จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 146

ซูหลินถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง“อย่าพูดถึงเลย หลายปีก่อนตอนที่ฮูหยินยังมีชีวิตอยู่กองทัพขนหงส์น่าเกรงขามขนาดไหน ถึงแม้จะเทียบองครักษ์เงามังกรไม่ได้ แต่ก็เป็นกองทัพหญิงเพียงหนึ่งเดียวในสี่แคว้น

ต่อมาสองสามปีก่อนที่ฮูหยินจะเสียชีวิต ค่าตอบแทนของกองทัพขนหงส์ก็ยังดีอยู่ จากนั้นฝ่าบาทก็เรียกพบเราด้วยตัวเอง ต้องการจะรับเราเอาไว้ใช้งานเอง จัดตั้งไว้ที่วังหลัง แต่กลับถูกเราปฏิเสธไป

ตอนนั้นฮูหยินร่วมรบกับเราในสนามรบ เดินหน้าและถอยหลังไปด้วยกัน ปฏิบัติต่อเราเหมือนเป็นพี่น้องแท้ๆ น้ำใจส่วนนั้นจนถึงตอนนี้เราก็ไม่ลืม เราไม่มีวันหักหลังนางไปภักดีต่อคนอื่น

ดังนั้นทุกคนก็เลยคิดว่า เฝ้าปกปักรักษาคุณหนูใหญ่ ปกป้องท่านให้เติบโตอย่างปลอดภัย แล้วติดตามท่านในวันหน้า เพราะท่านคือสายเลือดเพียงหนึ่งเดียวที่ฮูหยินทิ้งเอาไว้

เพราะการไม่ทำตามของเรา ดังนั้นฮ่องเต้ก็เลยหาข้ออ้างถีบเราออกจากระบบที่จัดตั้ง ยังกดขี่เราต่างๆนานา ไม่ให้เงินเดือน ตัดทางหนีทีไล่ ถึงขั้นจะสลายเราให้หมด------

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนี้เราก็อดทนจนผ่านมันมาได้ สำหรับเราแล้ว ขอเพียงคุณหนูใหญ่มีชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยก็คือความหวังของพวกเราทุกคน เราไม่กลัวความเหน็ดเหนื่อยความเจ็บปวดทรมานและการกดขี่ ขอเพียงได้เห็นท่านสบายดี

ต่อมาคุณหนูใหญ่มอบตราสัญลักษณ์เฟิ่งอวี่ให้กับนางจ้าว ให้พวกเราเชื่อฟังนางจ้าว เดิมทีทุกคนเกลี้ยกล่อมท่าน แต่ว่าท่านกลับ------เฮ้อ อย่างไรก็ตามกองทัพขนหงส์ในตอนนี้ไม่ได้เป็นเหมือนในตอนนั้นนานแล้ว

คนมากมายต่างก็จากไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนไม่น้อยที่ยินดีจะอยู่ต่อ ถึงแม้ตอนนี้ทุกคนจะมีความเป็นอยู่ที่ไม่ค่อยดีนัก แต่ก็ยังคงจดจำมิตรภาพนายบ่าวของฮูหยินในตอนนั้นได้ดี

ในตอนนั้นฮูหยินก็ทิ้งเงินทองเอาไว้ให้เราไม่น้อย เพียงแต่ว่าคนมากเกินไป ถึงแม้ทุกคนจะลดอาหารและเสื้อผ้าให้น้อยลง แต่ผ่านหลายปีขนาดนี้ก็ใช้ไปหมดนานแล้ว ตอนนี้ทุกคนบ้างก็ช่วยคนทำงาน เย็บปักถักร้อย คุ้มกันภัยในเรือนและอื่นๆหาเงินมาประทังชีวิต

มีหลายครั้ง ที่มีคนมาเชิญเราไปคุ้มกันความปลอดภัยสินค้า แต่สิ่งที่คุ้มกันล้วนเป็นของที่ผิดกฎหมายทั้งนั้น เราปฏิเสธไป บางก็มีคนที่ข่งเหงรังแกคนดีเชิญเราไปคุ้มกันในเรือน ถึงแม้จะได้เงินมาก แต่ก็ถูกทุกคนปฏิเสธไปเช่นกัน

ถึงแม้จะทรุมโทรมเสื่อมถอย แต่เราไม่มีวันลืมสิ่งที่ฮูหยินอบรมสั่งสอนเรา ไม่ลักขโมยไม่แย่งชิงไม่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการทำร้ายผู้อื่น หากินโดยอาศัยสองมือของตัวเอง

ข้าก็ยืนหยัดต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ ก็เลยแต่งงาน แต่งงานกับคนท้องถิ่น ข้าคิดเอาไว้ว่าหากคุณหนูใหญ่ต้องการความช่วยเหลือ ข้าก็สามารถไปที่นั่นภายในระยะเวลาที่เร็วที่สุด

ต้องโทษที่ข้าไม่รู้จักมองคนให้ถึงแก่นแท้ สองปีแรกที่เพิ่งจะแต่งงานกัน หลิวชิงปฏิบัติต่อข้าอย่างดี แต่ว่าตั้งแต่ข้าให้กำเนิดลูกสาว เขาก็มักจะพูดว่าลูกสาวคือตัวขาดทุน

หลายปีผ่านไปข้าก็ไม่ได้ตั้งครรภ์อีก บอกว่าข้าเป็นไก่ที่วางไข่ไม่ได้ บวกกับการยุยงของแม่สามีข้า เขาก็ยิ่งไม่เห็นข้าเป็นคน ข้าก็คิดว่าอดทนเพื่อลูก

ช่วงสองปีมานี้หลิวชิงติดการพนัน ของมีค่าในบ้านล้วนถูกนำไปจำนำหมดแล้ว ไม่ว่าข้าจะเกลี้ยกล่อมอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง พูดมากไปก็ทุบตีข้าทุบตีลูก เฮ้อ”

หยุนถิงฟังอย่างปวดใจและเห็นอกเห็นใจมาก ผู้หญิงในยุคโบราณก็เป็นเช่นนี้ แต่งงานเชื่อฟังสามี เมื่อออกเรือนไปแล้วไม่ว่าจะลำบากแค่ไหนก็ต้องปรับตัวเข้าหาสามีให้ได้ ถึงแม้ตัวเองจะมีกำลังในการต่อต้านและโต้ตอบ แต่ก็ยอมอดทนเพื่อลูก และก็เป็นเพราะการอดทนและยอมนับครั้งไม่ถ้วนถึงได้ทำให้ผู้ชายยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จักสำนึกผิดและแก้ไข

“ท้ายที่สุดแล้ว มันก็เป็นความผิดของข้าทั้งนั้น ในอดีตเป็นเพราะข้าเลวบัดซบเกินไป ไม่รู้จักมองคนให้ถึงแก่นแท้ ถูกนางจ้าวหลอกเอาตราสัญลักษณ์เฟิ่งอวี่ไป ยังทำเรื่องที่มันเกินไปเช่นนั้นต่อพวกเจ้า ข้าต้องขอโทษเจ้าด้วย”

ข้าจะชดเชยอย่างสุดความสามารถของข้า ตั้วแต่วันนี้ไปข้าจะไม่รังแกและทำให้พวกเจ้าอับอายอีก พวกเจ้าคือคนที่ท่านแม่ข้าทิ้งเอาไว้ เช่นนั้นก็คือคนในครอบครัวฝ่ายมารดาของข้า

ข้าจะต้องปกป้องพวกเจ้าอย่างสุดความสามารถของข้าอย่างแน่นอน จะไม่ยอมให้กองทัพขนหงส์ที่ท่านแม่ทิ้งเอาไว้เสื่อมถอยไปเช่นนี้เด็ดขาด สักวันหนึ่งข้าจะทำให้กองทัพขนหงส์ฟื้นคืนความน่าเกรงขามอย่างในอดีต” หยุนถิงเคร่งขรึมจริงจัง แววตาแน่วแน่

แม่ของนางเสียชีวิตไปหลายปีขนาดนี้แล้ว และนางยังเคยเหยียดหยามข่มเหงรังแกถึงขึ้นทรมานกองทัพขนหงส์ขนาดนั้น แต่พวกนางยังคงไม่ทอดทิ้ง ยึดมั่นในความตั้งใจเดิม เพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ

กองทัพขนหงส์เช่นนี้ทำให้หยุนถิงประทับใจ ซาบซึ้ง และยิ่งละอายใจมากขึ้น นาทีนี้ นางสาบานว่าต่อไปจะต้องชดเชยให้พวกนางเป็นอย่างดี ฟื้นฟูกองทัพขนหงส์

ซูหลินรู้สึกประทับใจอย่างยิ่ง ดูเหมือนนางจะมองเห็นท่าทางของฮูหยินในสมัยนั้นจากตัวของคุณหนูใหญ่ คุณหนูใหญ่ที่เป็นเช่นนี้ซูหลินไม่เคยเห็นมาก่อน

“แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่า คนอื่นๆที่เหลืออยู่ที่ไหนกันบ้าง?” หยุนถิงถาม

“พวกเขาอยู่ที่คฤหาสน์แห่งหนึ่งแถบชานเมืองทางตะวันตก นั่นยังเป็นคฤหาสน์ที่ฮูหยินซื้อเอาไว้ในอดีต หากคุณหนูใหญ่อยากไป ข้าสามารถพาท่านไปได้” ซูหลินกล่าวตอบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ