จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2952

“ร่างวิญญาณหมอกหุ้ม? เจ้ามีดีแค่พูดแต่ไม่มีหลักฐานอะไร เจ้าบอกว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มเช่นนี้

ไม่คิดว่ามันน่าขันบ้างหรือ?” ซานหยางหัวเราะลั่นขึ้น

“เย่หยวน หากเจ้าจะบอกว่ามันมีใครที่มีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง มันก็คงเป็นข้ามากกว่า! เพราะว่าข้านั้นคือ

ผู้ที่ได้ผสานกับคลื่นกำเนิดของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่าน! ที่เจ้าผ่านแต่ละชั้นมาได้ก่อนใครนั้นมันก็แค่เพราะว่าเจ้าหัวดี เรื่องนั้นข้ายอมรับ! แต่เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองมีร่างวิญญาณหมอกหุ้มจริง?” หวางเฉียนนั้นเห็นช่องว่างจึงได้ยื่นหน้าออกมาเย้ยหยันเย่หยวนด้วย

ร่างวิญญาณหมอกหุ้มนั้นมันเป็นสิ่งที่มีแต่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยที่จะมองออก

คนอื่นๆ นั้นต่อให้จะเป็นใครมันก็คงไม่มีทางพิสูจน์ได้ทั้งนั้น!

เพราะฉะนั้นเวลานี้มันจึงเหมาะที่จะลากเย่หยวนลงมาสังหารให้จบๆ ไป!

คิดเย้ยหยันไม่ยอมรับคลื่นกำเนิดตอนนี้คงถูกกรรมตามสนองแล้ว!

หวางเฉียนนั้นรู้สึกสะใจขึ้นอย่างมาก

หญิงชราศิษย์พี่มู่คนนั้นกล่าวขึ้นมาตาม “ที่หวางเฉียนพูดมามันไม่มีอะไรผิด! เจ้าจะพิสูจน์อย่างไรว่าตัวเองนั้นมีร่างวิญญาณอมตะของจริง?”

หยุนหนีนั้นไม่พูดอะไรแต่สายตาของนางนั้นมันเห็นด้วยกับคำถามของคนทั้งหลาย

หากไม่อยากตายก็พิสูจน์มา!

เย่หยวนรู้ดีว่าตอนนี้เวลาที่อันตรายที่สุดมันได้ผ่านไปแล้ว

หยุนหนีนั้นยังให้ค่าเขาสูงมากนัก

“เย่หยวนฝึกตัวในเจดีย์เจ็ดสีแต่ละชั้นจนถึงขั้นสุดได้ก่อนใครเพื่อน! ที่สำคัญไปกว่านั้นเขายังเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใจถึงสมบัติสืบทอดที่บรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านทิ้งไว้ด้วย! ข้าว่าเขานั้นคงเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะอย่างแท้จริง!” ในตอนนั้นเองที่ไป๋ชุยซานก้าวขึ้นมากล่าว

คำพูดนั้นมันออกมาจากส่วนลึกของจิตใจ

“ยังไม่พอ!” หยุนหนีตอบไป

ได้ยินเช่นนั้นหวางเฉียนก็ต้องยิ้มกว้างขึ้นมา ตัวเขานั้นไม่ได้รู้ว่าทำไมหยุนหนีถึงได้เปลี่ยนท่าทีไปเช่นนี้

ตราบเท่าที่เย่หยวนตายลง มันก็ไม่มีอะไรต้องสนอีกแล้ว!

ส่วนเรื่องการพิสูจน์ว่าเย่หยวนนั้นเป็นผู้มีร่างวิญญาณอมตะของจริงหรือไม่มันย่อมจะไม่มีทางทำได้!

“เย่หยวน เว้นเสียแต่ว่าเจ้าจะรู้ที่อยู่ของบรรพบุรุษบู๋เมี่ยท่านเจ้าคงไม่มีทางรอดไปได้แน่!” หวางเฉียนยิ้มกว้างกล่าวขึ้นมา

แต่เย่หยวนนั้นกลับยิ้มกว้างตอบกลับมาพร้อมปล่อยคลื่นพลังวิญญาณออกจากร่าง

คลื่นวิญญาณรุนแรงนั้นกระแทกออกมารอบด้านจนเมฆบนฟ้าแตกกระจาย!

บนท้องฟ้านั้นมันค่อยๆ ปรากฏประตูใหญ่ขึ้นมา

บนประตูหินนั้นมันมีอักษร ‘ไม่ถ้วน’ เขียนไว้อยู่

ภาพนี้มันทำให้เกิดเสียงร้องลั่นขึ้นรอบด้าน

“นั่นมันประตูแห่งชีวานิรันดร์! อาจารย์เย่ช่างเก่งกาจล้ำนัก เรียกมันออกมาได้ง่ายๆ เช่นนี้เลย?”

“หรือว่าอาจารย์เย่คิดใช้การบรรลุมหาจักรพรรดิเป็นเครื่องพิสูจน์?”

“ข้าเองก็คิดว่าอาจารย์เย่คงเป็นร่างวิญญาณอมตะจริงๆ!”

ประตูหินนั้นปรากฏขึ้นบนหัวของเย่หยวนและมีชื่อเรียกว่าประตูแห่งชีวานิรันดร์!

ตราบเท่าที่คนผู้หนึ่งสามารถเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์ลงมาได้

มันก็จะนับว่าคนผู้นั้นบรรลุมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แล้ว!

การฝึกฝนของเหล่ามหาจักรพรรดิครึ่งก้าวนั้นมันก็คือการฝึกฝนเพื่อเรียกประตูแห่งชีวานิรันดร์นี้ออกมา

สำหรับคนอื่นๆ แล้วเรื่องนี้มันสุดแสนยากเย็น

แต่วินาทีที่เย่หยวนปล่อยคลื่นวิญญาณออกมานั้นประตูก็ปรากฏอย่างไม่ยากลำบากใดๆ!

การบ่มเพาะในอาณาจักรมหาจักรพรรดินั้นมันเกี่ยวข้องกับประตูแห่งชีวานิรันดร์อย่างมาก

คำว่า ‘ไม่ถ้วน’ นั้นมันมีสามชั้นสามผนึกหมายถึงมหาจักรพรรดิทั้งสามอาณาจักร!

สามผนึกสามโซ่ตรวน!

หากคิดอยากจะบรรลุเจ้าโลก…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ