ในรถม้า จวินหย่วนโยวกำลังเล่นหมากรุกกับหยุนถิง จู่ ๆ เขาก็ได้ยินเสียงของหลิงเฟิง จวินหย่วนโยวไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น "ข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นหรือความตายของผู้อื่น"
หลิงเฟิงไม่กล้าพูดอะไรอีก เขาขับรถม้าผ่านผู้หญิงที่หมดสตินั้นไป
หยุนถิงในรถเงยหน้าขึ้นมองไปที่จวินหย่วนโยว มองไปที่คิ้วอันสวยงามและใบหน้าที่เย็นชาของเขา เขากำลังจ้องมองที่กระดานหมากรุกด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง
ผู้ชายที่เธอรักไม่จำเป็นต้องมีความเมตตามากจนเกินไป มิฉะนั้นก็มีแต่จะเปิดโอกาสให้ผู้หญิงคนอื่น อีกอย่าง มีกี่คนที่ใช้ทุกวิถีทางเพื่อจัดการกับซื่อจื่อในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนัั้นเขาจึงไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นด้วยเจตนาดี ถ้าเกิดชักศึกเข้าบ้านล่ะ?
แต่หยุนถิงยังคงอดไม่ได้ที่จะแกล้งเขา "ซื่อจื่อ ท่านไม่ช่วยนางจริงๆ เหรอ นางอาจเป็นคนสวยมากๆ ก็ได้นะ?"
"ในสายตาของข้า เจ้าสวยที่สุด" จวินหย่วนโยวตอบกลับมา
คำพูดหนึ่งประโยค หยุนถิงรู้สึกซาบซึ้งและถูกหูถูกใจ "ฮ่า ๆ ซื่อจื่อ คำแบบนี้ท่านพูดให้มากๆ นะ"
"ข้าเห็นแค่การมีอยู่ของเจ้า ข้าไม่สนใจผู้หญิงคนอื่น"
"แม่น้ำรั่วสามพันลี้ เพียงหนึ่งจอกดับก็กระหาย และเจ้าก็คือจอกนั้น"
"ชีวิตนี้ข้ารักเจ้าเพียงผู้เดียว"
จวินหย่วนโยวพูดคำรักหวานต่อเนื่อง หยุนถิงฟังแล้วมีความสุขมากจนไม่สามารถหุบยิ้มได้ สองคนเล่นหมากรุกกันต่อไป
ซวนอ๋องและหลีอ๋องขี่ม้าอยู่ข้างหลัง เดิมทีโหวฉิงก็เตรียมรถม้าให้พวกเขา แต่ถูกโม่เหลิ่งเหยียนปฏิเสธ
หากนั่งรถม้าก็มองอะไรไม่เห็นเลย ในทางกลับกันขี่ม้ายังสามารถเห็นรถม้าของจวินหย่วนโยวอยู่ข้างหน้าได้
เมื่อโม่ฉือหานเห็นโม่เหลิ่งเหยียนขี่ม้า เขาก็ขี่ม้าเช่นกัน จริง ๆ แล้วเขาต้องการหาโอกาสถามว่าเขาจะทำอย่างไรให้หยุนถิงขายยาให้เขา
โม่เหลิ่งเหยียนที่อยู่บนหลังม้าสูงก็เห็นหญิงสาวที่นอนหมดสติอยู่ข้างถนนเช่นกัน ลูกตาดำของเขาเหล่ไปมองเล็กน้อย หลิงเฟิงและรั่วจิ่งขับรถม้าอยู่ข้างหน้า แน่นอนว่าต้องเห็นแล้ว แต่รถม้าของจวินหย่วนโยวกลับไม่ได้หยุด เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากเข้าไปยุ่ง
"ซวนอ๋อง มีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ที่นั่น" โม่ฉือหานกล่าว
"หลีอ๋องเป็นคนรักหยกถนอมบุปผาที่สุด เรื่องดี ๆ แบบนี้แน่นอนว่าต้องยกให้เจ้าสิ " โม่เหลิ่งเหยียนขี่ม้าผ่านไปโดยไม่หยุดเลย
"สิ่งที่ข้าเกลียดที่สุดตอนนี้ก็คือผู้หญิง!" โม่ฉือหานพูดด้วยความหงุดหงิด และรีบตามไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาต้องลงมือช่วยแน่ๆ บางทีอาจจะกลายเป็นเรื่องดี ๆ ก็ได้ แต่ตอนนี้เขานกเขาไม่ขั้นแล้ว และเห็นหญิงสาวแต่ทำอะไรไม่ได้ ก็ยิ่งน่าโมโห
คนกลุ่มนั้นจึงจากไปอย่างนั้น ไม่มีใครสนใจผู้หญิงที่หมดสติอยู่ข้างถนน
จนกระทั่งพวกเขาเดินไปไกล ผู้หญิงที่อยู่ข้างถนนจึงลืมตาขึ้น ใบหน้ามีแต่ความตกใจและงุนงง
ทำไมมันต่างจากที่นางคิด คนเยอะ ผู้ชายก็เยอะ ทำไมไม่มีใครรักหยกถนอมบุปผา มาช่วยนางเลย ผู้หญิงคนนั้นโกรธมาก ทำได้เพียงลุกขึ้นจากพื้น ดูท่านางต้องหาทางอื่นเพื่อเข้าใกล้จวินหย่วนโยวแล้ว
หนึ่งชั่วโมงต่อมา จวินหย่วนโยวและคนอื่น ๆ กลับมาถึงจวนซื่อจื่อ ทันทีที่ทั้งสองเดินเข้าไปในประตู ก็เห็นคนที่คุ้นเคยสองคนนั่งอยู่ในห้องโถง นั่นก็คือเป่ยหมิงฉี่่และเริ่นเซวียนเอ๋อร์
"หยุนถิง เจ้ากลับมาแล้ว ข้ารอเจ้ามาหลายวันแล้ว"เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวและยืนขึ้น
"เจ้าตามหาข้าเหรอ?" หยุนถิงงุนงง
"ใช่แล้ว ข้าตัดสินใจที่จะอาศัยอยู่ในจวนซื่อจื่อในระหว่างที่ข้าอยู่ในเมืองหลวง" เริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นคนนอกเลย
"ข้าเองก็รู้สึกว่าพระราชวังนั้นน่าเบื่อมาก จึงตัดสินใจมาอยู่ที่จวนของเจ้า" เป่ยหมิงฉี่่พูดอย่างหยิ่งยโส
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...