จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 332

หนานเทียนหลินต้องการจะตะโกน แต่กลับไม่สามารถส่งเสียงได้ ทั้งร่างกายเจ็บปวดอย่างยิ่ง เจ็บจนสีหน้าของเขาซีดขาว บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นผุดออกมาไม่หยุด

บัดซบ เขาประมาทเกินไปจริงๆ ถึงกับถูกหยุนถิงวางแผนทำร้าย

เพียงแต่ว่าวิธีการสกัดจุดของตัวเองพิเศษมาก ทำไมนางถึงไม่เป็นไร หรือว่าเมื่อครู่นี้แม่เล้าคนนั้นคลายจุดให้นาง?

หนานเทียนหลินไม่มีเวลาคิดมาก ร่างกายเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส หยุนถิงทั้งเตะและต่อยเขา ไม่มีความปรานีเลยแม้แต่น้อย

“ไอ้สารเลว กล้าวางแผนทำร้ายข้า ยังแอบลอบโจมตีข้าด้วย ดูสิว่าข้าจะซ้อมเจ้าจนตายไหม!” หยุนถิงกล่าวด้วยความโกรธ

ประตูห้องส่วนตัวถูกคนผลักออก โม่เหลิ่งเหยียนกับหลงเอ้อที่เดิมทีต้องการจะบุกเข้ามาช่วยหยุนถิง แต่เมื่อเห็นภาพฉากนี้เข้า ทั้งสองคนต่างก็ตะลึงงันไป

หยุนถิงชำเลืองไปมองพวกเขาครู่หนึ่ง“พวกท่านมาได้อย่างไร?”

“ฮูหยิน ข้ากับซวนอ๋องเป็นห่วงท่าน กลัวว่าท่านจะถูกรังแก ดังนั้นจึงคิดจะเข้ามาช่วยท่าน” หลงเอ้อกล่าวอธิบาย

โม่เหลิ่งเหยียนก็ตกตะลึงอย่างมากเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นหยุนถิงสวมชุดสีแดง นางเป็นหญิงสาวที่งดงามน่าทึ่งขนาดนั้นแท้ๆ เดิมทีควรจะอ่อนโยนสง่างาม แต่เมื่อลงมือขึ้นมาพูดได้เลยว่าเหี้ยมสุดๆ

“มาได้จังหวะพอดี เข้ามาช่วยข้าสั่งสอนเขา!” หยุนถิงกล่าวพร้อมกับเตะหนานเทียนหลินไปอีกหนึ่งที

หลงเอ้อเดินเข้ามา กำลังจะลงมือ

“อย่าให้โดนใบหน้าของเขา” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ฮูหยิน เพราะอะไร?”

“อีกเดี๋ยวเจ้าก็รู้เอง”

“ขอรับ”

โม่เหลิ่งเหยียนเห็นว่าหยุนถิงไม่เป็นไร ถึงได้โล่งใจไปเปลาะหนึ่ง มองดูท่าทางที่นางเตะต่อยโดยไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย นัยน์ตาที่ลึกล้ำของโม่เหลิ่งเหยียนมีความอ่อนโยนเล็กน้อยแว๊บผ่านไป

หนานเทียนหลินถูกซ้อมจนหมดสติไปทั้งอย่างนั้น หยุนถิงถึงได้หยุดลง

ชำเลืองไปมองหน้ากากปีศาจสีแดงนั่นครู่หน่ง หยุนถิงถอดหน้ากากลงมา

คิ้วและตาสะอาดสะอ้านน่ามอง โครงหน้าประณีตบรรจง ถึงแม้ดวงตาทั้งคู่จะปิดอยู่ แต่ก็สามารถดูออกว่าหน้าตาดูดี มองดูใบหน้านี้ของเขา หยุนถิงเกิดความคิดขึ้นมาทันที

“ซวนอ๋อง ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่นี่มีหญิงหม้ายที่ขึ้นชื่อหรือไม่ แบบที่สามีตายไปนานมากแล้ว ไม่มีเพศสัมพันธ์มานาน หรือไม่ก็ผู้หญิงที่อดใจไม่ได้เมื่อเห็นผู้ชาย?” หยุนถิงถาม

มุมปากของโม่เหลิ่งเหยียนกระตุกขึ้นมาทันที แต่ก็ยังเอ่ยปากตอบ“มีคนเช่นนี้อยู่จริงๆ นางคือฮูหยินผิงหยวน ผิงหยวนโหวเสียชีวิตไปหลายปี นางคือเมียเอกคนแรกเพียงคนเดียว และก็ไม่มีทายาท ดังนั้นจึงสืบทอดทุกอย่างจากผิงหยวนโหวอย่างถูกจังหวะและเป็นขั้นตอน

นางเป็นหม้ายมาหลายปี แต่กลับเลี้ยงสนมชายเอาไว้มากมาย ยังไปหานายโลมหน้าตาดีที่หอคณิกาบ่อย เจ้าชู้อย่างมาก ไม่ด้อยไปกว่าผู้ชายเลย ถูกขนานนามว่าเป็นหญิงหม้ายอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง”

หยุนถิงฟังด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง“เช่นนั้นก็ถูกต้องแล้ว ซวนอ๋องท่านรู้หรือไม่ว่านางอยู่ที่ไหน?”

“ข้าสามารถให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปสืบได้”

“ข้าจะรอข่าวจากท่าน”

“ตกลง” โม่เหลิ่งเหยียนสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปตรวจสอบทันที

ไม่นานนัก ผู้ใต้บังคับบัญชาก็มารายงาน บอกว่าฮูหยินผิงหยวนเพิ่งออกมาจากร้านสุรา อยู่ระหว่างทางกลับจวน

“หลงเอ้อ ซวนอ๋องรบกวนพวกท่านยกเขาออกไป วางเอาไว้บนรถม้า เราไปมอบของขวัญให้กับฮูหยินผิงหยวนกัน” หยุนถิงเอ่ยปาก

“ตกลง” หลงเอ้อกับโม่เหลิ่งเหยียนยกคนขึ้นมาก็จากไปเลย

หยุนถิงตามไปทันที ทั้งสามคนจากไปทางประตูหลัง ขึ้นไปบนรถม้า หลงเอ้อขับรถม้าไล่ตามฮูหยินผิงหยวนทันที

ในรถม้า หยุนถิงมองไปทางหนานเทียนหลินที่หมดสติ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยันเล็กน้อย ยื่นมือไปหยิบเข็มเงินออกมาและแทงไปยังจุดฝังเข็มบางแห่งของหนานเทียนหลิน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ