ตอนที่ 2981 ความคมที่ไม่อาจปิดซ่อน!
“ไอ้หนู ที่ข้าแพ้เจ้ามันมิใช่เพราะข้าอ่อนแอกว่าแต่เป็นเพราะข้านั้นประมาทศัตรูเกินไปเท่านั้น!” ต้าอี้ร้องกล่าวขึ้นมาอย่างไม่คิดยอมรับความพ่ายแพ้
ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนก็ไม่คิดจะแก้ตัวและยิ้มตอบกลับไป
เพราะว่าคำแก้ตัวเช่นนี้มันช่างดูไร้ค่าไร้ความหมายสิ้นดี
แพ้ก็คือแพ้ ชนะก็คือชนะ
หากเหตุผลข้ออ้างหลังจากแพ้ลงไปแล้วมันย่อมจะมิใช่สิ่งที่ผู้แข็งแกร่งทำ
ได้เห็นรอยยิ้มนั้นของเย่หยวนตัวต้าอี้ก็ยิ่งต้องกัดฟันแน่นอย่างคับแค้นใจ
ในกลุ่มฝูงชนนั้นมันได้เกิดเสียงของชายแก่คนหนึ่งดังขึ้นมา “ต้าอี้! แพ้ก็คือแพ้ เลิกทำท่าทางเหมือนสุนัขขี้แพ้ให้อับอายชาวบ้านเขาเสียที เจ้าคิดว่าสภาพตัวเองตอนนี้มันยังน่าสมเพชไม่พอหรือ?”
ต้าอี้หน้าถอดสีลงก่อนจะหันไปก้มหัวให้งูแก่คนนั้น “ขอรับผู้ใหญ่!”
เย่หยวนที่ได้ยินก็ต้องผงะไปเช่นกันเพราะเขาก็ไม่นึกฝันว่างูแก่ที่ดูไม่มีพิษมีภัยคนนี้กลับจะเป็นผู้ใหญ่ของ เผ่างูหลามกลืนสวรรค์!
ชายแก่นั้นกล่าวขึ้นมา “ชีหยู เข้าขึ้นสังเวียนไปเล่นกับมันหน่อย! เจ้าเด็กนี่ไม่ธรรมดา เจ้าอย่าได้ประมาท”
ด้านหลังชายแก่นั้นมันปรากฏร่างของงูหลามกลืนสวรรค์ตัวหนึ่งเลื้อยออกมากล่าวรับ “ขอรับผู้ใหญ่”
ได้เห็นเช่นนี้คนทั้งหลายก็แตกตื่นไปทันที
“ชีหยูจะลงสนามแล้ว!”
“ผู้ท้าขุนเขาอันดับยี่สิบเอ็ด หากเจ้าเด็กนี่มันยังเอาชนะได้อีกพ่อเจ้าจะไปกลืนเขาลูกนั้นให้ดู!”
“ท่านชีหยูนั้นฝึกฝนตัวในศาสตร์ห้วงมิติอย่างสุดชีวิต ตอนนี้มันคงไปถึงระดับสมบูรณ์แบบแล้ว! ผู้ใหญ่ท่านเคยบอกไว้ว่าท่านชีหยูนั้นวันหน้าอาจจะก้าวขึ้นถึงอาณาจักรเจ้าโลกก็เป็นได้ด้วยเต๋านี้เพียงอย่างเดียว!”
“เหตุผลเดียวที่ท่านชีหยูยังติดอยู่ที่อันดับยี่สิบเอ็ดนั้นมันเป็นเพราะว่าสายเลือดของท่านยังไม่ทรงพลังพอเท่านั้น มันเป็นแค่สายเลือดระดับขยายปฐพีขั้นต้น ไม่เช่นนั้นแล้วตัวท่านคงติดสามอันดับแรกได้ไม่ยากแน่!”
…
ชีหยูเดินมาหยุดลงตรงหน้าเย่หยวนด้วยท่าทางแสนสงบนิ่ง
ราวกับว่าความพ่ายแพ้ก่อนหน้านั้นมันไม่ได้ส่งผลอะไรกับเขาเลย
ชีหยูคนนี้แตกต่างจากต้าอี้ไปมาก เขานั้นมีท่าทางเหมือนขุนเขาที่หนักแน่นไม่หวั่นไหวต่อสิ่งใด
มันเป็นท่าทางที่ดูคล้ายเย่หยวนไม่น้อย
“เขาคนนี้ไม่ธรรมดา เจ้าต้องระวังตัวให้ดี!” เฟิ่งชิงซวนนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยใบหน้าแดงน้อยๆ
เพราะคำพูดของนางนั้นบอกว่าเย่หยวนไม่มีปัญญาเอาชนะต้าอี้แต่สุดท้ายตัวนางก็ต้องถูกตบหน้าเข้าอย่างจัง
วินาทีที่เย่หยวนลงมือต้าอี้ก็ไม่เหลือโอกาสที่จะเอาชนะใดๆ ได้อีก มันเป็นเรื่องน่าอายอย่างมาก!
แต่ตอนนี้นางเตือนด้วยความหวังดีจริงๆ
เพราะแม้จะไม่ต้องเตือนเย่หยวนเองก็มองเห็นชัดเจนแล้วว่าศัตรูคนนี้ไม่ธรรมดา
ศัตรูที่เย่อหยิ่งประมาทเลินเล่อต่อให้จะเก่งแค่ไหนมันก็ไม่ต้องกังวลให้มากมาย
สิ่งที่น่ากลัวนั้นคือศัตรูที่ระมัดระวังตัวไม่คิดประมาทใครต่างหาก
เย่หยวนมองดูชีหยูตั้งแต่หัวจรดเท้า
ตัวชีหยูเองก็มองดูเย่หยวนเช่นกันและกล่าวขึ้นมา “เจ้าเก่ง! ข้าสัมผัสได้ถึงกฎห้วงมิติจากตัวเจ้า! ดูท่าแล้วสิ่งที่เจ้าถนัดจริงๆ มันคงจะเป็นวิชาห้วงมิติ! แต่ว่าพลังบ่มเพาะของเจ้านั้นยังอ่อนแอมาก มันถือว่าเสียเปรียบนัก”
ได้ยินเช่นนั้นเย่หยวนก็ต้องเบิกตากว้างขึ้นทันที
ชีหยูผู้นี้มีสายตาที่เฉียบคมเกินไปหรือไม่?
เพราะตอนนี้เย่หยวนนั้นกำลังเก็บงำพลังไว้ภายในและไม่ได้ใช้วิชาห้วงมิติใดๆ ออกมาก่อนหน้าเลย
แต่เขาคนนี้กลับมองออก!
ชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายนั้นมีกฎห้วงมิติที่เหนือล้ำเช่นกัน!
งูหลามกลืนสวรรค์นั้นเป็นเผ่าที่เรียกได้ว่าสืบทอดพลังด้านห้วงมิติออกมาจากเผ่ามังกรอย่างสมบูรณ์แบบ
เพียงแค่ว่าการใช้งานห้วงมิติออกมานั้นส่วนมากแล้วจะเป็นการทำโดยสัญชาตญาณจึงมีคนที่ควบคุมมันได้ จริงๆ แค่ไม่กี่คน
ช่องว่างนี้มันเป็นช่องว่างที่กว้างใหญ่อย่างมาก
เย่หยวนนั้นมีวิชาที่หลากหลายแต่สำหรับการท้าขุนเขานี้แล้วเขาย่อมจะใช้ได้แต่วิชาของเผ่ามังกรเท่านั้น
ไม่เช่นนั้นแล้วต่อให้เขาจะเอาชนะได้อย่างเหนือล้ำแค่ไหนเกาะมังกรสวรรค์ก็คงไม่คิดต้อนรับเขาเช่นกัน
เพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นมันคือยอดอัจฉริยะเผ่ามังกร มิใช่ยอดอัจฉริยะเผ่ามนุษย์
เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “สายเลือดของเจ้านั้นมันก็ยังต่ำไปมาก เราถือว่าเสมอกัน”
ชีหยูยิ้มตอบกลับไป “เอาล่ะ เช่นนั้น…มาเริ่มกันเถอะ”
เย่หยวนพยักหน้ารับและส่งตรามังกรออกไป
สายเลือดนั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญต่อภูตแท้อย่างมาก
หากสายเลือดอยู่ในระดับสูงกว่าแล้วพลังของวิชาใดๆ ที่ใช้ออกมามันก็จะทรงพลังมากกว่าไปด้วย
ฟุบ!
พริบตาที่คนทั้งสองแลกตรากันแล้วเสร็จชีหยูก็หายไปทันที
“ดาบภูตมิติ! กระบวนท่าของแรกของท่านชีหยูมันกลับเป็นท่าสังหารทันที!”
“ท่านชีหยูนั้นเคยใช้กระบวนท่านี้เอาชนะเมิ่งจ้าวอันดับที่ยี่สิบเก้ามาก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ
DDD...