จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2945

“ม…ไม่ดีแล้ว ร่างวิญญาณของข้า…ร่างวิญญาณของข้าทนรับมันไม่ไหวแล้ว…”

“ร…ร้อน! ข้า…ข้าเองก็ทนไม่ไหวแล้ว!”

“ร่างวิญญาณของข้านั้นมันแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อนตั้งเท่าไหร่แล้ว ทำไมข้ายังไม่ไหวอีก?”

ยิ่งเวลาผ่านไปมันก็ยิ่งมีคนที่เริ่มทนไม่ไหวมากขึ้นเรื่อยๆ

ความร้อนของทะเลเพลิงนี้มันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตามเวลาที่ผ่าน

ร่างหมอกของคนทั้งหลายนั้นมันค่อยๆ จางหายลงไป

จนสุดท้ายกลายเป็นความว่างเปล่า

เดิมทีแล้วพวกเขาคิดว่าด้วยคำสอนของเย่หยวนในชั้นแรกกับร่างวิญญาณที่แข็งแกร่งของตนในตอนนี้

มันคงช่วยให้พวกเขาสามารถรอดไปได้

แต่พวกเขานั้นกลับคิดผิดอย่างมหันต์

หวางเฉียนนั้นเองก็ไม่ต่างกัน

เมื่อสัมผัสได้ถึงความร้อนที่เกิดขึ้นมาจากภายในร่างวิญญาณกึ่งอมตะของตน…

ตอนนี้หวางเฉียนเหมือนกลับรู้สึกถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง

เขานั้นคิดใช้ทะเลเพลิงนี้หลอมร่างตัวเอง

แต่มันกลับเปล่าประโยชน์!

ร่างกายของเขานั้นมันอ่อนแอลงไปเรื่อยๆ

เย่หยวนนั้นอยู่ห่างจากเขาไม่มากนักและตัวเขาก็ยังเห็นว่าเย่หยวนนั้นนั่งขมวดคิ้วแน่นอยู่ไม่ไกล

แต่เขาก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนเป็นร่างหมอกเสียที

ทว่าจู่ๆ เย่หยวนก็ขยับตัวพุ่งหายกลายเป็นหมอกไป

เมื่อหวางเฉียนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้ “ฮ่าๆ ทำเป็นลึกลับ! เจ้าคิดหรือว่าเจ้าจะโชคดีได้ทุกครั้งไป? ในรอบแรกนั้นเจ้าก็แค่โชคดีเท่านั้น! ในรอบที่สองนี้เจ้าเสียเวลาคิดไปเป็นครึ่งวันแต่สุดท้ายก็ทำเหมือนพวกเรามิใช่หรือ? มันมีอะไรต่างกันตรงไหนเล่า?”

หวางเฉียนนั้นเข้าใจเรื่องของเจดีย์เจ็ดสีนี้ขึ้นมาไม่น้อย

เขาพอเดาได้แล้วว่าสมบัติสืบทอดในแต่ละรอบมันคงแตกต่างกันไป

แต่หากถามว่ามันแตกต่างกันอย่างไร…นั้นก็คงมีแต่ต้องลองผิดลองถูกเท่านั้นแล้ว

แต่จนตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอทางออก และเย่หยวนเองก็ยังไม่เจอทางเช่นกัน

ในรอบแรกนั้นเขาก็แค่บังเอิญไปเจอทางเข้าเท่านั้นเอง

“อ้าก ร้อนโว้ย! ข้ารู้สึกเหมือนร่างวิญญาณของตนจะเหือดหายไปเลย! เย่หยวน เจ้าเจอหนทางรับมือมันหรือยัง? เฒ่าไป๋คนนี้ขอเรียนรู้จากเจ้าอีกทีเถอะ!” ไป๋ชุยซานร้องลั่นขึ้นมา

หวางเฉียนนั้นยิ้มเย้ยขึ้นมาทันที เจ้าบ้านี่มันยังมียางอายหรือไม่?

“ไป๋ชุยซาน! เจ้าจะอย่างไรก็เป็นยอดอัจฉริยะที่เคยได้รับคำสอนจากบรรพบุรุษท่านมาก่อน นี้คิดจะตามหลังคนอื่นเช่นนี้จริงๆ?” หวางเฉียนกล่าวขึ้น

ไป๋ชุยซานหันไปมองหน้าหวางเฉียนก่อนจะทำเสียงเลียนแบบขึ้น “ช…ช่วยข้าด้วย! เย่หยวน ช…ช่วยข้าด้วย!”

เมื่อหวางเฉียนได้เห็นเช่นนั้นเขาก็ต้องกัดฟันแน่นด้วยใบหน้าดำมืดทันที

นี่มันท่าทางกระดิกหางของเขาในตอนรอบแรกมิใช่หรือ?

นี่มันคือความอับอายชั่วชีวิต!

ไป๋ชุยซานเจ้าบ้านี่กลับเอาเกลือมาลูบแผลใส่เขา!

“ฮ่าๆ ใครกันนะที่มันก้มหัวขอร้องกราบเย่หยวนในรอบแรก? ทำไมหรือ? พริบตาเดียวก็ลืมคุณคนไปแล้วหรือ?” ไป๋ชุยซานร้องลั่นขึ้นมา

หวางเฉียนนั้นเบิกตากว้างอย่างคับแค้นออกมา “ไป๋ชุยซาน! วันนี้หากข้าหวางเฉียนไม่ได้สังหารเจ้าข้าก็มิใช่คนแล้ว!”

หวางเฉียนนั้นระเบิดพลังขึ้นมาทันที!

เขานั้นไม่คิดสนใจใดๆ ปล่อยพลังวิญญาณที่เหลือทั้งหมดเข้ามาปะทะร่างของไป๋ชุยซาน

ไป๋ชุยซานเองก็สะดุ้งตัวขึ้นเช่นกัน

เพราะว่าฝีมือของเขานั้นต่ำกว่าหวางเฉียนไปมาก

การที่หวางเฉียนได้กลายเป็นยอดคนของแดนวิญญาณกลางนั้นมันย่อมจะหมายความว่าเขาคนนี้ไม่ธรรมดา

เมื่อเขาคนนี้คลั่งขึ้นมาไป๋ชุยซานรู้สึกเหมือนมีแรงกดดันกดทับขุนเขาพุ่งเข้ามาหา

ตูม!

พริบตาต่อมาคนทั้งสองก็แลกหมัดกัน

หวางเฉียนนั้นปลิวออกไปพร้อมกระอักรุนแรง

ไป๋ชุยซานนั้นได้แต่ต้องยกมือขึ้นมามองอย่างงงๆ

“อ่าว ทำไมข้าเก่งขนาดนี้ได้?” ไป๋ชุยซานถามขึ้นอย่างมึนงง

“ฮ่าๆ นี่พี่ไป๋ไม่รู้จริงๆ? หรือว่าท่านแค่แกล้งไม่รู้กัน? แม้ว่าร่างวิญญาณของท่านนั้นจะยังไม่สมบูรณ์เท่าของอาจารย์เย่ แต่ว่าท่านนั้นก็สุดจะแข็งแกร่งแล้ว! ส่วนร่างวิญญาณของหวางเฉียนนั้นมันถูกเผาในทะเลเพลิงมานานมากนัก เขาคงมีสภาพใกล้ตายเต็มทีแล้ว ในตอนนี้มีหรือที่เขาจะเอาชนะท่านได้อีก?” ข้างๆ ตัวเขานั้นมีเสียงคนกล่าวขึ้นมา

เมื่อไป๋ชุยซานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ร้องขึ้นมาทันที “ที่แท้มันเป็นเช่นนั้น! ฮิๆ ระหว่างทางมานี้ข้ายังบอกว่าตัวเองจะปกป้องเย่หยวนแต่สุดท้ายพอเข้ามาแล้วกลับเป็นเย่หยวนที่ช่วยเหลือข้าไว้! ฮ่าๆๆ เย่หยวน เจ้าเดาทางรอบนี้ออกหรือยัง? เฒ่าไป๋คนนี้จะรอไม่ไหวแล้ว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ