“เช่นนั้นข้าจะไม่ถูกคนของตระกูลมู่กินหรอกหรือ” โม่ฉือชิงเบะปาก
“ท่านเป็นถึงองค์ชายสี่ในราชวงศ์ปัจจุบัน มีฝ่าบาทคอยหนุนหลังท่าน ท่านจะกลัวอะไร ยิ่งไปกว่านั้นหลายปีมานี้ตระกูลมู่มีพฤติกรรมแบบไหนไม่มีใครไม่รู้ ไม่แน่ว่าทุกคนยังต้องขอบคุณท่านด้วยซ้ำ” หยุนถิงตอบ
โม่ฉือชิงคิดดูแล้ว รู้สึกว่ามีเหตุผลดี: “เจ้าพูดถูกแล้ว ถึงอย่างไรเสด็จพี่ก็เป็นคนให้ข้ารับช่วงต่อ เกิดเรื่องขึ้นมาก็มีเสด็จพี่คอยรับหน้าอยู่”
“พวกคนเก่าๆก็ไล่ออกให้หมด รับสมัครคนใหม่ ห้ามใช้คนของตระกูลมู่” หยุนถิงเตือนสติ
“ตกลง ทำตามที่เจ้าพูดมา”
ทั้งสองคนคุยกันอีกนานพักใหญ่ ระหว่างนั้นโม่ฉือชิงยังไม่ลืมหยิบพู่กันมาจดใส่กระดาษ จนกระทั่งฟ้ามืดถึงได้ออกจากจวนซื่อจื่อ
“คุยอะไรกับเขาน่ะ คุยกันนานขนาดนี้?” จวินหย่วนโยวเห็นว่าหยุนถิงยุ่งอยู่ ไม่ได้เข้ามารบกวน แต่แล้วก็ต้องรอไปทั้งวัน
“องค์ชายสี่มาขอคำชี้แนะว่าจะกอบกู้ชื่อเสียงร้านค้าของตระกูลมู่ ให้กลับมาเปิดใหม่อย่างไร ข้าก็เลยให้คำแนะนำกับเขาไปเล็กน้อย ท่านว่าฝ่าบาทยึดทรัพย์ตระกูลมู่ที่คร่ำหวอดในสามราชวงศ์ในชั่วข้ามคืน วิธีการที่รวดเร็วดุจฟ้าผ่านี่ช่างร้ายกาจจริงๆ” หยุนถิงอดทอดถอนใจไม่ได้
จวินหย่วนโยวเกี่ยวมุมปากขึ้นมา: “นับแต่โบราณใจของฮ่องเต้คาดเดาได้ยาก ต่อไปเจ้าไม่ไปพระราชวังได้ก็ไม่ต้องไป ฮ่องเต้หวาดระแวง การเข้าใกล้เขามากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี”
“ข้าจำเอาไว้แล้ว”
“ฮูหยิน ข้างนอกมีประกาศติดเอาไว้ ขอเพียงเป็นประชาชนของแคว้นต้าเยียนล้วนสามารถสมัครเข้าร่วมการคัดเลือกศิษย์ของหอเทพเซียนในอีกไม่กี่วันให้หลัง ไม่ว่าจะเป็นชายหญิงเด็กหรือผู้ใหญ่” หลงเอ้อที่กลับมาจากข้างนอกรายงาน
หยุนถิงเลิกคิ้ว: “ไปเรียกซีหลิ่วกับเสี่ยวอันจื่อมา”
“ขอรับ” บ่าวรับใช้ไปเรียกทันที
ไม่นานนักเด็กสองคนก็เข้ามา: “พี่สาว ท่านหาพวกเรามีเรื่องอะไร?”
“ช่วงนี้พวกเจ้าก็เรียนความรู้เรื่องยากับข้าไปไม่น้อย อีกไม่กี่วันจะเป็นวันคัดเลือกของหอเทพเซียนแล้ว ข้าวางแผนจะให้พวกเจ้าไปสมัคร แพ้ชนะไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือการเข้าร่วม พาพวกเจ้าหาประสบการณ์” หยุนถิงเสนอแนะ
“พี่สาว ข้าทำได้จริงหรือ?” ซีหลิ่วกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“คุณหนูใหญ่ ข้าฟังท่านหมดเลย”
“ได้แน่นอนอยู่แล้ว เราก็ไปหาประสบการณ์ พ่ายแพ้หรือตกรอบก็ไม่เป็นไร ถึงแม้พวกเจ้าจะชนะข้าก็ไม่อยากให้พวกเจ้าเข้าร่วม ไปที่หอเทพเซียนใช้งานไม่ได้จริงอย่างที่ข้าสอนพวกเจ้าแน่นอน” หยุนถิงเอ่ยปาก
“พี่สาว ข้าไป”
หยุนถิงลูบศีรษะของซีหลิ่วกับเสี่ยวอันจื่อ: “พวกเจ้าต้องมีความมั่นใจในตัวเอง ตอนที่พี่อายุเท่าพวกเจ้ายังรู้จักแต่เล่นเกมอย่างเดียว พวกเจ้าเก่งมาแล้ว”
องครักษ์นายหนึ่งออกไปสมัครทันที ทุกการเคลื่อนไหวของเขาถูกพี่น้องชางซื่อที่อยู่ในที่ลับของเวทีสมัครเห็นนานแล้ว
“คิดไม่ถึงจริงๆว่า หยุนถิงบอกว่าตัวเองไม่เห็นหอเทพเซียนอยู่ในสายตา แต่ก็ยังแอบให้คนมาสมัคร น้องสาวโอกาสในการแก้แค้นของเรามาถึงแล้ว” ชางเยว่หมิงกล่าวด้วยความโกรธแค้น
“พี่รอง หยุนถิงทำให้เราสองคนร่ายรำที่หอชุนเฟิง อับอายขายหน้าอย่างมาก ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องสับหยุนถิงเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้” ชางหยุนสี่กล่าวอย่างขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน
“วางใจ ครั้งนี้ข้าจะต้องทำให้ชื่อเสียงและเกียรติยศของนางป่นปี้ไม่มีชิ้นดีให้ได้” ชางเยว่หมิงสาบาน
ทางด้านนี้หลีอ๋องและหยุนเฉิงเซี่ยงก็กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องของหอเทพเซียนในอีกไม่กี่วันตลอด มู่ว่านว่านกับมู่เซียวเซียวเข้าวังเพื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้ ฝ่าบาทจัดให้พำนักที่ที่พักเปลี่ยนม้าหลวงในเมืองหลวง
“พี่ใหญ่ วันนี้ทำไมท่านต้องขอโทษด้วย แถมยังมอบของให้อีก หยุนถิงที่สมควรตายนั่นถึงกับกล้าลอบโจมตีข้า ข้าไม่ปล่อยนางไปแน่” มู่ว่านว่านกล่าวด้วยความโกรธเคือง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...