จอมเทพโอสถ นิยาย บท 3037

สรุปบท ตอนที่ 3037 คนตายด่าคนเป็น!: จอมเทพโอสถ

ตอน ตอนที่ 3037 คนตายด่าคนเป็น! จาก จอมเทพโอสถ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 3037 คนตายด่าคนเป็น! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 3037 คนตายด่าคนเป็น!

“เย่หยวน เจ้าบ้านี่มันเก่งกาจนัก! นี่มันแค่อันดับหนึ่งพัน เช่นนั้นแล้วอันดับหนึ่งจะต้องเก่งกาจแค่ไหนกัน?”

หยางชิงร้องขึ้นมาด้วยใบหน้าเหยเก

หยางชิงนั้นเป็นคนเย่อหยิ่งในฝีมือของตนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้อยปีมานี้เขาแทบจะทะลุฟ้าขึ้นไป

แต่วันนี้เขาได้มาเจอศัตรูที่คู่ควรแล้ว

ยอดฝีมือแต่ละคนในโถงพันวิญญาณนั้นต่างล้วนแล้วแต่เป็นยอดคนที่เก่งกาจที่สุดในประวัติศาสตร์!

“เก่งหรือ? ข้าไม่คิดเช่นนั้นนะ?” เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป

หยางชิงที่ได้ยินต้องถอนหายใจยาวออกมาทันที “ไอ้หลานเต่านี่ ข้าไม่น่าเสียเวลามาพูดกับเจ้าเลย!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามันเป็นคนที่พัฒนาได้เมื่อถูกกดหัว! ไปทบทวนเถอะ ครั้งนี้เจ้าน่าจะได้ประโยชน์กลับไปมากมายทีเดียว”

หยางชิงพยักหน้ารับและนั่งลงที่มุมโถงใหญ่

คู่ต่อสู้ในโถงพันวิญญาณนี้มันคือสิ่งที่ยอดอัจฉริยะทั้งหลายจะได้พบเจอแค่ครั้งเดียวในชีวิต

ต่อสู้กับคนเช่นนี้มันถึงจะช่วยพัฒนาตัวเองได้อย่างมากมายมหาศาล

แต่ว่าเรื่องเช่นนี้ย่อมจะไม่มีค่ามากมายกับเย่หยวนแล้ว

เขานั้นตกตะลึงกับฝีมือของยอดคนในโถงพันวิญญาณนี้อย่างมากแต่ว่ามันก็แค่ความตกตะลึง

ฝีมือของคนทั้งหลายนั้นมันเหนือล้ำจนไม่อาจจะเอาไปเทียบกับระดับของลานฝึกในวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกตนอกที่เขาเคยไปมาเลย

แต่เย่หยวนนั้นพัฒนาได้มากกว่านัก!

สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือเย่หยวนนั้นสามารถใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์ได้!

ตอนนี้อย่างว่าแต่คนระดับเดียวกับเขาเลย แม้จะเป็นยอดฝีมือที่มีพลังบ่มเพาะเหนือล้ำเขาไปสองถึงสามขั้นมันก็ยังไม่อาจต้านทานพลังศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนได้ เพราะฉะนั้นหยางชิงถึงได้รู้สึกหมดหนทาง

เบื้องหลังเย่หยวนนั้นมันมีคนมากมายที่คิดอยากลอง

ชายหนุ่มรูปงามคนหนึ่งก้าวขึ้นมายืนอยู่หน้าเย่หยวนและกล่าวขึ้น “นักบุญสวรรค์เย่ ข้าอยากจะลองบ้าง!”

เย่หยวนนั้นจดจำเขาคนนี้ได้ เขามีนามว่าหูเกาชาน

บนบันไดสวรรค์ตั้งนั้นเย่หยวนได้เจอยอดอัจฉริยะอยู่ไม่น้อยและหูเกาชานนี้ก็คือหนึ่งในคนที่เย่หยวนหมายตาไว้

แท้จริงแล้วบนโลกหล้านี้มันก็มีคนอีกมากมายที่ไม่อาจจะแสดงพรสวรรค์ออกมาได้อย่างเต็มที่ด้วยเหตุผลต่างๆ

คนเช่นนั้นตราบเท่าที่มีโอกาสได้เฉิดฉายแล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้ามังกรผงาดขึ้นฟ้าไปได้ทันที!

ก่อนจะขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมานั้นตัวหูเกาชานเป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง

แท้จริงแล้วเย่หยวนไม่อาจจะแยกคนทั้งหลายนั้นได้เลยว่าใครเก่งกาจอ่อนแอ

แต่หลังจากขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาได้พักใหญ่เย่หยวนก็เริ่มเห็นว่ามันมีใครบ้างที่มากพรสวรรค์ในหมู่คนนับล้านนี้

การเข้าใจเต๋าได้นั้นมันคือการพัฒนาที่ดีที่สุด

เย่หยวนอธิบายเต๋าบนบันไดสวรรค์ตั้งมันได้ทำให้หลายคนผงาดล้ำฟ้าขึ้นมาในชั่วพริบตา

แต่ว่าเย่หยวนกลับไม่คิดรับคำของหูเกาชานและยิ้มตอบกลับไป “ข้าจะไปก่อนเอง พวกเจ้าดูไว้ให้ดีเถอะ!

พวกเจ้าจะเข้าใจแค่ไหนนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกเจ้าเองแล้ว! รอบนี้มันคงทำให้คนกว่าครึ่งต้องกลับลงไป!”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องเบิกตากว้างขึ้นมา นี่นักบุญสวรรค์เย่จะสอนสั่งคนอีกแล้ว?

“ขอบพระคุณนักบุญสวรรค์เย่!”

“นักบุญสวรรค์เย่นั้นช่วยเหลือทุกชีวิต เราซาบซึ้งจนแทบหลั่งน้ำตาแล้ว!”

“นักบุญสวรรค์เย่นั้นช่างเป็นนักบุญที่จิตใจกว้างขวางนัก!”

หมู่คนทั้งหลายนั้นเริ่มกล่าวสรรเสริญเย่หยวนขึ้นมา พวกเขานั้นรู้ดีแก่ใจว่าหากไม่ได้เย่หยวนแล้วพวกเขาทั้งหลายคงไม่มีทางขึ้นบันไดสวรรค์ตั้งมาได้แน่นอน เย่หยวนนั้นถูกยกย่องขึ้นเป็นถึงนักบุญสวรรค์แต่เขานั้นกลับไม่ได้หลงตัวเองและช่วยเหลือโลกหล้าอยู่เสมอ คนเช่นนี้มันหาได้ยากยิ่งบนสามสิบสามสวรรค์

พวกเขานั้นไม่ต้องคิดก็เข้าใจได้ว่ายอดอัจฉริยะจากสวรรค์อื่นๆ นั้นสูงส่งแค่ไหน

พวกเขามีหรือที่จะมาเทียบกับมดปลวกอย่างตนได้?

แต่นักบุญสวรรค์เย่นั้นกลับไม่คิดทอดทิ้งพวกเขาและช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถแทน เพื่อช่วยคนทั้งหลายเขานั้นไม่คิดจะขึ้นไปติดรายชื่อรวมสวรรค์ใดๆ เสียด้วยซ้ำ!

มีหรือที่พวกเขาจะยังไม่ซาบซึ้งได้?

คนทั้งหลายนั้นเข้าใจดีว่าหากเย่หยวนคิดลงมือจริงๆ แล้วหยางชิงย่อมจะไม่มีทางได้อันดับหนึ่งไป

เย่หยวนยิ้มกล่าวขึ้น “พวกเจ้าไม่ต้องพูดเช่นนั้นหรอก เพราะของเหล่านี้มันไม่มีค่ามากมายกับข้าแล้ว

เรียนรู้ไปมันก็พัฒนาได้ไม่มาก สู้เอาเวลานั้นมาช่วยให้พวกเจ้าทั้งหลายพัฒนาตัวเองจะดีกว่า เพราะโอกาสเช่นนี้มันไม่ได้จะเกิดขึ้นง่ายๆ เอาล่ะ ข้าจะลงมือแล้ว ดูให้ดีเล่า!”

“ตัดสินชีวาของโอหยางฟางเต๋อมันถูกใช้ออกมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว ข้าคิดว่าข้าคงสามารถแก้ไขมันได้แล้ว”

หลังจากผ่านไปได้ราวพันกระบวนท่าในที่สุดโอหยางฟางเต๋อก็ถูกเย่หยวนรีดวิชาออกมาจนสิ้น

เมื่อวิชานั้นถูกหาทางแก้ไขได้แล้วมันก็ไม่อาจจะใช้ต่อสู้ใดๆ ได้อีก

เป็นตอนนี้เองที่โอหยางฟางเต๋อเพิ่งได้รู้ถึงความเป็นจริง

เจ้าบ้านี่กำลังชำแหละกระบวนท่าของเขา?

ไอ้ฉิบหาย!

“ลูกผู้ชายฆ่าได้หยามไม่ได้! เจ้าทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” โอหยางฟางเต๋อร้องขึ้นมาอย่างคับแค้นใจ

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้ามันก็แค่เงาของคนตายที่ฟื้นขึ้นมาด้วยพลังคลื่นกำเนิด จะยังถือเป็นลูกผู้ชายใด? การชำแหละวิชาของเจ้าให้คนได้เรียนรู้นี้ถือเป็นประโยชน์ต่อเผ่าพันธุ์แล้ว”

โอหยางฟางเต๋อกัดฟันตอบกลับไป “เหลวไหล! ข้านั้นจะอย่างไรก็เป็นเจ้าโลกของวังศักดิ์สิทธิ์เขาวงกต

ตัวตนที่สูงล้ำฟ้า! เจ้าเด็กเวร เจ้ารนหาที่ตายแล้ว!”

เย่หยวนยิ้มตอบกลับไป “เจ้าโลกนั้นสุดท้ายก็ยังเป็นแค่คนตายได้ หรือว่าตัวจริงของเจ้าจะลุกขึ้นจากหลุมมากสังหารข้าหรือ?”

โอหยางฟางเต๋อนั้นไม่รู้จะตอบกลับอย่างไร น่าเสียดายที่เขานั้นเป็นได้แค่เครื่องมือ หากเย่หยวนไม่คิดหยุด เขาก็มีแต่ต้องต่อสู้กับเย่หยวนตลอดไป จนถึงวันที่เย่หยวนเบื่อจะเล่นกับเขาแล้วเท่านั้นที่เขาจะได้ตายลง แต่ตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าความรู้สึกแรกของเขานั้นมันไม่มีผิดพลาดแม้แต่น้อย!

เจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจจนน่ากลัว!

มันเป็นเขาที่อ่อนแอเกินไป จึงไม่อาจจะสัมผัสถึงพลังที่แท้จริงของเย่หยวนได้

เย่หยวนนั้นมีปราณเทวะโกลาหล พลังของเขานั้นมันย่อมจะรุนแรงจนน่าขนลุก เพียงแค่ว่าเย่หยวนยั้งมือไว้เพื่อที่จะชำแหละกระบวนท่าวิชาของโอหยางฟางเต๋อออกมาให้คนทั้งหลายได้เรียนรู้

โอหยางฟางเต๋อในระดับเดียวกันนี้มันอ่อนแอกว่าเย่หยวนอย่างไม่อาจเทียบ ทำให้เขานั้นไม่เข้าใจว่าเย่หยวนต้องการทำอะไรตั้งแต่แรก กว่าจะเข้าใจเขาก็ถูกชำแหละกระบวนท่าออกไปจนสิ้นแล้ว

“เอาล่ะ แค่นี้คงพอ” เย่หยวนกล่าวขึ้นพร้อมแทงดาบทะลวงร่างโอหยางฟางเต๋อไป

โอหยางฟางเต๋อตายลง!

แต่ไม่นานร่างของเขาก็ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ในค่ายกลและร้องด่าเย่หยวนออกมา “ไอ้เจ้า…มารนรก!”

เจ้าบ้านี่รังแกผู้คนจนเกินไป!

โอหยางฟางเต๋อนั้นจึงได้แต่ต้องด่าออกมาจากสุดขั้วหัวใจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ