จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 1064

“ในเมื่อกลับมากันแล้ว งั้นเชิญซวนอ๋องมากินข้าวที่จวนแล้วกัน!” จวินหย่วนโยวพูดเสียงเรียบออกมา

“ขอรับ!” หลิงเฟิงรีบส่งคนไปเชิญซวนอ๋องมาทันที

เด็กน้อยสองคนคนหนึ่งกอดพ่อคนหนึ่งกอดแม่ ยินดีปรีดากันยิ่งนัก บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในระยะนี้ให้พ่อกับแม่ฟัง

หยุนถิงฟังอย่างตั้งใจ จวินหย่วนโยวซักถามเป็นระยะ อบอุ่นยิ่งนัก

หยุนเฉิงเซี่ยงพาซูชิงโยว หยุนซือถิงเข้ามา พอเข้ามาเห็นหยุนถิงก็บ่นรัวๆว่า “ยัยหนู เจ้านี่จากไปเสียนานเลย ไม่รู้จักส่งจดหมายกลับมาบ้าง ทำเอาพ่อเป็นห่วงไปด้วยเลย”

“ท่านพ่อ ข้ากลับมาแล้วนี่ไง ข้านำเหล้าเหลียงซานที่เลื่องชื่อของแคว้นเทียนจิ่วกลับมาฝากท่านด้วยนะ อีกครู่จะให้ท่านชิมนะ” หยุนถิงบอก

หลงเอ้อร์ยกไหเหล้าออกมา “หยุนเฉิงเซี่ยง นี่ไงขอรับ”

หยุนเฉิงเซี่ยงดมกลิ่นหอมของเหล้านั้น หายโกรธเป็นปลิดทิ้ง “ใช่ เหล้านี้ดมแล้วกลิ่นหอมขนาดนี้ รีบเทมาให้ข้าชิมหนึ่งชามเร็ว”

“ท่านพ่อ ท่านจะดื่มแล้วรึ เกิดดื่มมากเกินไปแล้วจะกินข้าวลงได้อย่างไร” หยุนหลีกระเซ้า

“นังหนูนี่พูดอะไรน่ะ สงสัยความคอแข็งของพ่อเจ้ารึไง” หยุนเฉิงเซี่ยงแกล้งทำหน้าขึงขัง

หลันซานรีบให้คนนำชามเข้ามา และเทออกมาหนึ่งชามทันที หยุนเฉิงเซี่ยงชิมไปหนึ่งคำ “เหล้าดี เหล้าดีนะ สมเป็นเหล้าเลื่องชื่อ ถิงเอ๋อร์ เหล้านี้มีมากแค่ไหนรึ?”

“ท่านพ่อดื่มได้ตามสบายเลย รับรองว่าพอ!” หยุนถิงหัวเราะบอก

“ได้เลย พูดจาอย่างนี้ สมเป็นลูกสาวคนดีของพ่อ”

ซูนฟั่งพาหยุนซูเข้ามา หยุนซูถามอย่างเป็นห่วงว่า “พี่หญิงใหญ่ ได้ยินว่าพวกท่านกลับมาแล้ว ข้ากับซูนฟั่งเลยรีบมาเลย ไปแคว้นเทียนจิ่วครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”

“วางใจเถอะ ทุกอย่างเรียบร้อยดี” หยุนถิงตอบ

“งั้นก็ดี”

ด้านนอกเรือน ซวนอ๋องก้าวเท้ายาวเข้ามา ชุดเสื้อคลุมยาวสีเขียว ไม่มีเครื่องประดับเลยสักชิ้น ดวงตาดำขลับฉายแววเย็นเยียบและโดดเดี่ยวดุจเคยเหล่มองหยุนถิงในเรือน พอเห็นนางยืนอยู่ปลอดภัยดี หัวใจที่ตึงเครียดของโม่เหลิ่งเหยียนถึงได้ผ่อนคลายลง

ถึงจะได้ยินองครักษ์ลับมารายงานว่าพวกเขากลับมาแล้วอย่างปลอดภัย แต่ไม่ได้เห็นเองกับตา เขาก็ยังคงไม่วางใจอยู่ดี

ไม่นานห้องครัวก็ทำอาหารออกมาเต็มโต๊ะ ทุกคนนั่งลงกินไปคุยไป บรรยากาศครึกครื้นยิ่งนัก หยุนถิงบอกทุกคนถึงเรื่องที่ไปเจอมาในแคว้นเทียนจิ่วระยะนี้ ถึงโม่เหลิ่งเหยียนจะเหมือนกินอาหารไปสบายอารมณ์ แต่หูนั้นนั่งฟังอย่างตั้งใจมาก

คนรับใช้คนหนึ่งพุ่งเข้ามาจากด้านนอก “ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย หลีอ๋องอุ้มลูกชายของเขามาขอพบที่นอกจวนขอรับ”

หยุนถิงขมวดคิ้ว “พาลูกมาด้วย หรือว่าเด็กไม่สบาย ให้พวกเขาเข้ามาเถอะ”

ตั้งแต่เป็นแม่คน หยุนถิงทนเห็นเด็กไม่สบายไม่ได้ที่สุด

“ขอรับ!” คนรับใช้ออกไปทันที ไม่นานก็พาหลีอ๋องเข้ามา

“หลังจากข้ากลับไป พบว่าช่วงนี้เขากินอะไรไม่ลงเลย พอกินก็อาเจียนออกมาหมด เชิญหมอหลวงมาดูอาการแล้ว แต่หมอหลวงก็ตรวจอะไรไม่เจอ เลยอุ้มมาจวนซื่อจื่อ” หลีอ๋องโม่ฉือหานตอบ

“ให้ข้าดูหน่อย” หยุนถิงบอก

โม่ฉือหานอุ้มลูกยื่นให้ หยุนถิงรีบตรวจอาการเขาทันที ผ่านไปครู่หนึ่งถึงบอก “ในปากเด็กมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว น่าจะอาหารไม่ย่อย ให้เขากินอาหารที่ย่อยง่ายหน่อยก็ได้แล้ว กลับไปก็กินพวกน้ำข้าวมากหน่อย เอาให้ย่อยง่ายก็พอ”

“ขอบคุณมาก” โม่ฉือหานขอบคุณ

“น้องชายคนนี้น่ารักจัง” จวินเสี่ยวเหยียนทนไม่ไหวพูดออกมา จากนั้นยื่นมือไปลูบมือน้อยของลูกชายโม่ฉือหาน

“อ้วนกลมเลย หน้าตาดี” จวินเสี่ยวเทียนเสริม

เด็กน้อยน่ารักมาก พอเห็นพี่ชายพี่สาวก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก ยังยกมือน้อยๆมาโบกเล่นกับพวกเขาเลย

ภาพนี้ทำให้ทุกคนใจอ่อนยวบ

“ลูกชายเจ้าน่ารักมากกว่าเจ้านะ” โม่เหลิ่งเหยียนที่เงียบมาตลอดแทรกขึ้นมา

โม่ฉือหานเหล่มองเขาพลัน “เจ้าไม่พูด ไม่มีใครหาว่าเจ้าเป็นใบ้หรอก”

“ข้าพูดไปตามความจริง”

จวินหย่วนโยวเพียงเหล่มองสองคนนี้อย่างเย็นชา ไม่ได้พูดอะไร ในใจกลับคิดว่า ทำไมโม่ฉือหานไม่ไปเสียที ลูกก็ตรวจอาการเสร็จแล้ว ยังยืนหน้าด้านอยู่นี่อีก

“ข้าเองก็ยังไม่ได้กินข้าว ไม่รู้ว่าจะอยู่กินด้วยได้ไหม?” โม่ฉือหานพลันเอ่ยขึ้น เขาไม่รอให้จวินหย่วนโยวหรือหยุนถิงตอบ ก็นั่งลงเองเลย

พอนั่ง คนอื่นไหนเลยจะกล้าไล่

“รั่วจิ่ง เพิ่มชามและตะเกียบชุดหนึ่ง!” หยุนถิงบอก

“ขอรับ!”

โม่ฉือหานอบอุ่นใจนัก อันที่จริงเขารู้ว่าทุกคนแค่ไม่กล้าไล่เขาไป นับตั้งแต่ที่ถูกหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวช่วยไว้ตอนอยู่แคว้นเทียนจิ่ว เขาก็อยากสนิทสนมกับหยุนถิงกับจวินหย่วนโยวมากขึ้นหน่อยด้วยใจจริง แต่ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี เลยได้แต่อุ้มลูกมา

พอเห็นจวินเสี่ยวเทียนและจวินเสี่ยวเหยียนชอบเจ้าหนูขนาดนี้ โม่ฉือหานรู้สึกสับสนยิ่งนัก บอกไม่ถูกเลย

ซูนฟั่งคีบปลาให้หยุนซูชิ้นหนึ่ง หยุนซูได้กลิ่นคาวปลา พลันรู้สึกคลื่นไส้ หันหัวไปอาเจียนทันที

ภาพนี้ทำให้ทุกคนตกใจกันยิ่งนัก

“ซูเอ๋อร์ เจ้าคงไม่ได้ท้องหรอกนะ?” หยุนเฉิงเซี่ยงถามคนแรก

“พี่หญิงสาม ท่านท้องแล้วจริงรึ?” หยุนหลีตกใจยิ่งกว่า

หยุนถิงยื่นมือไปจับชีพจรให้นางเลย จากนั้นพูดด้วยสีหน้ายินดีว่า “ท้องแล้วจริงๆ!”

ซูนฟั่งที่อยู่ข้างๆตื่นเต้นยิ่งนัก คว้ามือหยุนซูมาจับไว้ทันที “ซูเอ๋อร์ พวกเราจะมีลูกของเราเองแล้ว ข้าจะเป็นพ่อคนแล้ว ดียิ่งนัก นับจากวันนี้ ซูเอ๋อร์ เจ้าอยู่บ้านให้ดีนะ ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ร่างกายเราสำคัญที่สุด”

“ดียิ่งนัก ซูเอ๋อร์ท้องแล้ว ตระกูลหยุนของข้าจะมีหลานตาเพิ่มอีกแล้ว!” หยุนเฉิงเซี่ยงตื่นเต้นยิ่งนัก

“พี่หญิงสาม ท่านต้องดูแลตัวเองดีๆนะ ต่อไปร้านเนื้อย่างน่ะอย่าไปเลย ข้าช่วยท่านดูให้เอง ท่านอยู่พักผ่อนที่บ้านนะ” หยุนหลีบอกอย่างเป็นห่วง

“จริงด้วยซูเอ๋อร์ สามเดือนแรกนี้สำคัญมากนะ ข้าอาบน้ำร้อนมาก่อน เดี๋ยวข้าจะบอกเรื่องควรระวังให้เจ้านะ” ซูชิงโยวเสริม

“นับจากวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป หยุนซูย้ายมาที่จวนซื่อจื่อเถอะ แบบนี้พี่หญิงใหญ่ของเจ้าจะได้ดูแลเจ้าได้” จวินหย่วนโยวบอก

หยุนซูตื่นเต้นยิ่งนัก นางรู้ดีว่าพี่เขยซื่อจื่อรักความสงบที่สุด ไม่ชอบให้ใครรบกวน แต่กลับยอมให้ตนย้ายเข้ามาอยู่ “ขอบคุณพี่เขยซื่อจื่อยิ่งนัก”

“ท่านพี่พูดถูกเลย ซูเอ๋อร์มาพักกับข้านี่ ข้าก็หายห่วง ซูเอ๋อร์ก็ท้องแล้ว งานแต่งงานของหยุนหลีควรเริ่มหาฤกษ์ได้แล้วกระมัง วันนี้ทำไมไม่เห็นเสวี่ยเชียนโฉวล่ะ?” หยุนถิงมองมา ปกติเสวี่ยเชียนโฉวจะตามติดหยุนหลีไม่ห่าง ครั้งนี้กลับไม่เห็น มันน่าแปลกใจยิ่งนัก

หยุนหลีหน้าแดงเรื่อทันที “ท่านพ่อและท่านอาปรึกษาหาฤกษ์ยามแล้ว เขากลับไปเตรียมสินสอดที่อุทยานตระกูลเสวี่ยน่ะ”

“วันที่สิบเดือนหน้า ครบถ้วนบริบูรณ์ วันที่ข้าเลือก!” หยุนเฉิงเซี่ยงตอบ

“ไม่เลว สินสมรสที่ข้าเตรียมให้หยุนหลีได้เอามาใช้เสียที” หยุนถิงบอก

“งั้นพี่หญิงใหญ่เตรียมให้ข้ามากหน่อยนะ ความสุขในชีวิตที่เหลือของข้าขึ้นอยู่กับสินสมรสพวกนี้แล้ว” หยุนหลีรู้ว่าในบ้านพี่หญิงใหญ่น่ะเป็นสมบัติล้ำค่าทั้งนั้น ขนาดทางเดินในสวนยังปูด้วยหินก้อนกลมเลย นั่นน่ะมีค่าควรเมืองเชียวนะ นางย่อมไม่เกรงใจอยู่แล้ว

“ได้เลย!” หยุนถิงตอบอย่างใจป้ำ

ทุกคนพากันหัวเราะชอบใจ อาหารมื้อนี้ทุกคนกินกันอย่างอิ่มหนำสำราญนัก หยุนเฉิงเซี่ยงดื่มจนเมามาย เลยค้างที่จวนซื่อจื่อเสียเลย

คนอื่นทยอยกันกลับไป หยุนถิงเรียกโม่เหลิ่งเหยียนไว้ “ท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไป?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ