“ฝ่าบาททรงพระปรีชายิ่ง!” โม่เหลิ่งเหยียนบอก
“วิธีในการปกครองแคว้นที่หลายวันนี้ข้าถกเถียงกับขุนนางราชสำนักเป็นอย่างไรบ้าง?” ฮ่องเต้ถามเสียงเนิบ
“ทูลฝ่าบาท กระหม่อมจับตาดูอยู่ตลอด ขุนนางทั้งหมดกำลังลงมือปฏิบัติ” โม่เหลิ่งเหยียนตอบ
“แบบนี้ดียิ่งนัก”
เต๋อเฟยที่อยู่นอกตำหนักพอเห็นซวนอ๋องจากไป ก็พาสาวใช้เข้ามา “ข้าตุ๋นน้ำแกงมาให้ฝ่าบาท”
ซูกงกงรีบกลับไปรายงานทันที ไม่นานก็ให้เต๋อเฟยเข้าไป
“ฝ่าบาท หม่อมฉันตุ๋นน้ำแกงมา ถามหมอหลวงหลิวแล้ว บอกว่าน้ำแกงนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายพระองค์ หม่อมฉันเลยนำมา” เต๋อเฟยบอกพลางยกน้ำแกงเข้ามา
“ลำบากเจ้าแล้ว” ฮ่องเต้ยื่นมือมารับ พลางดื่มเข้าไป
“อืม รสชาติไม่เลว”
“หากฝ่าบาทชอบ หม่อมฉันตุ๋นให้ดื่มทุกวันเลยดีหรือไม่เพคะ?” เต๋อเฟยถาม
“ไม่ต้องหรอก ให้ห้องพระเครื่องต้นพวกนี้ไปทำก็ดีแล้ว เจ้าไม่ต้องทำของพวกนี้ดอก ฮองเฮาดูแลองค์ชายเจ็ดคนเดียวลำบากนัก หากเจ้าว่างก็มาช่วยนางดูแลเรื่องในวังหลังนะ” ฮ่องเต้พูดเสียงเนิบช้า
“ฝ่าบาทรับสั่งถูกแล้ว หม่อมฉันจะต้องช่วยแบ่งเบาภาระให้ฮองเฮาแน่ เช่นนั้นหม่อมฉันมิรบกวนฝ่าบาทแล้วนะเพคะ” เต๋อเฟยพูดจบก็ถวายบังคมอย่างนอบน้อมและออกไป
พอเต๋อเฟยออกจากห้องบรรทมของฮ่องเต้ เดินออกมาไกลมาก สองมือขย้ำผ้าเช็ดหน้าแน่น สีหน้าบูดบึ้งยิ่งนัก
“เหนียงเหนียง ฝ่าบาททรงให้ท่านช่วยฮองเฮาแบ่งเบาดูแลเรื่องในวังหลัง เป็นเรื่องดีนะเพคะ” สาวใช้บอกอย่างยินดี
“เจ้าจะรู้อะไร ฝ่าบาทแค่สงสารฮองเฮาเท่านั้น สตรีชาวบ้านคนหนึ่งได้นั่งในตำแหน่งฮองเฮาก็น่าขบขันพอแล้ว ฝ่าบาทกลับโปรดปรานนางถึงเพียงนี้ น่าแค้นใจนัก” เต๋อเฟยบอกอย่างเคียดแค้น หมุนตัวจากไป
สาวใช้ตกใจมาก รีบตามไปทันที
แต่กลับไม่รู้เลยว่า คำพูดของทั้งสองโดนเซียวผินที่ผ่านมาพอดีได้ยินเข้า ดวงตานางมองตามเต๋อเฟยที่จากไปอย่างครุ่นคิด พลางหมุนตัวจากไป
“เหนียงเหนียง เต๋อเฟยเป็นแม่ผู้ให้กำเนิดของไท่จื่อ ระยะนี้มักจะวิ่งมาเข้าเฝ้าฝ่าบาททุกสามถึงห้าวัน พวกเราจะ....” มามาคนสนิทข้างกายเอ่ยเตือน
เซียวผินสีหน้าราบเรียบดุจสายน้ำ “ไม่ต้อง ถึงไท่จื่อจะจิตใจดีมีเมตตา แต่ก็ไม่ได้มีความสามารถอะไร รับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ไม่ได้ ขนาดข้ายังดูออกเลย คนอื่นมีหรือจะดูไม่ออก
ฝ่าบาททรงสนใจฮองเฮาที่สุด หากลูกชายของนางเกิดเร็วกว่านี้หลายปี ใครจะได้เป็นไท่จื่อยังไม่แน่ดอก เต๋อเฟยย่อมไม่มีทางยอมเห็นตำแหน่งลูกชายตนเองโดนแย่งไปหรอก ดังนั้นพวกเราแค่รอดูละครก็พอ”
“เหนียงเหนียงปรีชายิ่ง!” มามาคนสนิทเลื่อมใสนัก
อีกด้านหนึ่ง ซวนอ๋องโม่เหลิ่งเหยียนออกจากวัง ไม่ได้กลับจวนตัวเอง แต่กลับมุ่งตรงไปยังจวนซื่อจื่อ
โม่เหลิ่งเหยียนเล่าเรื่องที่ฝ่าบาทบอกเขาเมื่อครู่กับจวินหย่วนโยวและหยุนถิง
หยุนถิงสีหน้าเคร่งเครียด “อีกฝ่ายเป็นใคร รู้ฐานะเขาหรือไม่?”
โม่เหลิ่งเหยียนส่ายหัว “จดหมายฉบับนั้นไม่ได้ลงชื่อไว้ เป็นแค่จดหมายลับที่ส่งมา คนส่งจดหมายก็จากไปนานแล้ว แต่ข้าสังเกตกระดาษแผ่นนั้น น่าจะเป็นกระดาษหมาเจวียนที่มีเฉพาะในแคว้นเทียนจิ่ว แต่กระดาษแผ่นนั้นดูธรรมดามาก คนทั่วทั้งแคว้นเทียนจิ่วล้วนใช้กันหมด เลยสืบหาได้ไม่ง่ายนัก”
“ในเมื่อเป้าหมายของอีกฝ่ายคือหยุนไห่เทียน งั้นพวกเราก็เล่นตามแผน ส่งหยุนไห่เทียนไปก็ได้แล้วนี่” จวินหย่วนโยวพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
หยุนถิงถึงบางอ้อ “ความหมายของท่านพี่คือ?”
จวินหย่วนโยวพยักหน้า “ให้คนปลอมใบหน้าเป็นหยุนไห่เทียน จัดการจับปูใส่กระด้งให้อยู่หมัดเลย”
“ท่านพี่เก่งมาก แต่เรื่องนี้ต้องทำอย่างระมัดระวัง ข้าจะไปถามพี่ใหญ่ดู ดูว่าเขาเป็นศัตรูกับใครในแคว้นเทียนจิ่วบ้าง หากรู้ฐานะอีกฝ่ายก็จะเตรียมรับมือได้ง่ายขึ้นมากเลย” หยุนถิงตอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...