จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 275

สรุปบท บทที่ 275 บังอาจทำให้ฮูหยินของข้าอับอาย รนหาที่ตายชัดๆ: จอมนางข้ามพิภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 275 บังอาจทำให้ฮูหยินของข้าอับอาย รนหาที่ตายชัดๆ – จอมนางข้ามพิภพ โดย Anonymous

บท บทที่ 275 บังอาจทำให้ฮูหยินของข้าอับอาย รนหาที่ตายชัดๆ ของ จอมนางข้ามพิภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anonymous อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ทันทีที่มู่ว่านว่านได้ยินคำพูดนี้ ก็โกรธจนใบหน้าดำมืดไปหมด นางเป็นลูกสาวคนรองของท่านเจ้าหอแห่งหอเทพเซียน เป็นที่โปรดปรานของตระกูลมาตั้งแต่เด็ก เคยต้องได้รับความคับข้องใจเช่นนี้เมื่อไหร่กัน

“เจ้าถึงกับกล้าดูถูกหอเทพเซียน รนหาที่ตาย!” มู่ว่านว่านคำรามด้วยความโกรธแค้น และโจมตีไปทางหยุนถิง

สีหน้าของหยุนถิงเย็นยะเยือก ไม่แม้แต่จะขยับเขยื้อน

มู่ว่านว่านยังไม่ทันได้แตะต้องหยุนถิง ก็ถูกหลิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างเตะกระเด็นออกไป

หลิงเฟิงกับรั่วจิ่งมีมิตรภาพที่แน่นแฟ้นเหมือนพี่น้อง เขาหวังให้รั่วจิ่งฟื้นตัวเร็วๆมากกว่าใครทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นผู้หญิงคนนี้ยังเสียมารยาทต่อฮูหยินอีก นี่เป็นครั้งแรกที่หลิงเฟิงผู้ซึ่งสุขุมเยือกเย็นมาตลอดหุนหันพลันแล่นขนาดนี้

แต่ว่า หยุนถิงพอใจอย่างยิ่ง

“อ๊าก!” ได้ยินเพียงเสียงกรีดร้องของมู่ว่านว่านดังขึ้นมา คนทั้งคนก็ถูกเตะกระเด็นออกไป

ภาพฉากนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป ทุกคนต่างก็ตะลึงงันไป ทุกคนต่างก็ทอดถอนใจว่าผู้หญิงคนนี้รนหาที่ตายเอง คนที่อยู่ในเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งแม้แต่คนเดียว

ทันใดนั้น เงาร่างสีขาวก็ลอยตัวออกมาจากในเรือน ผ้าไหมสีขาวในมือลอยออกไปอย่างรวดเร็ว โอบรอบตัวมู่ว่านว่าน รับตัวนางเอาไว้ แล้วดึงนางกลับมาทันที

มู่ว่านว่านตกใจแทบตาย เมื่อเห็นพี่สาวคนโต ก็รีบฟ้องด้วยความโกรธจนลนลาน: “พี่ใหญ่ พวกเขานี่แหละที่ทำร้ายข้าเมื่อครู่นี้ ท่านต้องล้างแค้นแทนข้านะ จะปล่อยพวกเขาไปไม่ได้เด็ดขาด”

“หุบปาก ห้ามเสียมารยาท!” ดวงตาคู่สวยที่เย็นยะเยือกของมู่เซียวเซียวกวาดมองมา

มู่ว่านว่านเห็นสายตาที่เย็นยะเยือกของพี่สาวคนโต ก็หุบปากอย่างรู้งาน จ้องมองไปทางหยุนถิงกับหลิงเฟิงด้วยความอาฆาตแค้นและไม่เต็มใจ แทบอยากจะฉีกพวกเขาเป็นหมื่นๆชิ้น

หยุนถิงเหลือบมองไปทางมู่เซียวเซียว หญิงสาวผู้อ่อนโยนหน้างดงามคนหนึ่ง โครงหน้าประณีตโดดเด่น ลักษณะท่าทางสง่างามเป็นธรรมชาติ ไอเทพลอยละล่องในชุดสีขาวทั้งชุด หน้าตาดูดีทีเดียว

มู่เซียวเซียวก้าวเท้าเดินมาทางด้านนี้: “เมื่อครู่น้องสาวของข้าเสียมารยาทไป ข้าต้องขอโทษท่านแทนนางด้วย คุณหนูหยุนโปรดอย่าได้ถือสา”

น้ำเสียงนุ่มนวลไพเราะ แจ่มใส่ชัดเจน ราวกับนกขมิ้น น่าฟังอย่างมาก

มู่เซียวเซียวมองตรงไปที่หยุนถิง นี่ก็คือฮูหยินที่จวินหย่วนโยวโปรดปรานเพียงคนเดียว ใบหน้าที่งดงามน่าทึ่งนั่นคือความงามที่มีท้าทายมาก มองแว๊บเดียวก็ทำให้คนไม่อาจละสายตาไปได้

ใบหน้าที่ไม่มีใครเทียบได้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับกาลเวลา

ชุดกระโปรงยาวสีชมพูที่เรียบง่าย ไม่มีเครื่องประดับใดๆ กลับเสริมบุคลิกของนางให้สูงส่ง เย็นชา ดวงตาคู่สวยเฉียบคมราวกับมีด ราวกับสามารถมองทะลุเข้าไปในใจของผู้คน คนทั้งคนแฝงไปด้วยความเอื่อยเฉื่อย แต่กลับทำให้คนไม่กล้าดูถูก

นี่ก็คือหยุนถิงที่สร้างความฮือฮาในต้าเยียน คิดไม่ถึงว่าหลังจากที่รูปลักษณ์ของนางได้รับการฟื้นฟูแล้วจะงดงามเป็นหนึ่ง งามล่มชาติล่มเมืองเช่นนี้

“ในเมื่อคุณหนูท่านนี้ขอโทษแทนนางแล้ว ข้าก็ไม่ใช่คนจิตใจคับแคบ เรื่องเมื่อครู่นี้ข้าไม่ถือสาก็ได้ แต่หญ้ากิเลนต้นนี้ข้าจะซื้อให้ได้!” หยุนถิงฮึออกมาอย่างเย็นชา

“หญ้าต้นนี้ เรายอมถอยให้คุณหนูหยุน” มู่เซียวเซียวเอ่ยปาก

“พี่ใหญ่ จะยอมถอยให้ได้อย่างไร นั่นเป็นสิ่งที่ข้าอยากได้ที่สุดเชียวนะ ท่านจะยอมให้พวกเขาเช่นนี้ได้อย่างไร” มู่ว่านว่านกล่าวด้วยความไม่พอใจ ค้อนหยุนถิงอย่างแข็งกร้าวครู่หนึ่ง

“หุบปาก เพิ่งจะออกมาก็หุนหันพลันแล่นเช่นนี้แล้ว หากยังไม่รู้จักขอบเขตอีกก็กลับไปหันหน้าเข้ากำแพงสำนึกผิดซะ” น้ำเสียงของมู่เซียวเซียวเย็นชาลงมาเล็กน้อย

บุคลิกท่าทางของนางสง่างามเป็นธรรมชาติแล้ว สีหน้าราบเรียบ แต่น้ำเสียงกลับน่าเกรงขามโดยปราศจากความโกรธ

ในใจขอบมู่ว่านว่านกำลังอาฆาตแค้น แต่กลับไม่กล้าเอ่ยปากอีก

ถึงแม้หยุนถิงจะไม่รู้ว่าสองคนนี้มีจุดประสงค์อะไร แต่ว่าเห็นท่าทางที่นางสั่งสอนน้องสาวของตัวเอง ก็ค่อนข้างถูกชะตาดี

“หลิงเฟิง ไปประมูลหญ้ากิเลนนั่นมา!” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ขอรับ ฮูหยิน” หลิงเฟิงกระโดดลงไปยังชั้นหนึ่ง

กล้าจูบซื่อจื่อในที่สาธารณะเช่นนี้ บนโลกใบนี้เกรงว่าคงมีแต่คุณหนูหยุนเท่านั้นแล้ว

มู่ว่านว่านมองดูหยุนถิงที่จู่ๆก็จูบซื่อจื่อ รู้สึกโกรธอย่างมาก: “ไร้ยางอายจริงๆ ถึงกับทำเรื่องขัดต่อประเพณีและศีลธรรมในที่สาธารณะเช่นนี้ได้”

ทันทีที่สิ้นเสียงลง มืออีกข้างของจวินหย่วนโยวโบกไปหนึ่งที กระแสลมที่แข็งแกร่งก็ปะทะเข้ามาโดยตรง

มู่ว่านว่านยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมา ทันใดนั้นก็มีความเจ็บปวดรุนแรงส่งมาจากแก้ม มู่ว่านว่านกรีดร้องขึ้นมา กุมใบหน้าของตัวเองเอาไว้โดยสัญชาตญาณ

“ใครลอบโจมตีข้า ไสหัวออกมา?”

หยุนถิงถึงได้ปล่อยมือจากจวินหย่วนโยว ยืนอยู่ข้างกายของเขาอย่างเชื่อฟัง

“ข้าเอง!” สายตาของจวินหย่วนโยวเย็นชาดุร้าย มองไปทางมู่ว่านว่านราวกับใบมีดที่คมกริบ

สายตานั่นเย็นยะเยือก ดุร้าย แฝงไปด้วยความเด็ดขาดและดูถูกเหยียดหยาม เพียงแค่แว๊บเดียวก็ทำให้มู่ว่านว่านตกใจจนสีหน้าซีดขาว

“บังอาจทำให้ฮูหยินของข้าอับอาย รนหาที่ตายชัดๆ!” จวินหย่วนโยวปกป้องภรรยาอย่างแสดงอำนาจ

น้ำเสียงเย็นชาดุร้าย ราวกับตกลงไปในอุโมค์น้ำแข็ง รัศมีพลังรอบตัวของเขาแข็งแกร่งมาก ลักษณะท่าทางเย็นชาและมืดมน อุณหภูมิของลานประมูลที่กว้างใหญ่ลดต่ำลงจนติดลบในชั่วพริบตา

มู่ว่านว่านตัวสั่นโดยสัญชาตญาณ ตกตะลึงไปกับรัศมีพลังที่แข็งแกร่งของจวินหย่วนโยว ตกใจจนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

“จวินซื่อจื่อโปรดระงับความโกรธ น้องสาวของข้าพูดจาไม่มีกาลเทศะ ข้าขอโทษแทนนางด้วย บังเอิญข้านำเสวี่ยหลิงเซียงที่หอเทพเซียนเก็บสะสมอยู่ติดตัวมาด้วยพอดี หากมีมันเกื้อกลูหญ้ากิเลน ประสิทธิผลของมันจะดียิ่งขึ้น” มู่เซียวเซียวกล่าวอย่างราบเรียบ

สาวใช้ที่อยู่ด้านหลังคนหนึ่งยื่นถุงมาให้ด้วยความเคารพนบนอบทันที มู่เซียวเซียวรับมา และเดินมาทางจวินหย่วนโยว

“ซื่อจื่อ โปรดรับเอาไว้ด้วย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ