จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 298

หอชุ่ยหยุน ห้องส่วนตัว

ซ่างกวนหรูกับมู่เทียนบาทักทายปราศรัยกันแล้ว ถึงได้กล่าวเจตนาของการมา: “สหายมู่ ลูกสาวของข้าชอบทักษะทางการแพทย์มาก ไม่ทราบว่าจะเข้าร่วมกับหอเทพเซียนได้หรือไม่ หากสหายมู่รับปาก ข้าจะต้องตอบแทนอย่างงามแน่นอน”

“พี่ซ่างกวนเกรงใจไปแล้ว ระหว่างท่านกับข้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้สถานการณ์ของว่านว่านแย่มาก เรื่องเกี่ยวกับการแข่งขันข้าไม่มีกะจิตกะใจจะไปสนใจ!” มู่เทียนบาทอดถอนใจ

“สุขภาพของคุณหนูรองเป็นอย่างไรบ้าง ข้าได้ยินมาว่าถูกอินทรีทองของหยุนถิงทำร้าย หยุนถิงผู้นี้ปกติยโสโอหังจนเคยตัวแล้ว อาศัยว่าตัวเองมีทักษะทางการแพทย์ ก็หลงระเริงอย่างมาก บวกกับมีจวินซื่อจื่อคอยหนุนหลัง แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังต้องไว้หน้านางเล็กน้อย” ซ่างกวนหรูจงใจเสี้ยมเขาควายให้ชนกัน

มู่เทียนบาโกรธจนบีบถ้วยสุราในมือแตกละเอียด: “กล้าทำร้ายลูกสาวของข้า ข้าจะไม่ปล่อยนางไปเด็ดขาด!”

“สหายมู่อย่าโกรธไปเลย ในจวนข้ามีดอกเทียนหลิงพันปีหนึ่งต้นพอดี แล้วก็ยังมียาสมุนไพรที่ล้ำค่าสองสามชนิด หากพี่ซ่างกวนไม่รังเกียจ อีกเดี๋ยวข้าจะให้คนส่งไปให้ท่าน หวังว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของคุณหนูรอง”

ทันทีที่ได้ยินคำว่าดอกเทียนหลิง นัยน์ตาดำที่ลึกล้ำของมู่เทียนบาก็เบิกกว้างเล็กน้อย ยาสมุนไพรที่ล้ำค่าเช่นนี้กลับอยู่ที่จวนซ่างกวน แม้แต่หอเทพเซียนก็มีเพียงแค่ต้นเดียวเท่านั้น สามารถกล่าวได้ว่ามีราคาไม่มีตลาด มีเงินก็หาซื้อไม่ได้

“เช่นนั้นก็เกรงใจแย่ พี่ซ่างกวนเกรงใจไปแล้ว”

“สหายมู่จะเห็นข้าเป็นคนนอกไปทำไม ขอเพียงสามารถช่วยคุณหนูรองได้ ข้าก็จะปฏิบัติโดยไม่มีทางบอกปัดอย่างแน่นอน” ซ่างกวนหรูกล่าวอย่างสุภาพ

“เช่นนี้ หากข้าปฏิเสธก็เป็นการแสดงความไม่เคารพ ส่วนคุณหนูหรูก็ไม่ต้องเข้าร่วมการแข่งขันคัดเลือกของหอเทพเซียน เมื่อถึงเวลาตอนที่เราจากไป ให้คุณหนูหรูตามเราไปก็พอแล้ว” มู่เทียนบาเอ่ยปาก

“เช่นนั้นก็ขอบคุณสหายมู่มาก”

ทั้งสองพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันอีกครู่หนึ่ง หลังจากที่กินดื่มกันจนหนำใจแล้ว ถึงได้แยกย้ายกันไป

หลังจากที่กลับไปแล้ว มู่เทียนบาก็เรียกคนสนิทของตัวเองมา: “เจ้าไปจับตาดูหยุนถิงเอาไว้ ขอเพียงแค่นางอยู่คนเดียว ก็ไปจับนางมาให้ข้า!”

“ขอรับ”

............

จวนซื่อจื่อ

หยุนถิงยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเริ่นเซวียนเอ๋อร์ผิดปกติเล็กน้อย ดังนั้นหลังยามจื่อ นางก็ให้หลงเอ้อพาตัวเองไปที่ที่พักเปลี่ยนม้าหลวง

เวลานี้ทั่วทั้งที่พักเปลี่ยนม้าล้วนสงบเงียบอย่างยิ่ง คิดว่าทุกคนคงจะนอนหลับกันไปหมดแล้ว กลางวันหยุนถิงก็ให้หลงเอ้อมาสำรวจเส้นทางเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นนางจึงเข้าไปในห้องของมู่เซียวเซียวอย่างชำนาญลู่ทาง

มู่ว่านว่านเป็นเพียงคุณหนูที่โอหังและกำเริบเสิบสานคนหนึ่งเท่านั้น หากหอเทพเซียนมีความลับอยู่จริงๆ นางน่าจะไม่รู้

หยุนถิงเดินเข้าไปใกล้ มู่เซียวเซียวกำลังนอนพักผ่อนอยู่บนเตียง ราวกับจะรู้สึกถึงอะไร นางลืมตาขึ้นมากะทันหัน

สิ่งของบางอย่างในมือของหยุนถิงส่ายไปมาทันที: “อย่าประหม่า ปล่อยตัวตามสบาย ข้ามาเพื่อช่วยเจ้า------”

มู่เซียวเซียวที่เดิมที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังตัวแววตาค่อยๆว่างเปล่าลงช้าๆ จิตใจหย่อนยานลง

“เจ้ารู้จักเริ่นเซวียนเอ๋อร์ไหม?” หยุนถิงถาม

“รู้จัก นางเป็นลูกศิษย์คนสุดท้ายที่ท่านพ่อของข้ารับเอาไว้”

“เช่นนั้นทำไมเริ่นเซวียนเอ๋อร์ถึงได้กลัวท่านเจ้าหอมากด้วย เป็นเพราะนางไปพบความลับที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ของท่านเจ้าหอใช่หรือไม่?”

“พ่อข้าเข้มงวดกับนางมาก มีครั้งหนึ่งนางเผลอบุกรุกเข้าไปในเขตต้องห้ามที่อยู่หลังเขาของหอเทพเซียน แล้วเห็นเตาหลอมมนุษย์ของท่านพ่อข้าเข้า” มู่เซียวเซียวกล่าวตอบ

“เตาหลอมมนุษย์ มันคืออะไร?” หยุนถิงขมวดคิ้ว

“มันคือการใช้มนุษย์มากลั่น------” ยังไม่ทันที่มู่เซียวเซียวจะพูดจบ จู่ๆประตูห้องก็ถูกคนเตะเปิดออกจากด้านนอก ลมฝ่ามือที่โหดเหี้ยมจู่โจมมาด้านหน้าของหยุนถิง

ดวงตาคู่สวยของหยุนถิงเคร่งขรึมขึ้นมา รีบหลบออกไปทันที คนผู้นั้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ