ตระกูลหยุน
หยุนซูนั่งอยู่หน้าคันฉ่อง และมองดูตนเองในคันฉ่อง ดวงตานางแดงเรื่อเล็กน้อย
วันนี้เป็นวันมงคลของนาง และยังเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของนาง และเป็นวันที่นางไปจากตระกูลหยุน ต่อไปนางคือฮูหยินของซูนฟั่ง
“ซูเอ๋อร์งดงามนัก แม่วาดฝันถึงวันนี้มานานมากนัก ในที่สุดเจ้าก็ออกเรือน ต่อไปต้องอยู่กับซูนฟั่งอย่างดีมีความสุขนะ” ซูอี๋เหนียงน้ำตาไหลพรากอย่างดีใจสุดขีด
“วางใจเถอะท่านแม่ ข้าต้องมีความสุขแน่” หยุนซูบอกอย่างเป็นห่วงแม่
“หากซูนฟั่งกล้ารังแกเจ้า ก็บอกข้านะ ข้าจะไม่ปล่อยเขาไว้แน่” หยุนถิงบอกอย่างเป็นห่วง
“ขอบคุณพี่หญิงใหญ่” หยุนซูซาบซึ้งยิ่งนัก
“เกรงใจข้าทำไมกัน นี่ดีนะมาทันงานมงคลของเจ้าน่ะ มา ข้าหวีผมให้เจ้านะ!” หยุนถิงหยิบหวีมาเริ่มหวี
หยุนซูน้ำตาไหลอาบแก้มทันที “พี่หญิงใหญ่ มีท่านนี่ดียิ่งนัก ชาติหน้าข้าจะเป็นน้องสาวท่านอีก”
เป็นพี่หญิงใหญ่ที่สอนให้นางเข้มแข็ง กล้าหาญ และสอนว่าเป็นสตรีก็สามารถมีชีวิตที่สุขสกาวสดใสในแบบตนเองได้เช่นกัน พี่หญิงใหญ่ยังสนับสนุนนาง ให้นางไม่ได้ทำเหมือนสตรีอื่นทั่วไปที่แต่งงานมีลูกเท่านั้น แต่ยังให้นางดูแลร้านเนื้อย่าง ได้แสดงความสามารถที่ตนถนัด
“เด็กโง่ มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้วสิ” หยุนถิงยินดีนัก หวีผมแต่งตัวให้นางด้วยตัวเอง
“พี่หญิงใหญ่ ชาติหน้าให้ข้าเป็นพี่สาวท่านได้ไหม แบบนี้ถึงเวลานั้นข้าก็สามารถสั่งสอนท่านได้ละ” หยุนหลีที่เดินเข้ามาพอได้ยินหยุนซูพูดอย่างนั้น ก็โพล่งออกมาแบบนั้น
ภาพที่อบอุ่นซาบซึ้งนั้นโดนทำให้หัวเราะฮาครืนกับคำพูดนี้ของนาง
“นังหนูเจ้าคันยุบยิบรึ คิดอยากสั่งสอนข้า?” หยุนถิงแกล้งถลึงตาใส่
หยุนหลีตกใจจนตัวสั่น “พี่หญิงใหญ่ ข้าล้อเล่นน่ะ ท่านอย่าตีข้าอีกเลย วันนี้เป็นวันมงคลของพี่หญิงสามนะ หากข้าโดนท่านอัดมิขายหน้าคนแย่รึ”
“เจ้ายังรู้ว่าจะขายหน้ารึ?”
“แน่นอนสิ หากให้ท่านอามาเห็นข้าโดนตีก้น คงหัวเราะเยาะข้าตายแน่เลย” หยุนหลีบ่น
“ข้าไม่หัวเราะเยาะเจ้าหรอก” เสวี่ยเชียนโฉวที่เดินตามนางเข้ามาพูดขึ้น
หยุนหลีทำหน้าแหย “ท่านอา ท่านจะทำเป็นไม่ได้ยินไม่ได้รึ?”
“ได้ ข้าไม่ได้ยินนะ” เสวี่ยเชียนโฉวให้ความร่วมมือโดยดี
หยุนถิงใบ้กิน ไม่สนใจเขาหรอก
มีเสียงประทัดดังขึ้นที่ด้านนอก คนรับใช้เข้ามารายงาน “คุณหนูใหญ่ คุณหนูสาม คุณหนูสี่ เจ้าบ่าวมาแล้ว พวกเรารีบออกไปเถอะ”
“ได้!” หยุนถิงช่วยคลุมผ้าคลุมหน้าให้หยุนซูทันที
หยุนซูออกไปท่ามกลางการพยุงของทุกคน หยุนเสี่ยวลิ่วรออยู่ด้านนอกนานแล้ว เขาย่อตัวลง “พี่หญิงสาม ข้าแบกท่านออกไปนะ”
“ได้” หยุนซูปีนขึ้นหลังเขาอย่างซาบซึ้ง
หยุนเสี่ยวลิ่วแบกนางขึ้นหลัง กัดฟันบอก “พี่หญิงสาม ท่านหนักเกินไปแล้วนะ ต่อไปกินให้น้อยลงหน่อย”
“เจ้าเด็กบ้า อย่าพูดอย่างนี้นะ ต่อไปจะแบกเจ้าสาวตนเองไหวได้ยังไงกัน” หยุนถิงเย้า
“ใครบอกว่าต่อไปข้าจะแบกนาง ไม่แน่ถึงเวลานั้นนางอาจจะแบกข้าก็ได้” หยุนเสี่ยวลิ่วเบ้ปากบอก และแบกหยุนซูเดินออกไป
“เจ้าหนูนี่กล้าคิดนะ ระวังคนอื่นได้ยินคำนี้ไปแล้วจะไม่มีแม่นางคนไหนกล้าแต่งกับเจ้า” หยุนหลีกระเซ้าเขา
“ไม่แต่งก็ไม่แต่ง ข้าไม่สนใจดอก”
พี่น้องพูดคุยหยอกล้อกัน เดินไปถึงห้องโถงด้านหน้า ทุกคนพากันยืนแสดงความยินดีอยู่สองข้างทาง หยุนเฉิงเซี่ยงพอใจมาก มอบหยุนซูให้กับซูนฟั่งด้วยตัวเอง ถึงได้วางใจ
“ต่อไปดีต่อซูเอ๋อร์ให้มากนะ หากทำให้นางเสียใจ ข้าไม่ละเว้นเจ้าแน่!” หยุนเฉิงเซี่ยงบบอกอย่างจริงจัง
“ท่านพ่อตาวางใจเถอะ ซูเอ๋อร์น่ะสำคัญกับข้ายิ่งกว่าชีวิตข้าอีก ข้าต้องดีกับนางแน่” ซูนฟั่งรับประกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...