จอมเทพโอสถ นิยาย บท 3055

สรุปบท ตอนที่ 3055 เข้าค่ายกล!: จอมเทพโอสถ

อ่านสรุป ตอนที่ 3055 เข้าค่ายกล! จาก จอมเทพโอสถ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 3055 เข้าค่ายกล! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายAction จอมเทพโอสถ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 3055 เข้าค่ายกล!

“เอาล่ะๆ พวกเจ้าไม่ต้อง ข้าไปของข้าเอง!” เย่หยวนตอบกลับไปสั้นๆ

“ไม่ได้! นักบุญสวรรค์เย่ท่านนั้นคือความหวังของสวรรค์สมบูรณ์มหาหยกเจิดเรา มีหรือที่เราจะปล่อยให้ท่านไปเสี่ยงชีวิตเช่นนี้?”

“ชีวิตของข้านี้มันแค่ของไร้ค่าอย่างหนึ่ง ตายก็ให้ข้าตายไปเถอะ!”

“นักบุญสวรรค์เย่ ขอข้าไปแทนเถอะ!”

แม้เย่หยวนคิดอยากจะไปเองแต่มันย่อมไม่มีทางที่คนทั้งหลายจะปล่อยไป

เจ้าโลกทั้งหลายที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง

เวลาแห่งความเป็นความตายนั้นคือเวลาที่จะได้เห็นนิสัยธาตุแท้ของคน

แต่คำพูดของคนทั้งหลายนั้นมันไม่มีความปลอมแปลงใดๆ

พวกเขานั้นไม่คิดฝันเช่นกันว่าเย่หยวนน้อยๆ คนนี้กลับจะเป็นที่เคารพได้มากถึงขั้นนี้!

เพราะต่อให้จะเป็นยอดอัจฉริยะแค่ไหนแต่หากคนเบื้องล่างถูกใช้ให้ไปตายแทนนั้นมันย่อมจะไม่มีใครยอมทำ

หรืออย่างน้อยๆ เหล่าคนทั้งหลายในที่นี้ก็ไม่เคยเห็น!

แต่ว่าคนกว่าห้าหมื่นนั้นกลับแย่งกันเพื่อที่จะไปตายแทนเย่หยวน มีหรือที่คนทั้งหลายจะไม่ตกตะลึงได้?

“พวกเจ้าหุบปาก!” เย่หยวนตวาดออกมา

ได้ยินเช่นนั้นคนทั้งหลายจึงหยุดร้องคร่ำครวญไป “ใครบอกพวกเจ้าว่าข้าจะไปตาย?”

คนทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต้องผงะไปก่อนที่สุดท้ายจะยิ้มกว้างขึ้น

หรือว่ามหาค่ายกลของยอดฝีมือล้ำสวรรค์นี้จะถูกเย่หยวนคลี่คลายลงได้แล้ว?

เช่นนั้นมันก็สุดยอด!

แต่เมื่อเจ้าโลกทั้งหลายได้ยินพวกเขาก็ต้องหัวเราะขึ้นในใจ

ดูท่าแล้วพวกเขาคงไม่คิดเช่นนั้น

ของที่แม้แต่เจ้าโลกทั้งหลายนั้นยังทำไม่ได้มีหรือที่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์ตัวน้อยคนหนึ่งมันจะทำได้?

ไม่ว่าเจ้าจะเก่งกาจมาจากที่ไหนมันก็ไม่พ้นเป็นแค่มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์!

เย่หยวนเองก็ไม่คิดจะลงมืออย่างรีบร้อนใดๆ และหันไปมองหน้ากล่าวกับจางเหอชินแทน “ข้าเอาสมบัติออกมาให้ได้ แต่ข้านั้นต้องการของสองสิ่ง!”

เมื่อจางเหอชินได้ยินเขาก็หัวเราะลั่นขึ้น “ข้าหูฝาดไปหรือ? เจ้าคิดจะต่อรองกับข้า? เจ้าคิดจริงๆ ว่าจะกลับออกมาได้?”

หยุนเซียงนั้นยิ้มกล่าวขึ้นเสริม “ไอ้หนู ต่อให้เจ้าโลกอย่างเราๆ ยังไม่อาจทำอะไรพลังงานปิดกั้นนี้ได้

เจ้าคิดว่าลำพังตัวเองนั้นจะทำอะไรได้?”

เย่หยวนยิ้มและเดินเข้าไปหาสมบัติทั้งหลาย เพราะพูดต่อไปตอนนี้มันก็เปล่าประโยชน์ เขานั้นจึงไม่คิดลังเลที่จะเดินเข้าป่าไปหาสมบัติทั้งหลายแทน

คงถานที่ได้เห็นต้องหัวเราะขึ้นมา “ไอ้เด็กนี่มันชอบโอ้อวดตัวเองเสมอ แต่ครั้งนี้มันคงหมดท่าแน่แล้ว”

คงไหกล่าวขึ้นตาม “ไอ้เด็กที่ไม่รู้จักเจียมตัวมันสมควรตายแล้ว!”

ยู่หรานกล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มบ้าง “มันก็คงไม่นึกเช่นกันว่าเจ้าโลกจะมากันมากขนาดนี้! แต่ได้เห็นยอดนักหลอมโอสถสวรรค์เช่นนี้ตายลงข้าก็ตื่นเต้นดีเหมือนกัน!”

ท่ามกลางเสียงหัวเราะเย้ยหยันนั้น สุดท้ายเย่หยวนก็เดินมาถึงค่ายกล

ค่ายกลปิดกั้นนี้เป็นแค่สิ่งที่พวกจางเหอชินคิดไปเอง แท้จริงแล้วมันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมหาค่ายกลสวรรค์เท่านั้น

การจะเข้าใจมหาค่ายกลสวรรค์ทั้งหมดนั้นมันเกินกว่าความสามารถของเย่หยวนในตอนนี้ไปมากล้น

แต่โชคยังดีที่เย่หยวนนั้นพอจะเข้าใจค่ายกลตรงส่วนนี้ไปมากแล้วเพราะการทดสอบของพวกจางเหอชินทั้งหลาย

แท้จริงแล้วระหว่างทางมานี้เขาก็สังเกตดูจุดที่สมบัติปรากฏและจางหายไปเสมอ

ตราบเท่าที่ยังเป็นค่ายกลต่อให้จะดูไร้ที่ติสมบูรณ์แบบแค่ไหน สุดท้ายมันก็ถูกสร้างขึ้นตามกฎของตัวมันเอง เหมือนดั่งโลกนั้นที่จะต้องมีคลื่นกำเนิดและกฎต่างๆ มากมาย

เมื่อเย่หยวนเข้าไปใกล้ค่ายกลนั้นเย่หยวนก็หยุดเท้าลง

เมื่อจางเหอชินได้เห็นเช่นนั้นเขาก็อดหัวเราะลั่นขึ้นไม่ได้ “ฮ่าๆๆ เจ้าเด็กนี่มันรู้จักกลัวตายอยู่นี่นา!”

เจ้าโลกอีกคนกล่าวขึ้นเสริม “คนเรามีใครบ้างที่ไม่กลัวตาย? แต่มากลัวตอนนี้มันก็สายไปแล้วมั้ง?”

“เจ้าเด็กนี่มันโอหัง ได้เห็นมันฉี่ราดนี่เองก็คงสะใจไม่น้อย!”

เย่หยวนนั้นย่อมจะไม่ได้กลัวเกรงใดๆ เขานั้นแค่กำลังสังเกตพื้นที่รอบๆ

ดอกไม้ใบหญ้ารอบๆ ตัว สายลมที่พัดผ่าน แม้แต่ฝุ่นผงที่ปลิวผ่านหน้าไปนั้นหรือแม้แต่คลื่นพลังงานฟ้าดินก็ล้วนแต่เป็นส่วนหนึ่งของค่ายกลสวรรค์ทั้งสิ้น

มหาค่ายกลนี้มันคือสิ่งที่แม้แต่เจ้าโลกยังมองไม่ออก แน่นอนว่ามันย่อมจะทรงพลังและยิ่งใหญ่!

ได้เห็นเย่หยวนไม่คิดขยับตัว จางเหอชินก็กล่าวขึ้นมาอย่างรีบร้อน “หากยังไม่เข้าไป ข้าจะใช้คนอื่นเข้าไปแล้ว!”

เย่หยวนนั้นยังยืนนิ่งไม่คิดขยับเหมือนว่าไม่ได้ยินคำของจางเหอชิน

เทียบกับการสังหารเย่หยวนลงเล่นๆ การปล่อยให้เย่หยวนได้เข้าไปเอาสมบัติกลับออกมาย่อมจะดีกว่ามากนัก!

เพราะสมบัตินั้นมันล้ำค่าเกินไป

ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาทั้งเจ็ดเองก็คงไม่ปรากฏตัวออกมาง่ายๆ เช่นกัน

แน่นอนว่าหลังจากที่เอาสมบัติกลับออกมาแล้วพวกเขาย่อมจะไม่คิดปล่อยเย่หยวนไว้เช่นกัน

จางเหอชินนั้นวางแผนเช่นนี้ไว้ในใจ

หนึ่งชั่วโมงต่อมาเย่หยวนก็ก้าวเท้าออกไปอีกครั้ง

จากนั้นเขาก็หายไป!

ทุกคนที่ได้เห็นนั้นต้องอ้าปากค้าง ‘หายไปไหน?’

“เจ้าบ้านี่คงไม่ได้หนีไปแล้วใช่ไหม?” จางเหอชินกล่าวขึ้น

แต่เจ้าโลกหยุนเซียงนั้นกลับเบิกตากว้างร้องขึ้นมา “ไม่! ค่ายกลนี้มันเชื่อมต่อกับห้วงมิติเวลาของที่นี่ไว้

เขาก้าวเข้าไปในอีกห้วงมิติหนึ่งต่างหาก! น่าสนใจนัก เจ้าเด็กนี่กลับเข้าใจค่ายกลนี้ได้จริง!”

เจ้าโลกทั้งหลายที่ได้ยินนั้นต่างต้องสั่นสะท้านไปทั้งกายหันมามองหน้าหยุนเซียงอย่างตกตะลึง

เจ้าโลกหยุนเซียงนั้นย่อมมีคุณสมบัติพอจะพูดเช่นนี้ เพราะนางนั้นคือจอมเทพค่ายกลสวรรค์ระดับเจ้าโลก คนหนึ่ง!

การทดลองก่อนหน้านั้นมันล้วนแล้วแต่เป็นนางที่คิดวางแผน

แต่สุดท้ายนางก็พลาด

“หยุนเซียงเจ้าล้อเล่นแล้ว? มหาจักรพรรดิไร้สุดสวรรค์น้อยคนหนึ่งกลับจะเข้าใจค่ายกลที่เฒ่าหวูเทียนวางไว้ได้?” เจ้าโลกอีกคนกล่าวขึ้นถาม

เจ้าโลกหยุนเซียงส่ายหัวตอบกลับไป “มันจะเข้าใจได้ง่ายขนาดนั้น? ตอนนี้มันแค่ก้าวเข้าไปสองก้าวเท่านั้น

ยิ่งเข้าไปลึกมันย่อมจะยิ่งยากยิ่ง! แต่ว่าเพราะการคลี่คลายนี้ข้าเองก็พอจะเริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว”

จางเหอชินอ้าปากค้าง “หมายความว่าเจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจกว่าเจ้าอีกหรือ?”

เจ้าโลกหยุนเซียงหันมากัดฟันมองหน้าเขาด้วยจิตสังหารแรงล้ำทันที

จางเหอชินต้องผงะไปเมื่อได้เห็นเช่นนั้น แทบอยากจะเอามือขึ้นมาตบปากตัวเอง

ไปย้ำแผลคนอื่นเสียได้!

…………………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมเทพโอสถ