จอมเทพโอสถ นิยาย บท 3010

ตอนที่ 3010 แผนของเผ่าเลือด!

“ท…ทำไมกัน?” หมี่เจิ้นกล่าวถามขึ้นอย่างเจ็บใจ

เฉียเอ้อนั้นตอบกลับไป “เหตุผลง่ายๆ เพราะว่าตอนนี้เจ้าหมดประโยชน์แล้ว แทนที่จะเสียแรงไปเอาแก่นเลือดจากร่างมัน ข้าเอาแก่นเลือดจากร่างเจ้ามาจะง่ายกว่านัก”

ตอนนี้ในมือของเฉียเอ้อนั้นมันมีก้อนเลือดทรงพลังลอยอยู่

นี่คือแก่นเลือดของหมี่เจิ้น!

พริบตาที่ผ่านมานี้เฉียเอ้อได้โจมตีหมี่เจิ้นและดูดเอาแก่นเลือดในร่างของเขาออกมากว่าครึ่งในคราเดียว

“ข้า…ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!” หมี่เจิ้นนั้นคับแค้นสุดหัวใจ

แต่เขานั้นก็ไม่อาจจะขยับตัวได้แล้ว

เฉียเอ้อนั้นไม่คิดเกรงกลัวความแค้นของหมี่เจิ้นและหันไปพูดกับหมี่เทียนด้วยรอยยิ้มแทน “ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าจะอยู่กับไอ้เด็กนั่นมาตลอด! ไอ้เด็กนี่มันเป็นหายนะของข้าจริงๆ ทำเรื่องข้าเสียแผนมาหลายครั้งและสุดท้ายครั้งนี้ก็พลาดเพราะมือของมันอีก!”

หมี่เทียนขมวดคิ้วแน่นกล่าวขึ้น “หากมิใช่เพราะเจ้าลงมือกับเขาในสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดข้าเองก็คงยังไม่รู้เรื่องราวจนถึงตอนนี้ ข้าเองก็ไม่คิดฝันว่าร่างแยกของเจ้าบนสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างมันจะตื่นขึ้นมานานแสนนานแล้ว! ดูท่าแผนของเจ้านั้นคงเริ่มจากสวรรค์ของข้าเป็นที่แรกๆ แน่!”

เฉียเอ้อนั้นยิ้มตอบกลับไป “สวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างนั้นมันเป็นฐานหลักของสี่เผ่าภูตแท้สี่ทิศ ข้านั้นได้เลือดของสามเผ่าที่เหลือมาแล้ว เหลือแค่เผ่ามังกรเจ้าเป็นเป้าหมายสุดท้ายเท่านั้น ไม่นึกเลยว่าสุดท้ายข้าจะต้องมาเสียแผนเพราะไอ้เด็กเวรนี่อีกจนได้ ครั้งนี้ข้าอยากจะสังหารมันลงเสียจริงๆ แล้ว!”

หมี่เทียนหรี่ตาลงทันทีที่ได้ยิน สามจากสี่เผ่า!

มันหมายความว่าอีกสามเผ่าที่เหลือนั้นตกอยู่ในมือของศัตรูไปแล้ว!

ใช่แล้ว เฉียเอ้อนั้นมันก็คือร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหลอย่างไม่ต้องสงสัย!

แน่นอนว่าเขายังเป็นหนึ่งในมือสังหารที่ลงมือสังหารหมี่เทียนด้วย

มันหมายความว่าเฉียเอ้อคนนี้ได้สติตื่นขึ้นมานับแสนๆ ปีแล้วแน่นอน

เขานั้นวางแผนอย่างแยบยลทำให้ทั้งสวรรค์ศาลโมฆะส่องสว่างตกอยู่ในกำมือของตน

เดิมทีแล้วหมี่เทียนยังไม่รู้ถึงตัวตนของเฉียเอ้อจนเขาได้ไปเจอกับร่างแยกศิลาโลหิตโกลาหลบนสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดนั้นที่คิดสังหารเย่หยวนทำให้เขาได้นึกออกในที่สุด

คลื่นพลังของคนที่วางแผนสังหารเขานั้นมันช่างเหมือนกับศิลาโลหิตโกลาหลนี้!

แต่เช่นนั้นทุกอย่างมันก็ดูสมเหตุสมผลขึ้นมาทันที

หมี่เจิ้นนั้นสมคบคิดกับเฉียเอ้อ ขายเขาให้ศัตรู

แต่หมี่เจิ้นนั้นไม่ได้รู้เลยว่าคนที่เขาร่วมมือด้วยนั้นมันเป็นวายร้ายที่ทรงพลังแค่ไหน!

เฉียเอ้อนั้นเป็นแค่ร่างแยกของศิลาโลหิตโกลาหล!

ขนาดร่างแยกยังมีพลังระดับล้ำสวรรค์ได้ เช่นนั้นแล้วร่างจริงจะทรงพลังแค่ไหน!

บางทีแล้วเขาอาจจะใกล้เปิดประตูแห่งชีวานิรันดร์ได้เต็มที!

“เจ้าลืมเรื่องนั้นไปได้เลย! ต่อให้ข้าต้องแลกชีวิตกับเจ้าวันนี้ข้าก็จะไม่มีวันปล่อยให้เจ้าเข้าถึงเย่หยวน!”

หมี่เทียนประกาศกร้าวขึ้น

เฉียเอ้อยิ้มตอบกลับมา “เจ้าไม่ต้องเครียดขนาดนั้นหรอก ให้พูดตรงๆ ข้าอยากจะสังหารมันลงจริงๆ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เจ้ารู้ไว้เถอะว่าวันนั้นมันใกล้จะมาถึงเต็มทีแล้ว ที่สำคัญไปกว่านั้นข้ายังได้เลือดของสี่เผ่าสี่ทิศของพวกเจ้ามาแล้วด้วย สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้คือนำเลือดทั้งสี่เผ่านี้กลับไปให้คลื่นกำเนิดร่างต้นของข้าบรรลุขั้นสุด!”

หมี่เทียนนั้นจ้องมองอีกฝ่ายด้วยจิตสังหารหนักหน่วง

เฉียเอ้อยิ้มขึ้น “ทำไม? เจ้าคิดจะสู้กันจริงๆ? เจ้าน่าจะรู้นะว่าข้าเองก็ได้ประโยชน์จากตัวหมี่เจิ้นมาไม่น้อย

ตอนนี้ข้าไม่ได้มีพลังเท่าตอนที่ข้าสังหารเจ้าหรอก! ข้ารู้ว่าเจ้าเองก็พัฒนาขึ้นไปมากแต่อย่างมากเราก็คงแค่เสมอกัน

เจ้ารั้งข้าไว้ไม่ได้ เอาล่ะ ไว้คุยกันใหม่วันหน้า ข้าขอปล่อยให้พี่น้องเจ้าได้พูดคุยกันต่อแล้ว ลาก่อน”

พูดจบเฉียเอ้อนั้นก็หายตัวไปทันที

หมี่เทียนนั้นไม่ขยับและไม่กล้าจะลงมือต่ออีกฝ่ายจริงๆ

เพราะแค่ร่างแยกยังทรงพลังขนาดนี้ หมี่เทียนไม่อาจจะจินตนาการได้เลยว่าร่างจริงของศิลาโลหิตโกลาหลนั้นมันจะทรงพลังแค่ไหน!

“พวกเจ้าพูด…เรื่องอะไรกัน?” หมี่เจิ้นถามขึ้นมาด้วยเสียงเบาๆ ใกล้หมดลม

หมี่เทียนหันไปมองและถอนหายใจยาว

เจ้าบ้านี่มันโง่เง่าอย่างไร้ที่สิ้นสุด!

เขานั้นเล่าเรื่องราวของศิลาโลหิตโกลาหลออกมาให้หมี่เจิ้นฟังจนเขานั้นต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายและวิญญาณ

ตอนนี้ความอับอายและความคับแค้นสุมขึ้นในใจของเขา

หมี่เจิ้นนั้นเป็นคนไม่ยอมคน

แน่นอนว่าเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองเป็นแค่หมากในกระดานของคนอื่นเช่นนี้มานานนับแสนๆ ปี

เขาย่อมแทบอยากจะปลิดชีวิตตัวเองทิ้งให้มันสิ้นๆ ไป

“พี่ข้า ข้า…ข้าผิดไปแล้ว!”

ผู้ปกครองสวรรค์ เจ้าโลกล้ำสวรรค์คนนี้กลับร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กน้อยคนหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ