ตอนที่ 2979 แสดงพลัง!
“อะไรนะ? มันมีคนมาท้าขุนเขาที่เผ่ากรุงมังกรเรา?”
“นานแค่ไหนแล้วกันที่ไม่มีใครกล้ามาท้าขุนเขาที่เผ่ากรุงมังกรเรา?”
“เฮอะๆ ชีหยูและต้าอี้สองคนนั้นต่างเป็นตัวตนระดับสูงของอันดับท้าขุนเขา ใครกันมันช่างกล้า?”
“ไป! ไปดูกันเถอะ! ข้าสงสัยเหลือเกินว่ามันเป็นใคร!”
…
เมื่อมีคนมาท้าขุนเขามันย่อมจะทำให้ทั้งเผ่ากรุงมังกรนั้นแตกตื่นไปตามๆ กัน
ท้าขุนเขานั้นมันเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันทั่วสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่าง
หากคิดอยากไปถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะของเผ่าใด วิธีนี้มันก็เรียกได้ว่าเป็นทางลัด
เพราะฉะนั้นเผ่าต่างๆ จึงย่อมส่งคนหนุ่มสาวของตัวเองออกไปท้าขุนเขาตามที่ต่างๆ มากมาย
มันจึงถือว่าเป็นการแข่งขันของคนรุ่นใหม่
โดยจะตัดสินว่าใครเหนือใครต่ำกว่ากัน และยังเป็นการฝึกฝนตัวอีก
มันจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าอันดับท้าขุนเขาขึ้นมา
แดนตรังค์ตะวันออกนั้นมันเป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลแน่นอนว่ายอดฝีมือมันย่อมจะมีมากมายไม่อาจนับ
คนที่ติดห้าร้อยอันดับท้าขุนเขาได้นั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นยอดฝีมือที่ทรงพลังอย่างยิ่ง
เผ่ากรุงมังกรนั้นมีชีหยูและต้าอี้สองคนที่ติดหนึ่งร้อยอันดับแรก
แน่นอนว่าฝีมือของพวกเขานั้นมันทรงพลังอย่างมาก
แต่ว่าแค่คนอย่างเย่หยวนนี้ชีหยูและต้าอี้ย่อมจะไม่ลงมาจัดการเอง
เผ่ากรุงมังกรนั้นมันเป็นเผ่าใหญ่ มันย่อมจะไม่ได้มีผู้ท้าขุนเขาแค่สองคนเท่านั้น
“มันกลับเป็นนักยุทธสายเลือด! ไอ้หนู มาจากทางไหนก็กลับไปทางนั้น! อย่าได้มาทำเรื่องขายหน้าให้ตัวเองเลย!”
“ฮ่าๆๆ นักยุทธสายเลือดมันกลับคิดอยากจะเข้าเกาะมังกรสวรรค์! ไอ้หนู เจ้าหลงตัวเองไปแล้ว!”
“มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นกลางก็กล้ามาท้าเผ่ากรุงมังกรเรา ไอ้เด็กนี่มันสติไม่ดีหรือ?”
…
เสียงร้องเย้ยหยันดังขึ้นจากรอบด้าน
นักยุทธสายเลือดนั้นมันเป็นตัวตนที่ถูกดูถูกจากเผ่าภูตแท้ทั้งหลาย
แต่ว่าพวกเขาทั้งหลายเองก็จะมอบเลือดออกไปให้มนุษย์เช่นกันเพื่อที่จะได้มีทาสที่จงรักภักดีแก่ตัวเอง
ยามเฝ้าหน้าเผ่าคนนั้นเองก็เป็นเช่นนี้
แน่นอนว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานวันการทำเช่นนั้นย่อมทำให้นักยุทธสายเลือดแทบทั้งหมดมีสถานะเป็นแค่คนรับใช้
“เฮอะ ไอ้เด็กมนุษย์มันก็กล้ามาท้าขุนเขาที่เผ่ากรุงมังกรเราหรือ เจ้ามันช่างกล้าดีจริงๆ!” คนที่กล่าวขึ้นมานั้นก็คืออานชาน
เขาเองก็เป็นคนที่ติดอันดับท้าขุนเขาอยู่ที่อันดับสี่ร้อยกว่าๆ เป็นถึงมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นสุด
อันดับสี่ร้อยกว่าๆ นั้นมันถือว่าไม่อ่อนแอแล้ว
คนที่ติดห้าร้อยอันดับแรกได้นั้นมันไม่ได้มีฝีมือต่างกันมากมายนัก
สายเลือดของพวกเขา พลังบ่มเพาะของพวกเขา ฝีมือการต่อสู้ของพวกเขานั้นมันสามารถเทียบเคียงกันได้
และเย่หยวนนั้นเป็นแค่เด็กน้อยไม่รู้จักโลกที่เพิ่งมาท้าขุนเขาครั้งแรก
แน่นอนว่าย่อมจะยังไม่ติดอยู่บนอันดับท้าขุนเขา
แค่มีสายเลือดสูงส่งนั้นมันไม่พอ
เย่หยวนหันไปมองหน้างูเหลือมยักษ์ตรงหน้าและส่ายหัวออกมา “เจ้าไม่ได้ เจ้ามันอ่อนแอไป! เผ่ากรุงมังกรไม่มีใครเก่งกว่านี้แล้วหรือ?”
เมื่ออานชานได้ยินเช่นนั้นเขาก็ต้องร้องลั่นขึ้นอย่างคับแค้นใจ “ไอ้หนู เจ้าท้าขุนเขาเช่นนี้ เจ้าจะได้ตายเข้าแน่นอน เข้าใจหรือไม่?!”
เย่หยวนนั้นส่ายหัวตอบกลับไป “คนอ่อนแออย่างเจ้านั้นต่างหากที่จะตาย!”
คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปทันที เจ้าเด็กบ้านี่มันโผล่มาจากไหนทำไมถึงได้โอหังขนาดนี้?
คนอื่นๆ เวลาท้าขุนเขานั้นพวกเขาย่อมจะเริ่มจากเผ่าที่อ่อนแอก่อนแล้วค่อยไต่ระดับขึ้นมา
แต่เจ้าเด็กบ้าหัวร้อนนี่กลับมาท้าทายเผ่ากรุงมังกรที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นอันดับแรก
เพราะในเผ่ากรุงมังกรนั้นมันมียอดฝีมือผู้ท้าขุนเขาที่ติดห้าร้อยอันดับแรกอยู่มากถึงเจ็ดคน!
อานชานนั้นหรี่ตาลงกล่าวอย่างเย็นเยือก “เริ่มเถอะ! ข้ารอที่จะสังหารเจ้าลงไม่ไหวแล้ว!”
เย่หยวนเองก็ไม่รอช้าปล่อยสายเลือดมังกรออกมาพร้อมตรามังกร
อานชานเองก็ปล่อยตรามังกรออกมาเช่นกัน
คนทั้งสองนั้นต่างฝ่ายต่างรับตรามังกรของกันและกันไป ถือว่าเป็นอันเสร็จพิธี
ท้าขุนเขานั้นมันเป็นการต่อสู้ที่ห้ามคนนอกเข้ายุ่งเกี่ยว
หากเผ่าใดคิดลอบทำร้ายผู้ท้าขุนเขาระหว่างต่อสู้พวกเขาก็จะถูกเผ่าอื่นรุมคว่ำบาตรทันที
พิธีนี้มันคือการแสดงความยินยอมถึงผลการต่อสู้
ผู้ชนะนั้นจะได้รับตราของผู้แพ้ไป แลกกับตราของตนเอง
เมื่อพิธีจบลงแล้วอานชานก็อ้าปากกว้างพุ่งตัวใส่เย่หยวนทันที
“กลืนสวรรค์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...