จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2975

ตอนที่ 2975 หงส์แดงเก้าตระการ!

“ม…มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? หมัดหงส์เพลิงสวรรค์สังหารเทพกลับถูกป้องกันได้ง่ายๆ เช่นนั้น?”

“เฟิ่งหนิงนั้นเก่งกาจล้ำหัวคนแต่กลับไม่อาจทำอะไรเขาคนนี้ได้เลยหรือ?”

“ต่อให้มันจะผสานเลือดของนังมารนั่นไปแล้วมันก็ไม่น่าเก่งได้ขนาดนี้หรือไม่?”

เหล่ามหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์เผ่าหงส์แดงนั้นต่างต้องอ้าปากค้างเพราะพลังของเย่หยวน

พวกเขานั้นย่อมรู้จักนักยุทธสายเลือดแต่ไม่ว่าจะเป็นนักยุทธสายเลือดที่เก่งกาจแค่ไหนมันก็ไม่มีทางใช้แก่นเลือดที่ได้มาให้แสดงพลังสูงสุดได้

ไม่เช่นนั้นแล้วภูตแท้ทั้งหลายจะยังเอาหน้าไปไว้ที่ใด?

แม้ว่าสายเลือดของเฟิ่งชิงซวนนั้นมันจะอยู่ในระดับสวรรค์แห้งแต่หลังเย่หยวนผสานเข้าร่างไปแล้วมันก็คงมีพลังอย่างมากแค่ระดับเทพศึก

แต่ว่าเฟิ่งหนิงนั้นมีพลังสายเลือดระดับเทพศึกขั้นสุดและเรียกได้ว่าเหนือกว่าเย่หยวนไปขั้นหนึ่งเต็มๆ

ไม่ว่าจะอย่างไรเย่หยวนก็คงไม่มีทางรับมันได้ง่ายดายเช่นนี้แน่

แต่เมื่อเย่หยวนลงมือนั้นมันกลับง่ายดายจนเหมือนแค่พลิกฝ่ามือ!

ตอนนี้เย่หยวนแค่ปล่อยคลื่นพลังสายเลือดหงส์แดงออกมาจากร่างไม่ได้ปล่อยพลังสายเลือดออกมาเต็มที

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “ไม่ตอบโต้ไปหน่อยมันคงเสียมารยาท เจ้าเองก็รับหมัดหงส์เพลิงสวรรค์สังหารเทพไปเถอะ”

พูดจบพลังสายเลือดหงส์แดงก็ปะทุขึ้นมาจากร่างของเย่หยวน

“ระดับขยายปฐพี! มนุษย์คนหนึ่งกลับบ่มเพาะสายเลือดไปถึงระดับขยายปฐพีได้! มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?”

“ข้า…ข้าอยากจะเอาหัวโขกเต้าหู้ให้มันตายๆ ไปเสีย!”

“ช่างเป็นสายเลือดที่รุนแรงนัก ข้า…ข้าอิจฉาเหลือเกิน!”

เมื่อยอดฝีมือเผ่าหงส์แดงได้เห็นพวกเขาก็แทบอยากจะร้องไห้ออกมา

เพราะว่านักยุทธสายเลือดหงส์แดงชาวมนุษย์กลับมีสายเลือดในระดับเดียวกับเฟิ่งจิ่วเกอ!

นี่มันจะน่าหดหู่เกินไปแล้ว!

การพัฒนาสายเลือดนั้นมันเป็นอะไรที่ยากยิ่งพวกเขาทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ต้องมองดูอย่างอิจฉาริษยา

มันมิใช่ว่าเย่หยวนนั้นตั้งใจเก็บพลังไว้ แต่หากเขานั้นปล่อยพลังสายเลือดระดับสวรรค์แห้งออกมา…

ร่างของเฟิ่งหนิงคงไม่อาจจะรับหมัดนี้ได้และตายลงในทันทีแน่นอน

เย่หยวนย่อมจะไม่ได้ใจอ่อนฆ่าสังหารคนไม่เป็น

เพียงแค่ว่าเรื่องราวในวันนี้จะอย่างไรเขาก็เป็นคนนอก

ส่วนเรื่องที่ว่าระหว่างเฟิ่งจิ่วเกอและเฟิ่งชิงซวนนั้นใครถูกใครผิดเขาเองก็ไม่อาจทราบได้แน่ชัด

สงครามอำนาจภายในเช่นนี้มันมิใช่สิ่งที่คนนอกจะเข้าไปยุ่งได้ง่ายๆ

เหตุผลที่เขายังคงยืนหยัดปกป้องเฟิ่งชิงซวนนั้นก็เพราะว่าเขาได้ให้สัญญาไว้แล้ว

เย่หยวนนั้นเป็นคนที่มีกฎของตัวเอง เขานั้นย่อมจะไม่อยากฆ่าคนอย่างไร้เหตุผล

ไม่เช่นนั้นแล้วมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์แค่สิบกว่าคนนี้คงไม่เหลือแม้แต่วิญญาณ

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นย่อมจะไม่อาจเอาชนะตัวเย่หยวนได้แน่นอน

พริบตาต่อมาเย่หยวนก็ต่อยหมัดออกพร้อมด้วยพลังของหมัดหงส์เพลิงสวรรค์สังหารเทพที่เฟิ่งหนิงใช้ออกมา!

เฟิ่งหนิงได้แต่ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างตกตะลึงสุดใจ!

หมัดหงส์เพลิงสวรรค์สังหารเทพนั้นมันเป็นวรยุทธลับของเผ่าหงส์แดง

เจ้าบ้านี่มันรู้ได้อย่างไร?

ที่สำคัญมันยังทรงพลังอย่างมาก!

ตูม!

เฟิ่งหนิงกระอักเลือดออกมาทันทีและลอยลิ่วออกไปนับพันๆ เมตร พร้อมกับเสียงกระดูกหักทั่วทั้งร่าง

มันเป็นท่าทางที่น่าสมเพชอย่างมาก!

แต่ว่าชีวิตของนางนั้นยังไม่มอดดับลง

คนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง

นี่มันผิด!

เดิมทีแล้วพวกเขาทั้งหลายคิดว่ามนุษย์ตัวน้อยคนนี้คงตายลงด้วยหมัดเดียว

แต่ใครจะไปคิดว่าเจ้าเด็กนี่กลับแข็งแกร่งจนไม่อยากจะเชื่อสายตา

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าเย็นเยือก “นอกจากเจ้าจะลอบผสานเลือดเผ่าหงส์แดงแล้ว

เจ้ายังบังอาจลักลอบเรียนวรยุทธของเผ่าหงส์แดงเรา วันนี้ข้าจะขอสังหารเจ้าลงในนามของเผ่าหงส์แดง!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “แม่นางกลับไปเถอะ ข้านั้นไม่อยากจะสังหารคน หลังจากที่แม่นางผู้นั้นจุติสำเร็จแล้วข้าเองก็จะจากไปเช่นกัน ถึงตอนนั้นพวกเจ้าจะไปไล่ล่ากันอีกเท่าไหร่ก็เชิญ”

เฟิ่งจิ่วเกอนั้นยิ้มตอบกลับไป “มาร้องขอชีวิตตอนนี้มันก็สายไปแล้ว!”

เย่หยวนต้องผงะไปทันทีที่ได้ยิน แม่นางคนนี้หูไม่ดีหรืออย่างไร?

‘ข้าขู่ชัดๆ นางฟังอย่างไรมันถึงกลายเป็นคำร้องขอชีวิตกัน?’

แต่เฟิ่งจิ่วเกอนั้นก็ไม่คิดจะพูดอะไรอีกต่อไป

นางปล่อยพลังสายเลือดระดับขยายปฐพีขั้นสุดออกมาพร้อมกลับร่างกลายเป็นหงส์แดง

ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนเฟิ่งจิ่วเกอคนนี้ก็แข็งแกร่งจริง!

เทียบกับเฟิ่งหนิงแล้วนางย่อมแข็งแกร่งกว่ามากนัก

กำลังของนางนั้นไม่ได้มีดีแค่ระดับการบ่มเพาะแต่เป็นพลังรอบด้าน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ