โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้ว“หาได้ยาก ที่เจ้าจะพูดขอบคุณข้า”
จวินหย่วนโยวจ้องมองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ครู่หนึ่ง“ข้าไม่ใช่คนไม่แยกแยะดีชั่วสักหน่อย”
“เช่นนี้ย่อมดีที่สุด ในเมื่อจวินหย่วนโยวมาแล้ว ข้ายังต้องไปลาดตระเวนอีก ขอตัวก่อนแล้ว” โม่เหลิ่งเหยียนมองไปทางหยุนถิง
“ตกลง” หยุนถิงพยักหน้า
จวินหย่วนโยวไม่ได้พูดอะไรอีก ถึงได้สังเกตให้เสื้อผ้าบนตัวของหยุนถิง สีหน้าดำมืดในทันที“หลงยี ไปหยิบเสื้อคลุมมา!”
“ขอรับ!” หลงยีรีบไปที่รถม้าและหยิบออกมาทันที
จวินหย่วนโยวรับมา และคลุมให้กับหยุนถิง“ทำไมถึงแต่งตัวเช่นนี้?”
“ก็เป็นความคิดที่ไม่เข้าท่าของหนานเทียนหลินนั่นแหละ เขาบอกว่าให้ข้ารับแขกหนึ่งร้อยคน มิเช่นนั้นจะไม่ให้ข้ากินข้าว” หยุนถิงบ่น
ใบหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นยะเยือกราวกับเกล็ดน้ำแข็งทันที“ไอ้สารเลวที่สมควรตาย ลงโทษเขาเช่นนี้ถูกเกินไปสำหรับเขาจริงๆ”
“ไม่หรอก หลังจากที่เขาตื่นก็จะรู้ว่าอะไรคือตายทั้งเป็น” หยุนถิงกล่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
จวินหย่วนโยวมองดูรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์สับปลับของนาง รู้อยู่แล้วว่าหยุนถิงเจ้าคิดเจ้าแค้นที่สุด แสดงให้เห็นว่าไม่ได้แค่ส่งเขาไปให้กับฮูหยินผิงหยวนเท่านั้น
“วันนี้เจ้าได้รับความตกใจแล้ว เรากลับไปกันเถอะ”
“ตกลง” หยุนถิงและจวินหย่วนโยวขึ้นรถม้าและจากไป
จวนผิงหยวน
ฮูหยินผิงหยวนให้บ่าวรับใช้ยกหนานเทียนหลินเข้าไปในห้องของตัวเองโดยตรง มองดูชายหนุ่มที่มีหน้าตาสะอาดสะอ้านน่ามองเช่นนี้ ฮูหยินผิงหยวนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ดวงตาทั้งคู่จ้องมองหนานเทียนหลินอย่างไม่ละสายตา
นางอดที่จะยื่นมือไปหยิกใบหน้าของหนานเทียนหลินไม่ได้“ดูผิวและใบหน้าเล็กๆนี่สิ น่าทึ่งมาก ดีกว่านายโลมในหอคณิกาพวกนั้นมากเลย รูปร่างนี่มองดูก็รู้ว่าเป็นผู้ฝึกยุทธ ไม่เลวเลยจริงๆ สวรรค์ช่างดีต่อข้าจริงๆ”
ฮูหยินผิงหยวนทนรอไม่ไหวอยากจะไปถอดเสื้อผ้าของหนานเทียนหลินออกแล้ว ตามหลักแล้วเป็นไปไม่ได้ที่คนหมดสติไปแล้วจะทำเรื่องอย่างว่า แต่กางเกงของเจ้าหมอนี่กลับค้ำขึ้นมาราวกับร่มเล็กๆ ฮูหยินผิงหยวนมองด้วยความตื่นเต้นและดีใจอย่างมาก
นางสั่งให้องครักษ์ในลานเฝ้ารักษาการณ์ให้ดีโดยเฉพาะ ห้ามไม่ให้ผู้ใดมารบกวน จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของหนานเทียนหลินออก และทำตามอำเภอใจ
ในลานที่กว้างใหญ่ เหลือเพียงเสียงหอบหายใจที่ตื่นเต้นของฮูหยินผิงหยวน นานพักใหญ่ก็ไม่จางหายไป
..............
ที่พักเปลี่ยนม้าหลวง
หลังจากการพักฟื้นสองวัน สุขภาพของมู่ว่านว่านก็ดีขึ้นมาอย่างมาก สามารถลงมาเดินได้แล้ว
มู่เซียวเซียวเดินเข้ามาพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งหลาย ผู้อาวุโสสามลังเลอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็เอ่ยปาก“ว่านว่าน ข้าจับชีพจรให้เจ้า ดูว่าร่างกายของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”
มู่ว่านว่านมองดูท่าทางของพวกเขา แล้วยิ้มเย้ยหยันในใจ แต่ว่าบนใบหน้าก็ให้ความร่วมมืออย่างยิ่ง“ขอบคุณผู้อาวุโสสามมาก”
ผู้อาวุโสสามเห็นไฝบนแขนซ้ายของนางเข้าพอดี“นังหนูคนนี้คือว่านว่านนั่นแหละ ไม่ใช่ตัวปลอม ไฝที่อยู่บนแขนของนางเม็ดนี้ข้ารู้ดีที่สุด”
“ถูกต้อง ด้านหลังหูข้างขวาของนังหนูคนนี้มีแผลเป็นอยู่ เป็นแผลที่ได้มาเพราะความซุกซนไปปีนต้นไม้ตอนเด็กๆ แต่แล้วก็ตกลงมาทำให้หูเป็นแผล นางคือว่านว่านนี่แหละ” ผู้อาวุโสสี่ก็เอ่ยปากเช่นกัน
มู่ว่านว่านมองไปทางทุกคนด้วยความงุนงง“ผู้อาวุโสทุกท่านกำลังพูดอะไรน่ะ หรือว่าพวกท่านสงสัยว่าข้าคือตัวปลอม?”
พวกเขาทั้งหลายทำหน้ากระอักกระอ่วนใจ โดยเฉพาะมู่เซียวเซียว ในใจรู้สึกโกรธแทบตาย บนใบหน้ากลับแสร้งทำท่าทางอ่อนโยน
“น้องสาวเจ้าอย่าคิดมาก ก่อนหน้านี้เจ้าป่วยหนักขนาดนั้น จู่ๆทำไมถึงดีขึ้นมาได้ เพราะพี่เป็นห่วงเจ้ามากเกินไป กลัวว่าจะมีคนถือโอกาสทำในสิ่งที่ไม่เป็นผลดีต่อเจ้าหรือไม่ก็จัดการกับหอเทพเซียนถึงได้เอ่ยคำถามเช่นนี้?”
ใบหน้าของมู่ว่านว่านดำมืดลงมาทันที“ท่านเป็นพี่สาวแท้ๆของข้านะ ถึงกับสงสัยว่าข้าคือตัวปลอม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...