ณ จวนหยุน
หลังจากที่นางจ้าวกลับไปแล้วก็ได้เรียกหยุนเสี่ยวลิ่วมาที่ลานบ้าน “จากนี้ไปแม่มิอนุญาตให้เจ้าเดินทางไปยังจวนซื่อจื่ออีก เจ้าอย่าได้ทำตัวสนิทสนมกับหยุนถิงนัก เข้าใจหรือไม่?”
หยุนเสี่ยวลิ่วเอ่ยถามด้วยความงุนงงว่า “ท่านแม่ เพราะเหตุใดกัน?”
“เรื่องในวันนี้หยุนถิงเป็นคนวางแผนทั้งหมด นางต้องการทำร้ายเจ้า โชคดีเหลือเกินที่พ่อและแม่ไปอย่างรวดเร็วทันเวลา นางจึงยังมิทันได้ลงมือ” นางจ้าวอธิบาย
“ท่านแม่ ท่านมิสบายหรืออย่างไรกัน เหตุใดจึงได้เอ่ยวาจาไร้สาระ หยุนถิงจะมิทำร้ายลูกอย่างแน่นอน แม้ว่าแต่เล็กจนโตนางจะเป็นปรปักษ์กับลูก แต่อย่างมากก็เพียงแค่ตีลูกครั้งหนึ่ง ท่านแม่คิดมากไปเอง”หยุนเสี่ยวลิ่วโต้กลับ
“หุบปากเสีย เจ้าเป็นเพียงแค่เด็กจะไปรู้เรื่องใด เจ้าเปรียบเหมือนชีวิตของแม่ บัดนี้เจ้ามิฟังคำแม่แล้วหรือ ต่อจากนี้จงอยู่ให้ห่างจากหยุนถิงเข้าไว้ นางคือตัวซวย!” นางจ้าวตะคอกด้วยความโมโหโกรธจัด
หยุนเสี่ยวลิ่วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา “ท่านแม่ หยุนถิงมิใช่ตัวซวย แม้ว่าก่อนหน้านี้นางมักจะทำเรื่องอับอายขายหน้าเป็นประจำ แต่ข้ารู้สึกว่านางมิเหมือนเมื่อก่อน นางสามารถชนะและได้รางวัลการแต่งกวีวาดภาพของซื่อจื่อได้ นั่นหมายความว่านางมีความสามารถเก่งกาจ”
แน่นอนว่าประโยคนี้หยุนเสี่ยวลิ่วจะมิกล่าวต่อหน้าหยุนถิง มิอย่างนั้นนางคงจะเชิดหน้าหยิ่งผยอง
“เก่งกาจอะไรเล่า เจ้ามันก็เป็นเพียงแค่เด็กที่หลอกง่าย นางให้อาหารแก่เจ้ากินก็สามารถซื้อใจเจ้าได้แล้ว จงไปที่ศาลเจ้าบรรพบุรุษแล้วไตร่ตรองการกระทำของตน เหตุใดข้าจึงได้ให้กำเนิดลูกที่ไร้ความคิดอย่างเจ้าได้กันนะ!” นางจ้าวพูดด้วยความโมโห
“ต่อให้ท่านแม่สั่งให้ข้าไปนั่งไตร่ตรอง ข้าก็ยังยืนกรานว่าหยุนถิงมิใช่ตัวซวย” หยุนเสี่ยวลิ่ววิ่งหนีไปด้วยความโมโห
ทำเอาเสียนางจ้าวหงุดหงิดหน้าอกกระเพื่อมอย่างแรง ใบหน้าดูมิน่ามอง “เจ้าเด็กคนนี้ เหตุใดจึงปกป้องคนนอก ช่างน่าโมโหเหลือเกิน!”
“ฮูหยินเจ้าคะ คุณชายน้อยยังเด็กนัก ค่อยๆ สั่งสอนไปเถิดเจ้าค่ะ” มามาเอ่ยปลอบโยน
“หากข้ามิสั่งสอนให้เขามองเห็นตัวตนแท้จริงของหยุนถิง เกรงว่าต่อให้ตายเขาก็คงมิมีวันรู้
“ฮูหยินเจ้าคะ คุณหนูใหญ่นี่ก็จริงๆ เชียว ก่อนหน้านี้มักจะทะเลาะเบาะแว้งกับคุณชายน้อยเป็นประจำ เหตุใดจู่ๆ จึงได้เดินทางมารับไป ทั้งยังกล่าวว่าคิดถึงคุณชายน้อย ถึงอย่างไรบ่าวก็มิเชื่อ” มามาพูดด้วยความงุนงง
หลังจากความโมโหค่อยๆ จางลงนางจ้าวก็ได้ใจเย็นลงเช่นกัน นางคิดทบทวนเรื่องในวันนี้อีกหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคสุดท้ายที่หยุนถิงกล่าวว่าจะเรียกตัวหยุนซูไปด้วย ทำให้นางจ้าว แสดงท่าทีหงุดหงิดโมโหออกมาอีกครั้ง
“ให้ตายสิ เรื่องในวันนี้หยุนถิงต้องการที่จะบอกกับข้าว่าหากข้ากล้าแตะต้องซูอี๋เหนียงนางก็จะลงมือกับเสี่ยวลิ่ว นังเด็กคนนี้กล้าข่มขู่ข้า!”
มามาเองก็แปลกใจมากเช่นกัน “ฮูหยินเจ้าคะ แล้วพวกเราจะจัดการกับซูอี๋เหนียงต่อหรือไม่?”
“หยุดเอาไว้ก่อน ก็เพียงแค่ขยะกองหนึ่ง ถึงอย่างไรนางก็โบยบินขึ้นฟ้ามิได้ นางมิมีค่าเท่ากับเสี่ยวลิ่วของข้าเลย อีกอย่างจงส่งคนไปคุ้มกันคุณชายน้อยให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างทางที่เดินทางกลับจากโรงเรียน เรื่องในวันนี้ข้าจะมิอนุญาตให้เกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง”นางจ้าวออกคำสั่ง
“เจ้าค่ะฮูหยิน”
หยุนหลีตามหาไปทั่วแต่กลับหามิเจอ ดังนั้นจึงได้เดินทางกลับจวนเพื่อต้องดูว่าเสี่ยวลิ่วกลับมาแล้วหรือไม่ แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็พบกับบิดาของตน
“ท่านพ่อ เสี่ยวลิ่วกลับมาแล้วหรือยัง ลูกออกไปตามหาทั่วเลยแต่กลับมิพบ” หยุนหลีเอ่ยถาม
หยุนเฉิงเซี่ยงทำสีหน้าเย็นชาตอบว่า “หาพบแล้ว เขาไปที่จวนซื่อจื่อ พี่ใหญ่ของเจ้าคิดถึงเขาจึงเชิญให้เข้าไปกินอาหารอร่อย”
“ว่าอย่างไรนะ พี่ใหญ่ให้เขากินอาหารอร่อยแต่กลับมิให้ลูกกิน พี่ใหญ่ช่างลำเอียงเหลือเกิน!”หยุนหลีรู้สึกมิพอใจเล็กน้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...