จอมเทพโอสถ นิยาย บท 2990

ตอนที่ 2990 จลาจลคุกน้ำ!

เมื่อออกจากคุกมาและหลบเข้าซอกมิติไป

เย่หยวนก็สามารถหลบเลี่ยงพลังของค่ายกลทั้งหลายได้ไม่ยากและมุ่งหน้าเข้าทางเดินของคุกน้ำ

ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้นเย่หยวนก็พอจะจับโครงสร้างของคุกน้ำนี้ได้

แต่เย่หยวนเองก็ไม่กล้าเข้าไปลึกนัก

เพราะว่าในที่แห่งนี้มันมียอดฝีมืออยู่มากมาย ไม่รู้ว่าจะมีใครที่เก่งกาจเชี่ยวชาญกฎห้วงมิติบ้างหรือไม่

แถมมันยังมีคลื่นเผ่าเลือดอยู่อีกไม่น้อย

ดูท่าแล้วบนเกาะมังกรเลือดนี้มันคงเต็มไปด้วยยอดฝีมือจริงๆ

ที่สุดทางเดินของคุกนั้นมันจะมีห้องลับตั้งอยู่มากมายพร้อมเสียงกรีดร้องดังขึ้นจากภายใน

เย่หยวนนั้นเห็นว่ามีคนมากมายถูกลากเข้าไปในห้องเช่นนั้นก่อนที่ไม่นานจะเกิดเสียงกรีดร้องขึ้นมา

ดูท่าแล้วคนทั้งหลายนั้นคงเป็นหนูทดลอง

ได้เห็นเช่นนั้นเย่หยวนก็รู้สึกถึงจิตสังหารที่พลุ่งพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

แต่เขานั้นก็ฝืนกดดันไว้

เพราะหากพลาดไปเพียงนิดแผนนี้คงกลายเป็นหายนะแน่แล้ว

เย่หยวนนั้นอยากจะรู้เรื่องภายในจึงควบคุมอารมณ์ของตัวเองและเงี่ยหูฟังในห้อง

หลังผ่านมาได้หลายชั่วโมงเย่หยวนก็เห็นว่าในคุกมันเริ่มจะมีคนเดินไปมามากขึ้น

“ข้าไม่นึกเลยว่าผลึกแปลงโลหิตชุดแรกของรอบนี้มันจะเสร็จเร็วกว่าที่คาดไว้ มีเรื่องให้ต้องเหนื่อยอีกแล้ว!”

“ข้าได้ยินมาว่าพวกคนท้าขุนเขาในฤดูกาลนี้เก่งกาจกันไม่น้อย มันมีมนุษย์ที่มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้งและยังมีเด็กเผ่าหงส์แดงที่มีสายเลือดระดับสวรรค์แห้งติดมาด้วยอีกคน!”

“บางทีเบื้องบนคงจะใช้ผลึกแปลงโลหิตในรอบนี้กับพวกมันแน่แล้ว พวกเจ้าไปเตรียมห้องลับไว้ อีกครึ่งวันไปลากตัวพวกมันออกมา”

“ขอรับ!”

เย่หยวนที่นั่งฟังอยู่ในห้วงมิตินั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย

พวกเขากลับจะลงมือกันรวดเร็วปานนั้น?

เช่นนั้นพวกเขาจะยังเหลือเวลามารอผู้อาวุโสหลงหรานทั้งหลายอีกหรือ?

นี่มันเป็นปัญหาแล้ว!

“ให้ตายสิ! มีเวลาแค่ครึ่งวัน นี่มันเรื่องใหญ่แล้ว!”

เย่หยวนนั้นร้อนรุ่มไปทั้งใจและพุ่งตัวกลับไปอย่างไม่เหลียวกลับอีก

เมื่อเขาเดินผ่านคุกน้ำทั้งหลายเขาก็ต้องหยุดมองกรงขังหนึ่งและกล่าวขึ้นด้วยดวงตาเป็นประกาย “ในเมื่อรอไม่ได้มันก็คงมีแต่ต้องลงมือเองแล้ว!”

เย่หยวนวิ่งกลับไปพร้อมด้วยแผนในใจก่อนจะกลับมาถึงกรงขังของตัวเองอย่างรวดเร็ว

เมื่อคนทั้งสิบได้เห็นเย่หยวนกลับมาพวกเขาก็ต้องอ้าปากขึ้นแทบพร้อมๆ กัน

“อย่าเพิ่งถาม! ฟังก่อน!” เย่หยวนพูดขัดขึ้น

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องหุบปากลงไป

เย่หยวนกล่าวขึ้น “ตอนนี้ไอ้เจ้าผลึกแปลงโลหิตนั้นมันสำเร็จลงแล้ว พวกมันจะมาจัดการเราในไม่ช้า ตอนนี้พวกเราคงไม่เหลือเวลาพอจะรอพวกผู้อาวุโสหลงหรานแล้ว! ตอนนี้เรามีแต่ต้องจัดการกันเอง!”

เมื่อได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็แสดงสีหน้าสิ้นหวังออกมา

หลงยี่ยิ้มแห้งๆ ถามขึ้น “จัดการเอง? แค่พวกเราเนี่ยนะ?”

เย่หยวนส่ายหัวตอบกลับไป “แน่นอนว่ามิใช่แค่พวกเรา! ในคุกน้ำนี้มันยังมีนักโทษอีกเป็นหมื่นๆ! และอ่อนแอที่สุดก็ยังเป็นถึงจักรพรรดิเที่ยง! หากเราปล่อยพวกเขาออกมาทั้งหมดมันคงพอจะต่อสู้ตอบโต้กลับไปได้บ้าง!”

ชีหยูกล่าวขึ้นมาแทรก “แต่เจ้าโลกเล่าจะทำอย่างไร? ที่สำคัญไปกว่านั้นดูท่าแล้วคนที่ถูกจับไว้ในคุกน้ำนี้มันแทบไม่มีมหาจักรพรรดิพ้นสวรรค์เลยใช่ไหม? แค่กองกำลังเท่านี้มันไม่พอจะรับฝ่ามือเดียวของเจ้าโลกเสียด้วยซ้ำไป!”

เย่หยวนหันหน้ากลับไปมองกรงขังหนึ่งไกลออกไป

คนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นก็ต้องหันไปมองตาม

จ้าวเยว่!

หลงยี่นั้นเบิกตากว้างร้องขึ้นมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตา “จ…เจ้าจะบ้าหรือ? หากเราปล่อยมันออกมาแล้วคนที่จะตายก่อนก็คงเป็นเรา!”

“ไม่มีทาง! ไม่ได้! มันเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว ไม่มีความคิดความอ่านใดๆ รู้จักแต่ฆ่า!”

“เย่หยวน หยุดเลยนะ! เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นมันมีพลังถึงอาณาจักรเจ้าโลก หากมันออกมาได้แล้วทั้งคุกน้ำคงได้กลายเป็นคุกเลือดแน่!”

คนทั้งหลายนั้นต่างกลัวจ้าวเยว่ด้วยสัญชาตญาณ

ความรู้สึกกลัวนี้มันเหมือนที่คนกลัวสัตว์ป่า

มันไม่คิดรับฟังเหตุผลหรือคำพูดใดๆ มีแต่อารมณ์อยากจะฆ่าเท่านั้น

การปล่อยให้สัตว์ร้ายเช่นนี้ออกมามันจะไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือ?

เย่หยวนจึงถามคนทั้งหลายกลับไป “พวกเจ้ามีแผนอื่นที่ดีกว่านี้? พูดราวกับว่าหากไม่ปล่อยเขาออกมาแล้วพวกเราจะไม่ตายอย่างนั้น”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ