จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 130

ทานอาหารกลางวันเสร็จ หยุนถิงตามโม่ฉือชิงไปที่ร้านขายของ จวินหย่วนโยวเป็นห่วงองค์ชายสี่ ดังนั้นจึงตามไปดูด้วย

ทั้งสามคนขึ้นไปบนรถม้า หยุนถิงและโม่ฉือชิงนั่งอยู่ด้านเดียวกัน ส่วนโม่ฉือชิงนั่งอยู่อีกด้านหนึ่ง

“หยุนถิง พวกเราค่อยเปิดกิจการพรุ่งนี้เป็นอย่างไร เจ้าคิดราคาไว้แล้วหรือยัง ราคาเท่าไหร่?” โม่ฉือชิงถามออกมา

“มิต้องรีบร้อน ข้าขอดูไปก่อน ก่อนเปิดกิจการสามวันจะแจกให้โดยมิเสียค่าใช้จ่าย ทุกวันมิจำเป็นต้องแจกมาก หนึ่งร้อยก็เพียงพอ หลังจากนั้นสามวันค่อยทำการขาย ราคาจะสูงมากมิได้ ต้องให้ประชาชนทั่วไปซื้อขายได้ กำไรมิมากขอแค่มีหมุนเวียนอยู่ตลอด” หยุนถิงตอบกลับไป

“ทำไมต้องมิเก็บค่าอาหารด้วย เจ้าทำอร่อยถึงเพียงนั้นเลยหรือ?” โม่ฉือชิงถามออกมาด้วยความมิเข้าใจ

“ใครบ้างมิอยากกินของที่มิต้องจ่ายเงิน ขอแค่กินไปแล้วรู้สึกว่าอร่อย พวกเขาถึงมีความคิดที่จะเข้ามาซื้อ นำอาหารแบบใหม่ออกมาในทุกเดือนเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ จากนั้นก็นำชานมและพวกนมเปรี้ยวทั้งหมดออกมาขาย นี่คืออาหารที่ข้านึกออก เจ้าลองดู” หยุนถิงกล่าวออกมาพร้อมกับยื่นแผ่นที่นางเขียนไว้ออกไป

โม่ฉือชิงตื่นเต้นเป็นอย่างมาก รีบรับไว้ในทันใด แต่เมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ด้านหน้าของตน ใบหน้าของเขามืดมนลงทันใด “หยุนถิง นี่มันลายมือบ้าอะไรกัน ทำไมถึงได้น่าเกลียดถึงเพียงนี้ เหมือนกับลอยสุนัขคลาน?”

มิเพียงแค่น่าเกลียด ลอยขีดเขียนเต็มไปด้วยความมืดมน และยังมีตัวอักษรเขียนไว้ด้านข้าง ทำให้ทั้งหน้ากระดาษกลายเป็นสีดำ มีแค่มิกี่ตัวอักษรที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“มันน่าเกลียดขนาดนั้นเลย มิอยากอ่านก็คืนมาให้ข้า ข้าอ่านมันเข้าใจก็พอแล้ว” หยุนถิงทำหน้ามุ่ย

นางเขียนมันโดยมิได้ใส่ใจ จริงอยู่ว่ามันดูน่าเกลียด แต่โม่ฉือชิงมาทำร้ายจิตใจของตนเองเช่นนี้ มันเป็นการมิให้เกียรติเกินไป

โม่ฉือชิงยื่นกระดาษใบนั้นให้กับจวินหย่วนโยว “จวินหย่วนโยว เจ้าอ่านเข้าใจหรือไม่?”

“เข้าใจ”

โม่ฉือชิงแทบจะกระอักเลือดออกมา “ดี ถือว่าข้ามิได้ถามแล้วกัน เจ้าเป็นคนรักภรรยา อย่างไรเจ้าก็ต้องเข้าข้างภรรยาของเจ้าอยู่แล้ว”

“เอาล่ะ มิต้องกังวลเรื่องลายมือแล้ว เดี๋ยวกลับไปแล้วข้าจะบอกท่านอย่างละเอียด สิ่งที่ข้าเขียนเอาไว้ก็คือรายชื่ออาหารที่ข้านึกออก” หยุนถิงพูดไกล่เกลี่ย

“ตกลง เจ้าเป็นเถ้าแก่ คำพูดของเข้าคือคำตัดสิน”

มินานรถม้าก็มาถึงร้านขายของ รถม้าหยุดลง “ซื่อจื่อ ฮูหยิน เดินทางมาถึงแล้ว”

พวกของจวินหย่วนโยวทั้งสามคนลงจากรถม้า หยุนถิงมองไปยังป้ายชื่อร้าย ขมวดคิ้วออกมาเล็กน้อย “ร้านไก่ทอดชิงหยุน?”

“ใช่ นี่คือร้านที่มีชื่อของเจ้าและข้าผสมกันอยู่ แค่มองก็รู้ได้ในทันใด เป็นอย่างไร ข้าฉลาดมากใช่หรือไม่” โม่ฉือชิงกล่าวอย่างภาคภูมิ

มุมปากของหยุนถิงกระตุกเล็กน้อย มิพูดอะไร เดินเข้าไปด้านใน

แม้ปกติแล้วองค์ชายสี่จะทำอะไรมิเป็นร่องเป็นรอย แต่เขาก็ตกแต่งร้านได้มิเลว มิว่าจะเป็นจุดเก็บเงิน ของตกแต่ง รวมถึงห้องครัว ทุกอย่างเป็นไปตามความต้องการของตนเอง

“หากมีสิ่งใดที่เจ้าคิดว่ามิดีหรือมิเหมาะสม ข้าจะได้สั่งให้คนเปลี่ยนทันที?” โม่ฉือชิงรีบถามออกมา

“มิมี ทุกอย่างดีมาก องค์ชายสี่มีประสิทธิภาพในการจัดการสูง และตกแต่งได้ถูกใจข้าเป็นอย่างมาก ทำให้ข้ารู้สึกชื่นชมท่าน” หยุนถิงกล่าวชมออกมา

โม่ฉือชิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย “นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเอ่ยคำชมข้า ฟังแล้วดูมิคุ้นหูเสียเท่าไหร่”

“จ่ายให้คนนำข่าวไปกระจายทั่วเมือง บอกว่าก่อนร้านไก่ทอดชิงหยุนจะเปิดสามวัน จะแจกจ่ายให้ทานโดยมิคิดเงินจำนวนวันละร้อยชิ้น ใครมาก่อนได้ก่อน” หยุนถิงกล่าวออกมา

“ได้ เอาตามที่เจ้าว่า”

หยุนถิงมิได้ดูร้านรอบข้าง นางสนใจแต่คุณภาพการตกแต่งร้านของนางเท่านั้น นางเชื่อว่าโม่ฉือชิงจะมิเกียจคร้าน ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้มันเกี่ยวข้องกับความสนใจของเขาเช่นกัน

“ข้าจะไปหาคนบัดเดี๋ยวนี้” โม่ฉือชิงรีบเดินออกไปทันใด

หยุนถิงเดินออกมาจากร้านพร้อมกับจวินหย่วนโยว เพิ่งจะทานอาหารอิ่ม หลับไปก็มิมีอะไรทำ ทั้งสองคนจึงเดินเล่นอยู่แถวนั้น

จวินหย่วนโยวซื้อทุกอย่างที่หยุนถิงจ้องมองมากกว่าหนึ่งครั้ง

เห็นว่าคนเดินถนนรอบข้างต่างพากันอิจฉา ทุกคนต่างรู้ว่าซื่อจื่อหลงรักหยุนถิง และวันนี้เมื่อได้มาเห็นด้วยตาของตนเองก็อดอิจฉามิได้ ทุกคนต่างพากันคร่ำครวญถึงชีวิตอันแสนดีของหยุนถิง ได้พบเจอกับซื่อจื่อที่รักและเป็นห่วงนางถึงเพียงนี้ เป็นอย่างที่คิด ผู้ชายที่ดีล้วนแต่เป็นผู้ชายของครอบครัวอื่น

หยุนถิงซึ่งกำลังเดินซื้อของอยู่ จู่ ๆ นางก็หันไปเห็นผู้หญิงสองคนจากอีกฝั่งของถนน จ้องมองมายังจวินหย่วนโยวด้วยความคลั่งไคล้และความชื่นชม ทำให้สีหน้าของนางมืดมนลงทันใด

“ใบหน้านี้ช่างเป็นหายนะเสียจริง” หยุนถิงพ่นลมหายใจออกมา

จวินหย่วนโยวกล่าวอย่างไร้เดียงสา “ฮูหยิน หน้าตาดีนั้นมิใช่ความผิดของข้า”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ