จอมเทพโอสถ นิยาย บท 3012

สรุปบท ตอนที่ 3012 ประชันกำลัง!: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 3012 ประชันกำลัง! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3012 ประชันกำลัง! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายก็ต้องผงะไป

ไม่สนใจ?

นี่มันคือการหลบเลี่ยงอย่างขี้ขลาดแท้ๆ!

ก็ถูกที่คนฉลาดจะไม่สู้เมื่อไม่มีโอกาสชนะ!

แต่ว่าหลงเหอนั้นย่อมจะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไปพุ่งตัวเข้าไปขวางทางเย่หยวนไว้ “เจ้าบอกว่าไม่สนใจเจ้าก็ไม่สนใจแล้ว?”

เย่หยวนได้แต่ต้องหัวเราะถามกลับไป “เช่นนั้นเจ้ายังจะอยากได้อะไรจากข้าอีก?”

หลงเหอตอบกลับไป “หากเจ้ายอมก้มหัวคุกเข่าต่อหน้าพวกเราทั้งเก้าและสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการประลองนายน้อย เราจะยอมเชื่อให้!”

หากเขาก้มหัวคุกเข่าลงต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้แล้วเมื่อถึงเวลาหากบรรพบุรุษท่านคิดแต่งตั้งเย่หยวนอีก

ตัวเย่หยวนนี้ก็คงไม่มีทางหน้าด้านขึ้นรับตำแหน่งแน่

การกระทำของพวกหลงเหอนั้นมันทำให้เย่หยวนต้องถอนหายใจยาว

เพราะสภาพการกระทำนี้มันเหมือนเด็กน้อยที่อายุเพิ่งจะก้าวขึ้นเลขสิบมา

ไม่ว่าอย่างไรพวกเขานั้นก็เป็นถึงมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์

ต่อให้จะอยากแย่งตำแหน่งนายน้อยกันแค่ไหน มันก็ควรจะใช้กำลัง ใช้ฝีมือ ใช้ความสามารถ

แต่บางครั้งบางทีต่อหน้าผลประโยชน์ คนเราก็โง่ลงไปได้มาก

ตำแหน่งนายน้อยนั้นมันเป็นตำแหน่งที่จะให้ผลประโยชน์อย่างมากล้นจนเกินนับ!

ไม่มีใครไม่อยากขึ้นไป

หลงเหอและพวกนั้นไม่ได้คิดดูถูกเย่หยวน

กลับกันพวกเขานั้นต่างเกรงกลัวเย่หยวนกันสิ้น จึงได้คิดลงมือเช่นนี้แต่เนิ่นๆ

เย่หยวนในตอนนี้ยังเป็นแค่มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ มันยังพอกดหัวได้

แต่หากวันไหนเย่หยวนบรรลุมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขึ้นมาแล้ว

พวกเขาไม่มั่นใจเลยว่าจะยังทำอะไรเย่หยวนได้

เพราะฉะนั้นเพื่อจะได้ครองตำแหน่งนายน้อยเผ่ามังกรแล้วพวกเขาจึงได้ร่วมมือกันมาในวันนี้เพื่อจัดการสั่งสอนเย่หยวนบังคับให้เขาต้องถอนตัวจากการประลองไป

เย่หยวนมองหน้าหลงเหอและยิ้มตอบกลับไปอย่างเย็นเยือก “เช่นนั้นแล้วพวกเจ้าคงอยากสู้กันข้าจริงๆ?

เจ้าคิดว่ามีเก้าคนแล้วจะเอาชนะข้าได้?”

หลงเหอตอบกลับไป “เอาชนะ? ฮ่าๆ มันต้องทำเช่นนี้ถึงจะถือเป็นการต่อสู้ที่เท่าเทียมต่างหาก เราก็บอกแล้วว่าเจ้านั้นบ่มเพาะในคงคานิรันดร์ กำลังของเจ้านั้นคงเหนือล้ำกว่าคนระดับเดียวกันไปสิ้นเชิง! นอกจากนั้นแล้วหากว่าที่ผู้นำเผ่ามังกรเราไม่อาจจะจัดการได้แม้แต่พวกเรา เก้านายน้อยนี้ เจ้าจะยังมีสิทธิ์ขึ้นเป็นผู้นำเผ่ามังกรในวันหน้าหรือ?”

เย่หยวนต้องผงะไปเมื่อได้ยินเพราะเขาพบว่าตัวเองกลับไม่รู้ต้องเถียงอย่างไร

พูดจาอ้างเหตุผลมั่วๆ แต่มันกลับฟังดูสมเหตุสมผลนัก!

“เฮอะ!”

เย่หยวนหัวเราะกล่าวขึ้น “เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าพูดกันขนาดนี้แล้วหากข้ายังหาข้ออ้างมาอีกข้าก็คงไม่มีค่าจริงๆ

แต่ใครจะมาก่อน?”

คนทั้งเก้าเบิกตากว้างขึ้นด้วยรอยยิ้ม คิดว่าแผนการที่เตรียมไว้มันไม่มีผิดพลาดจริงๆ

พวกเขาอาจจะดูทำอะไรผลีผลามแต่แท้จริงพวกเขานั้นวางแผนกันมาอย่างดีแล้ว

เย่หยวนทำอะไรก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างเห็นมันหมดสิ้น

แม้เผชิญหน้ากับบรรพบุรุษหมี่เจิ้นนั้นเย่หยวนก็ยังไม่คิดแม้แต่จะคุกเข่าลง

มันจึงเห็นชัดเจนเลยว่าเป็นคนมากศักดิ์ศรีแค่ไหน

“ข้าเอง!”

ชายหนุ่มที่เดินออกมานั้นมีร่างเป็นสิงโตและหัวเป็นมังกร เขานั้นคือหลงฮุ่ยแห่งตระกูลซวนหนี

หลงฮุ่ยนั้นเพิ่งบรรลุมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขึ้นมาไม่นานและยังมีพลังแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นต้น

เย่หยวนนั้นมองออกเลยว่าเขาคงอ่อนแอที่สุดในกลุ่มคนทั้งเก้า

“เย่หยวน เจ้านั้นบ่มเพาะพลังโกลาหลจากคงคานิรันดร์ หากเราสู้กันแล้วเจ้าต้องยั้งมือไว้บ้างนะ!”

หลงฮุ่ยกล่าวขึ้นมา

“สบายใจได้ ข้าไม่เอาชีวิตเจ้าหรอก” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

คำพูดนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องผงะ

เพราะพวกเขานั้นไม่ได้ทำตัวเหมือนอัจฉริยะที่หลงตัวเองเอาแต่อวดอ้างตัว นี่พวกเขากลับเลือกจะแสดงความอ่อนแอออกมาให้ศัตรูเห็นใจ

มันราวกับว่าฝ่ายรังแกคนนั้นคือเย่หยวน

ทั้งๆ ที่พลังบ่มเพาะของพวกเขานั้นเหนือล้ำกว่าเย่หยวนไปถึงอาณาจักร

การเปิดผนึกแรกของประตูแห่งชีวานิรันดร์และการไม่ได้เปิดนั้นมันแตกต่างกันสิ้นเชิง

หากผนึกแรกถูกเปิดออกมาแล้วคลื่นพลังจากหลังประตูแห่งชีวานิรันดร์มันก็จะไหลผ่านเข้ามาทำให้พลังของคนผู้นั้นพัฒนาไปมหาศาล

ภายใต้สถานการณ์ปกติแล้วมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ย่อมเอาชนะมหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ได้สิ้นเชิง!

มีแต่คนที่มากพรสวรรค์มีวิชาลับมากมายเท่านั้นที่จะมีไพ่ตายพอต่อสู้กลับไปได้

แต่ดูท่าแล้วคนที่มาจากตระกูลใหญ่มากวิชานั้นมันคงเป็นฝ่ายเก้านายน้อยมากกว่า!

เย่หยวนย่อมไม่มีทางจะข้ามอาณาจักรต่อสู้กับคนทั้งหลายนี้ได้แน่

และคำตอบของเย่หยวนมันก็ทำให้คนมากมายต้องผงะไปเช่นกัน

ตราสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นั้นคือทักษะเทวะแห่งตระกูลซวนหนี

กอปรด้วยพลังสายเลือดระดับสวรรค์แห้งขั้นสุดของหลงฮุ่ยด้วยแล้ว มันย่อมจะทรงพลังอย่างไม่อาจต้าน

กระบวนท่านี้มันไม่ได้ดูหวือหวาใดๆ แต่มันช่างทรงพลัง

เหมือนเป็นการต่อสู้ของคนจากภพเบื้องล่าง

แต่ว่าเมื่อมันถูกปล่อยออกมาแล้วพลังบดขยี้นั้นมันกลับหนักหน่วงกว่าขุนเขา!

แม้จะเป็นมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ขั้นกลางหลงฮุ่ยก็คงสามารถเอาชนะได้ไม่ยาก!

ส่วนเย่หยวน มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์ขั้นปลายคนนี้ย่อมจะไม่มีทางรับมันไว้ได้แน่

หากเย่หยวนฉลาดจริงเขาคงหลบมันไป!

ภายใต้ความเสียเปรียบด้านหลังบ่มเพาะนี้มันย่อมจะไม่มีทางเอาชนะด้วยการปะทะตรงๆ ได้

แต่ในตอนนั้นเองที่เย่หยวนก็ขยับตัว

เขานั้นต่อยหมัดสวนมาอย่างไม่มีความหวือหวาใดๆ

ตอนนี้เย่หยวนไม่ใช่แม้แต่วรยุทธกระบวนท่าใดๆ!

ปราณเทวะโกลาหลจากร่างของเย่หยวนปะทุขึ้นมารวมกันที่หมัดของเขา

นี่มันคือการประชันกำลังอย่างแท้จริง!

เมื่อคนทั้งหลายได้เห็นเช่นนั้นพวกเขาก็ต้องผงะไป

เจ้าบ้านี่รนหาที่ตายหรือ?

เจ้าจะ…ไม่ใช่กระบวนท่าใดๆ เลยหรือ?

บนท้องฟ้านั้นหลงไห่กล่าวขึ้นมาด้วยเสียงหัวเราะ “ฮ่าๆๆ…ไอ้เด็กนี่มันน่าสนใจจริงๆ! มันดูถูกเผ่ามังกรเราแค่ไหนกันถึงคิดต่อสู้ด้วยวิธีเช่นนี้?”

เพราะภาพนี้มันช่างน่าขัน

มหาจักรพรรดิเมฆาสวรรค์กลับเลือกจะประชันกำลังกับมหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์!

ไม่ว่าจะบ่มเพาะมาด้วยอะไร มันก็ไม่พอ

ตูม!

ร่างของหนึ่งมนุษย์หนึ่งมังกรนั้นปะทะเข้าอย่างแรง

ตุบ ตุบ ตุบ…

หลงฮุ่ยปลิวถอยกลับไปหลายเมตรก่อนที่จะยืนกลับขึ้นมาได้

พร้อมกับที่ตอนนี้ใบหน้าของเขานั้นมีสีเขียวจนม่วง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ