จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 153

“ไอ้โหย ซื่อจื่อ เหตุใดท่านปากหวานเพียงนี้ ทำความผิดอันใดไว้หรือไม่นี่?” หยุนถิงแกล้งถามเขา

“ไม่มีแน่นอน ข้าอยู่ในจวนซือจื่อมาตลอด ต่อให้ข้าอยากทำความผิด โลกนี้นอกจากเจ้าแล้วมีผู้ใดกล้าชิดใกล้ข้ากันเล่า” จวินหย่วนโยวย้อนถาม

คำพูดเดียวทำเอาหยุนถิงทั้งซาบซึ้งและปวดใจ เธอยื่นมือไปกอดคอจวินหย่วนโยว “ชาตินี้มีเพียงข้าเท่านั้นที่ชิดใกล้ท่านได้ ใครก็อย่าได้หมายจะมาลักขโมยของข้ากิน”

“รับบัญชา ฮูหยิน”

หยุนถิงนั่งบนตัวจวินหย่วนโยว ทั้งสองคนกอดกัน อยู่ใกล้กันขนาดนี้จนสามารถรับรู้ลมหายใจของทั้งคู่ได้เลย

อุ่นร้อน คันยิบๆ อารมณ์ประหลาดวาบผ่านหัวใจของทั้งคู่

“ซื่อจื่อ วันนี้ข้าสั่งสอนหลิวชิงกับยายเฒ่านั่นแล้วนะ ไม่ได้ลงมือเอง แต่เรียกฝูงงูไป ท่านคงไม่คิดว่าข้าโหดร้ายเกินไปหรอกนะ?” หยุนถิงถาม

ระหว่างเธอกับจวินหย่วนโยวไม่อยากมีเรื่องปิดบังใดๆต่อกัน ต่อให้ตนไม่พูด องครักษ์เหล่านั้นกับองครักษ์เงามังกรก็คงมารายงานอยู่ดี ดังนั้นเธอเลยอยากรู้ความคิดของจวินหย่วนโยว

ดวงตาดำขลับทุ้มลึกของจวินหย่วนโยวจับจ้องมองใบหน้าน้อยเขม็ง นิ้วมือเรียวยาวขาวเนียนเชยคางนาง ให้นางสบตาตนเอง “เด็กโง่ คนเลวเช่นนั้นก็สมควรต้องโดนสั่งสอนอยู่แล้ว เจ้าทำถูกต้องอย่างมาก หากเป็นข้า คงได้แต่ทำให้เขาอยู่ไม่สู้ตาย คนที่แม้แต่สตรีและเด็กยังไม่ละเว้น ไม่คู่ควรเป็นคน”

หยุนถิงฟังแล้วซาบซึ้งและตื้นตันยิ่งนัก “ขอบคุณมากซื่อจื่อ ขอบคุณท่านที่เข้าอกเข้าใจ”

“ขอบคุณข้าทำไมกัน ซูหลินเป็นกองทัพขนหงส์ เป็นคนที่แม่เจ้าเหลือไว้ให้ เอาแค่ความจงรักภักดีที่นางมีต่อเจ้า สั่งสอนสองแม่ลูกตระกูลหลิวนั่นก็สมควรแล้ว” จวินหย่วนโยวปลอบ

“ซื่อจื่อ มีท่านนี่ดียิ่งนัก” หยุนถิงพูดพลางเอนพิงไหล่เขา

จวินหย่วนโยวยกมือโอบนางแน่น ทั้งๆที่สั่งสอนสองแม่ลุกตระกูลหลิวไปน่าจะดีใจหรือตื้นตัน แต่เหตุใดเขาถึงรู้สึกว่า หยุนถิงเหมือนจะเสียใจและผิดหวังอยู่บ้าง

แต่จวินหย่วนโยวก็มิได้ถาม เพียงแค่มือที่โอบนางเริ่มแน่นขึ้นเท่านั้น

คืนนี้หยุนถิงหลับอย่างไม่สบายตัวนัก มักจะละเมอ จวินหย่วนโยวกอดนางไว้ พลางปลอบเสียงเบาอย่างปวดใจนัก

นังหนูนี่ดูแล้วโผงผาง ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทำอะไรตามใจ แต่จวินหย่วนโยวรู้ดีว่านางกำลังโทษตัวเอง รู้สึกผิด เพราะความไม่รู้จักโตของนางเมื่อก่อนที่ทำต่อกองทัพขนหงส์ก็เกินไปจริงๆ

พอคิดมาถึงตรงนี้ จวินหย่วนโยวถอนหายใจออกมา ดูท่าเขาต้องช่วยแม่หนูนี่แก้ไขปมในใจแล้วล่ะ

จวบจนเช้าวันต่อมาหยุนถิงถึงตื่นขึ้น ตอนเธอลืมตาขึ้น ด้านข้างก็ไร้เงาของจวินหย่วนโยวแล้ว

หยุนถิงบิดขี้เกียจลุกขึ้นมา จวินหย่วนโยวเดินเข้ามา ช่วยนางใส่เสื้อผ้า “หิวแล้วกระมัง ไปกินข้าวเถิด”

“ได้” หยุนถิงเดินตามจวินหย่วนโยวไปห้องข้างๆ จากนั้นก็เห็นซูหลินกับซีหลิ่วอยู่ด้วย หยุนถิงดีใจยิ่งนัก

“คารวะคุณหนูใหญ่ ซื่อจื่อให้ข้าพาซีหลิ่วมาทานอาหารเป็นเพื่อนท่าน ขอคุณหนูใหญ่อย่าได้รังเกียจ” ซูหลินรีบคารวะทันที

“คารวะคุณหนูใหญ่” ซีหลิ่วคารวะตาม เสียงอ่อนหวานกระจ่างใสฟังแล้วทำให้หยุนถิงใจอ่อนยวบ

“จะรังเกียจได้อย่างไร พวกเจ้ายินดีมาทานข้าวเป็นเพื่อนข้า ข้าดีใจเสียมากกว่า รีบนั่งลงกินข้าวด้วยกันเถอะ จวนซือจื่อไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมาก ต่อไปทุกคนกินข้าวด้วยกัน อยากกินอะไรก็บอกพ่อบ้าน ไม่ต้องเกรงใจนะ” หยุนถิงตื้นตันใจนัก

“ขอบพระคุณคุณหนูใหญ่” ซูหลินตอบอย่างซาบซึ้ง

หยุนถิงช่วยตักข้าวต้มกล้วยก้อนแป้งชามหนึ่งให้ซีหลิ่วด้วยตัวเอง “ซีหลิ่วพึ่งดีขึ้น จะกินอะไรมันๆไม่ได้ ต้องกินจืดสักหน่อยนะ ไว้อีกสองสามวันพี่จะทำเนื้อย่างให้กินนะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ