จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 151

หลิวชิงตกใจปากสั่น รีบขอร้องทันทีว่า “นายท่านโปรดไว้ชีวิต โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าจะรีบชดใช้เงินพนันโดยเร็ว ต่อไปข้ามิกล้าล่าช้าอีกแล้ว”

หยุนถิงขมวดคิ้ว ที่แท้ก็คิดว่าพวกเขามาทวงหนี้นี่เอง ดูท่าไอ้เลวนี่ติดหนี้ไม่น้อยเลย

“อัดให้หนัก เหลือลมหายใจไว้ อย่าให้ถึงตาย” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น

“ขอรับ ฮูหยิน” เหล่าองครักษ์อัดหมัดเตะเท้าใส่หลิวชิงอย่างไม่ยั้งมือสักนิด

ยายหลิวที่อยู่ข้างห้องได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด รีบรุดมาดู พอเห็นคนกลุ่มหนึ่งรุมอัดลูกชายตน ยายหลิวตกใจยิ่งนัก

“พวกเจ้าเป็นใครกันน่ะ มาทุบตีลูกชายข้าทำไม รีบปล่อยลูกชายข้านะ ไม่อย่างนั้นข้าจะไปฟ้องร้องทางการ!” ยายหลิวร้องตะโกนบอก

หยุนถิงสีหน้าเย็นชา “ร้องหยั่งกับหมูถูกเชือด แสบแก้วหูนัก ถ้าร้องอีก ข้าจะฆ่าเจ้าด้วยเลย!”

คำพูดเดียวทำเอายายหลิวตกใจแทบตาย รีบหุบปากเงียบไม่ร้องอะไรอีก

หลิวชิงที่อยู่บนตั่งถึงพึ่งเห็นคนในห้องชัดเจน และจำหยุนถิงได้ในทันที “ท่านคือคุณหนูหยุน ตอนกลางวันท่านช่วยซูหลินกับซีหลิ่วไป ตอนนี้ต้องการจะทำอะไรกันแน่?”

หยุนถิงสีหน้ารังเกียจ “ข้าได้ยินซีหลิ่วบอกว่า เจ้ากับฮูหยินเฒ่านี่ทุบตีด่าว่าพวกนางสองแม่ลูกเป็นประจำ โดยเฉพาะฮูหยินเฒ่านี่ ยังแย่งอาหารกับเด็ก แอบทารุณเด็กลับหลังซูหลิน กองทัพขนหงส์เป็นคนของแม่ข้า พวกเจ้ากล้ารังแกนางก็ควรจะรู้จุดจบของตนเอง”

หลิวชิงกับยายหลิวตกใจแทบตาย รีบคุกเข่าขอร้อง

หยุนถิงมีหรือจะฟังพวกเขาพล่าม เธอลงมือเร็วดุดัน พริบตาเดียวก็ทำคางของหลิวชิงและยายหลิวหลุดและหักแขนคนละข้าง

มันเจ็บปวดจนพวกเขาสีหน้าซีดเผือด แขนถูกหักลงดื้อๆ มันเจ็บปวดรวดร้าวไปถึงกระดูก แสบลึกถึงทรวงใน อยากจะอ้าปากอ้อนวอนแต่ก็พูดไม่ออก ไม่ต้องพูดเลยว่าย่ำแย่แค่ไหน ทำเอาเหล่าองครักษ์ที่ยืนด้านหลังพากันขนหัวลุก พากันถอนหายใจในการลงมืออันโหดร้ายของฮูหยินไม่ได้

“คนอย่างข้ารักพวกพ้องที่สุด หากใครกล้ารังแกคนของข้า ข้ามีวิธีมากมายให้มันผู้นั้นอยู่ไม่สู้ตาย แม้แต่เด็กก็ไม่ละเว้น พวกเจ้ามันเดรัจฉานชัดๆ” หยุนถิงแค่นเสียงเย็น

หลิวชิงล้มกลิ้งคลุกคลานไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด เขาเหล่มองตำแหน่งหน้าประตู องครักษ์เหล่านั้นล้วนยืนอยู่ด้านหลัง ถ้าเขาหนีออกไปก็อาจจะพอรักษาชีวิตไว้ได้ ดังนั้นหลิวชิงอาศัยจังหวะตอนทุกคนไม่ทันระวัง คลานขึ้นจากพื้น และวิ่งไปด้านนอก

“เจ้านี่ยังคิดหนี!” หลงซื่อรีบตามออกไปทันที

เพียงแต่เขาพึ่งวิ่งไปได้สองก้าว หลิวชิงที่กำลังวิ่งหนีก็พลันคุกเข่าลงกับพื้น “พวกเจ้าทำอะไรกับข้าน่ะ?”

หยุนถิงก้าวเข้ามาหาช้าๆ ใบหน้าเธอเย็นชาราวน้ำแข็ง มองหลิวชิงที่อยู่บนพื้นด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา “ยังไม่เคยมีใครกล้าหนีไปต่อหน้าข้าได้ เจ้าหาเรื่องตายเองนะ”

น้ำเสียงเย็นยะเยือก แฝงความดุร้ายและเด็ดขาดกระหายเลือดเอาไว้ ทำคนอดหนาวสั่นขึ้นมาไม่ได้

บนกำแพงที่อยู่ห่างไปไม่ไกลนัก โม่ฉือหานเห็นภาพนี้เข้าพอดี ระหว่างทางที่มา ลูกน้องได้เล่าเรื่องของคนตระกูลหลิวผู้นี้มาแล้ว โม่ฉือหานไม่คิดเลยว่า หยุนถิงจะมาสั่งสอนคนด้วยตัวเองเพื่อคนของกองทัพขนหงส์

พอเห็นท่าทางเย่อหยิ่งเย็นชาของนางแล้ว ดวงตาดำขลับของโม่ฉือหานพลันหรี่ลงน้อยๆ

หยุนถิงในตอนนี้ใส่ชุดกระโปรงยาวสีเรียบ ไม่มีเครื่องประดับเลยสักนิด ผมยาวสยายนั่นก็ถูกเกล้าไว้อย่างเรียบง่าย ปิ่นปักผมทองคำระย้าอันหนึ่งเสียบผมอยู่ ปิ่นปักผมทองคำระย้าไหวเอนน้อยๆตามการเคลื่อนไหวของนาง ยิ่งส่งผลให้นางดูหรูหรา สง่างามมากขึ้น

ใบหน้ายังคงดำเมี่ยมเหมือนถ่าน หากนางกลับไม่ได้ดูเกียจคร้าน สบายๆเช่นปกติ  นางดูเย็นชายิ่งนัก ดวงตางามเผยอขึ้นหากฉายแววอำมหิตและดุร้าย แสงจันทร์สาดส่องลงมาที่ร่างนาง ดูเย่อหยิ่งเย็นชาต่อทุกสิ่ง ประหนึ่งราชันย์ผู้อยู่เหนือสรรพสิ่ง เทพแห่งความตายที่กุมชีวิตทุกคนในกำมือ ราศีแข็งกล้าจนทำให้คนรู้สึกกดดัน

โม่ฉือหานไม่เคยเห็นหยุนถิงในรูปแบบนี้มาก่อน เขาไม่เคยรู้เลยว่า ในร่างสตรีคนหนึ่งจะสามารถมีรังสีอำมหิตและราศีกล้าแกร่งเช่นนี้ได้ ทำเอาโม่ฉือหานเหม่อลอย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ