกึ่งอมตะเมื่อไหร่ก็ทำเป็นเรื่องใหญ่โตทุกทีไป พวกมันไม่ได้รู้เลยว่าในแดนวิญญาณอมตะของเรานั้นมันมีร่างวิญญาณพิเศษปรากฏขึ้นทุกๆ ร้อยปี และในแดนวิญญาณอมตะนั้นก็มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะอยู่ไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว เจ้าบ้านนอกพวกนี้กลับมาตื่นเต้นมากมายเวลาเห็นร่างวิญญาณกึ่งอมตะ พวกมันคิดจริงๆ หรือว่าร่างวิญญาณของท่านบู๋เมี่ยนั้นจะปลุกขึ้นมาได้ง่ายๆ?” เฟิงรุ่ยกล่าวขึ้นอย่างดูถูกเหยียดหยาม
เมื่อคนทั้งหลายได้ยินเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน
ทุกๆ ร้อยปีจะมีร่างวิญญาณพิเศษปรากฏขึ้น?
นี่มันจะไม่บ่อยไปหรือ?
หรือก็คือในแดนวิญญาณอมตะนั้นคนอย่างเย่หยวนนี้มีอยู่เกลื่อนกลาด?
คำพูดเดียวของเฟิงรุ่ยนั้นได้เปลี่ยนโลกของพวกเขาไปทันที!
เมื่อเฟิงรุ่ยได้เห็นสีหน้าของคนทั้งหลายเขาก็ต้องกล่าวขึ้นต่ออย่างเย้ยหยัน “รอบร้อยปีมันถือว่าบ่อย? สิบปีหลังมานี้แดนวิญญาณอมตะเรานั้นได้ปรากฏร่างวิญญาณพิเศษขึ้นมาถึงเจ็ดคนด้วยซ้ำ! มันมีคนที่มีร่างวิญญาณเป็นรองแค่ร่างวิญญาณหมอกหุ้มของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านด้วยซ้ำ!”
คนทั้งหลายเมื่อได้ยินเช่นนั้นต่างก็ต้องอ้าปากค้างแม้แต่ตัวมหาจักรพรรดิล้ำตงหยาง
ร่างวิญญาณพิเศษมันไร้ค่าปานนั้น?
ในความเป็นจริงแล้วเหล่าเจ้าโถงวิญญาณนิพพานนั้นเองก็รู้เรื่องภายในแดนวิญญาณอมตะไม่มากนักเช่นกัน
เพราะความพิเศษของมันนั้น พวกเขาจึงไม่สามารถจะเข้าออกแดนวิญญาณอมตะได้ดั่งใจ
พวกเขานั้นเป็นแค่เครื่องมือที่เผ่าวิญญาณใช้ควบคุมโลกภายนอก
โถงวิญญาณนิพพานกล้วยไม้สงบนั้นไม่ค่อยจะปรากฏยอดอัจฉริยะขึ้นเท่าไหร่ ทำให้พวกเขานั้นยิ่งติดต่อกับส่วนกลางน้อยเข้าไปใหญ่
“แต่…แต่เจ้าโลกฟู่เทียนท่าน…”
“เฮอะ เจ้าคิดหรือว่าเจ้าโลกฟู่เทียนนั้นสามารถสร้างเต๋าขึ้นมาเป็นเจ้าโลกได้ด้วยเพียงแค่ร่างวิญญาณที่พิเศษ? หากเจ้าโลกมันบรรลุง่ายปานนั้นอาจารย์ข้าก็คงบรรลุไปนานแล้ว!” เฟิงรุ่ยกล่าวขึ้นมาขัด
หยุนหนีนั้นกล่าวขึ้น “เฟิงรุ่ยไม่ได้พูดเกินจริงหรอก ร่างวิญญาณนั้นมันมีอยู่มากมายในแดนวิญญาณอมตะจริงๆ แน่นอนว่าร่างวิญญาณเองมันก็มีทั้งที่แข็งแกร่งและอ่อนแอ ร่างวิญญาณสวรรค์ทรราชของเจ้าโลกฟู่เทียนนั้นนับได้ว่าเป็นสุดยอดร่างวิญญาณหนึ่งเช่นกัน เขาจึงสามารถขึ้นไปได้จนถึงอาณาจักรเจ้าโลก แต่ที่อ่อนแอนั้นมันอาจจะอ่อนแอกว่าร่างวิญญาณสิบรูปทั่วไปด้วยซ้ำ!”
หยุนหนีนั้นไม่พูดอะไรให้มากความเพราะต่อให้พูดไปให้คนทั้งหลายฟังมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา
มันก็แค่เรื่องไกลตัวสำหรับคนทั้งหลายนี้
เป็นเวลานี้เองที่คนทั้งหลายเพิ่งจะได้รู้ว่าร่างวิญญาณพิเศษนั้นมันมีเรื่องราวเช่นนี้ด้วย
เพราะว่าเรื่องของร่างวิญญาณพิเศษนั้นมันอยู่ไกลตัวพวกเขาเหลือเกิน
เรื่องของเจ้าโลกนั้นยิ่งไม่ต้องถามถึง
ในตอนนี้มหาจักรพรรดิล้ำตงหยางนั้นลอบถอนหายใจขึ้นมา ได้ยินเช่นนี้เขาก็ไม่คาดหวังว่าเย่หยวนจะเป็นร่างวิญญาณหมอกหุ้มของจริงอีกต่อไป
พวกเขานั้นรู้แล้วว่าร่างวิญญาณกึ่งอมตะเช่นนี้มันมีมากมาย
“เป็นเช่นนั้นเอง ตงหยางเข้าใจคำสอนแล้ว แต่ว่าจะอย่างไรเย่หยวนก็สังหารผู้มีร่างวิญญาณสิบรูปได้ด้วยแค่มอง ร่างวิญญาณของเขานั้นคงไม่อ่อนแอแล้วใช่หรือไม่?” ตงหยางถามขึ้น
“ฮ่าๆๆ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...