จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2948

ตอนที่ 2948 เหลิง!

“ข้า…ข้าไม่ไหวแล้ว!” เจิ้งหยูนั้นได้แต่ต้องหันไปยิ้มแห้งๆ ให้เย่หยวน

เขานั้นลองอยู่เกือบครึ่งวันแต่สุดท้ายก็ยังไม่อาจผสานมันเข้าไปได้

จากนั้นมันก็มีอีกหลายคนที่ขอออกมาลองแต่ก็ไม่มีใครสามารถผสานได้

ดูแล้วการผสานคลื่นกำเนิดมันย่อมจะมิใช่เรื่องง่ายสำหรับคนทั้งหลาย

“ข้าขอลองบ้าง!” ไป๋ชุยซานก้าวออกมา

ไม่มีใครสามารถทนความเย้ายวนของคลื่นกำเนิดได้ แน่นอนว่าไป๋ชุยซานก็เช่นกัน

ได้เห็นคนมากมายล้มเหลวเช่นนี้ เขาเองก็อยากจะลองดูบ้าง

แต่เย่หยวนนั้นกลับส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “พี่ไป๋ ท่านเชื่อข้าหรือไม่?”

ไป๋ชุยซานยิ้มตอบกลับไป “ไม่มีเจ้า เย่หยวนมันก็ไม่มีข้าไป๋ชุยซานคนนี้! หากข้าไม่เชื่อเจ้าแล้วจะให้ข้าไปเชื่อใคร?”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “หากท่านเชื่อข้าท่านอย่าหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิด”

ไป๋ชุยซานผงะไปเมื่อได้ยิน “ทำไมเล่า?”

เย่หยวนตอบกลับไป “คลื่นกำเนิดนี้เป็นเหมือนดาบที่คมกริบ แต่ก็เป็นโซ่ตรวนหนาเช่นกัน! แถมท่านนั้นก็ได้รับสมบัติสืบทอดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยแล้ว มันก็ไม่ต้องมาหลอมตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดของท่านอีก และตราบใดที่ท่านเดินตามเส้นทางนี้ไปเรื่อยๆ ความสำเร็จของท่านย่อมจะอยู่เหนือคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้ด้วยซ้ำ! เพราะแท้จริงแล้วแม้แต่ตอนนี้เองท่านก็คงมีพลังเหนือกว่าคนที่ผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดด้วย!”

เย่หยวนนั้นก็ผสานตัวเองเข้ากับคลื่นกำเนิดมาก่อน และคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นก็แตกต่างจากเลือดต้นของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างสิ้นเชิง

เพราะว่าคลื่นกำเนิดจากเลือดต้นนั้นเป็นสิ่งที่บริสุทธิ์อย่างมาก และเกิดขึ้นมาจากความโกลาหลโดยแท้!

มันสุดแสนที่จะบริสุทธิ์!

เย่หยวนจึงสามารถหลอมมันเข้ามาในดาบเต๋าได้อย่างไม่มีผลข้างเคียง!

แต่ว่าคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นมันเต็มไปด้วยเอกลักษณ์

เพราะมันคือเต๋าของเจ้าโลกบู๋เมี่ย

หากผสานเข้ากับคลื่นกำเนิดนี้…

พลังของคนผู้นั้นก็คงพุ่งทะยานไปได้ในทันที

แต่ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าใดมันก็ยากที่จะพัฒนาต่อไปได้ด้วยตัวเอง

เมื่อไปจนถึงระดับคลื่นกำเนิด และคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลกในตอนนั้นมันคงมิใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป!

เย่หยวนนั้นเห็นว่าไป๋ชุยซานนั้นเป็นคนดี แม้ว่าจะชอบขี้โม้อวดตัว แต่เขานั้นก็ซื่อสัตย์ไม่เหมือนใคร

ในรอบแรกเขาเสียเวลามาโน้มน้าวให้เย่หยวนออกไปตามหาคลื่นกำเนิดอยู่นาน

จากนั้นไป๋ชุยซานยังเป็นคนที่สามารถฝึกฝนและเข้าใจเต๋าทั้งหลายในเจดีย์เจ็ดสีนี้ได้มากกว่าใครๆ!

ความสามารถในตอนนี้ของเขามันเหนือกว่าหวางเฉียนไปมากแล้ว!

เพราะฉะนั้นเย่หยวนจึงคิดห้ามเขาไว้

ไป๋ชุยซานนั้นหยุดคิดไปพักหนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับ “ก็ได้ ข้าจะไม่ผสานกับมัน! หากพวกเจ้าคนใดอยากลองก็ลองเลย!”

คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างมองหน้าไป๋ชุยซานเมื่อได้ยิน

เจ้านี่มันบ้าไปแล้ว?

คำพูดเดียวของเย่หยวนนั้นมันกลับทำให้เขาทิ้งคลื่นกำเนิดไป?

ต่อให้มันอาจจะขัดขวางทำให้บรรลุเจ้าโลกยาก

แต่แค่ขึ้นไปเป็นมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์นี้มันก็เป็นสิ่งที่ยอดอัจฉริยะมากมายนับไม่ถ้วนไม่อาจทำได้แล้ว!

คนทั้งหลายในที่นี้ส่วนมากยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์

ไม่รู้ว่าอีกนานเท่าใดกว่าที่พวกเขาจะบรรลุมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์ได้!

แต่เขานั้นกลับไม่อยากได้สมบัติล้ำค่านี้?

แม้ว่าไป๋ชุยซานนั้นจะได้รับความช่วยเหลือจากเย่หยวนมามากก็จริง

แต่ไป๋ชุยซานเองก็เป็นคนโง่ที่กลับเชื่อคำของเย่หยวนไปง่ายๆ อย่างไม่คิดเช่นนี้

คนทั้งหลายเริ่มกระซิบกระซาบกันขึ้นมา

เมื่อหวางเฉียนเห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะขึ้นไม่ได้เช่นกัน

เจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นเป็นผู้ที่เดินนำในเส้นทางของพวกเขาทั้งหลาย!

พวกเขาทั้งหลายนั้นต่างเป็นผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะ

และทำไมคลื่นกำเนิดของเจ้าโลกบู๋เมี่ยนั้นจะสร้างปัญหาหยุดพวกเขาจากการบรรลุเจ้าโลกกัน?

ที่สำคัญไปกว่านั้นมีเพียงแค่เจ้าโลกบู๋เมี่ยเท่านั้นที่สามารถชี้ทางบรรลุเจ้าโลกด้วยร่างวิญญาณกึ่งอมตะนี้

ไม่ว่าคนอื่นนั้นจะเก่งกาจกันแค่ไหนมันก็ไม่เคยมีผู้มีร่างวิญญาณกึ่งอมตะคนใดบรรลุเจ้าโลกได้!

คลื่นกำเนิดนี้เรียกได้ว่าเป็นความหวังที่จะบรรลุเจ้าโลกต่างหาก

โซ่ตรวน?

โง่เง่า!

ไม่นานนักคนทั้งหลายก็เข้ามาลองผสานมันอีกครั้งแต่ก็ไม่มีใครทำได้สำเร็จ!

การผสานคลื่นกำเนิดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากเย็นยิ่ง

ต่อให้มันจะมีคลื่นกำเนิดตกอยู่ตรงหน้าก็ใช้ว่าจะสามารถใช้งานมันได้

“ให้ข้าลองไหม?” หวางเฉียนก้าวขึ้นมาถาม

เมื่อเขาก้าวออกมานั้นมันก็ย่อมจะทำให้เกิดเสียงเยาะเย้ยรอบด้าน

“หวางเฉียน เจ้ายังรู้จักคำว่ายางอายหรือไม่?”

“คนอื่นมีสิทธิ์ลอง แต่ในที่นี้มันมีแค่เจ้านั่นแหละที่ไม่มีสิทธิ์!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ