“ข้าขอสั่งเจ้า ส่งกำลังทหารทั้งหมดออกไปค้นหา จะปล่อยไอ้คนที่กอบโกยผลประโยชน์เข้าตัวเองอย่างซ่างกวนเจิ้นไปไม่ได้เด็ดขาด ถึงกับกล้าทำชั่วโดยไม่เห็นกฎหมายอยู่ในสายตาต่อหน้าต่อตาข้า ข้าจะไม่ละเว้นเด็ดขาด!” ฮ่องเต้คำรามด้วยความโกรธ
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมรับพระบัญชา!” โม่ฉีเฟิงถอยออกไปด้วยความเคารพนบนอบ
เหมยเฟยเข้ามาจากข้างนอก รู้สึกผิดและละอายใจอย่างยิ่ง คุกเข่าลงไปกับพื้นโดยไม่พูดอะไรเลยทันที“หม่อมฉันมีความผิด ขอฝ่าบาทโปรดลงโทษด้วย!”
ฮ่องเต้มองมาด้วยความงุนงง“เหตุใดสนมรักถึงกล่าวเช่นนั้น?”
“ตอนล่าสัตว์ ซวนอ๋องเข้าเฝ้าฝ่าบาทบอกว่าจะจับกุมซ่างกวนเฉิงเซี่ยง ตอนนั้นหากหม่อมฉันไม่ได้เสนอให้ฝ่าบาทกลับวังแล้วค่อยออกราชโองการ เพื่อแสดงถึงความน่าเกรงขามของฝ่าบาท ซ่างกวนเฉิงเซี่ยงก็คงไม่หนีไป ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนเป็นความผิดหม่อมฉันทั้งนั้น หม่อมฉันเป็นคนทำให้งานใหญ่ของฝ่าบาทล่าช้า ขอฝ่าบาทโปรดลงโทษด้วย หม่อมฉันจะไม่ปริปากตำหนิใดๆเด็ดขาดเลย” เหมยเฟยกล่าวด้วยเหตุผลที่ถูกต้องและคำพูดจริงจัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยการตำหนิตัวเอง
ฮ่องเต้มองดูท่าทางที่เต็มไปด้วยความละอายใจของนาง ลุกขึ้นและเดินเข้ามา ยื่นมือไปประคองนาง“นี่มันไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย เป็นเพราะข้าที่ไม่คิดทบทวนให้ดีเอง ซ่างกวนเจิ้นผู้นี้เจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว ข้าจะต้องพลิกแผ่นดินตามหาเขา และฉีกเขาเป็นหมื่นๆชิ้นให้ได้!”
“ฝ่าบาท หม่อมฉันผิดต่อพระองค์” เหมยเฟยกล่าวด้วยความละอายใจ
“สนมรักไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเอง กลับไปเถอะ ข้ายังมีเรื่องต้องทำ” ฮ่องเต้ตรัส
“เพคะ หม่อมฉันทูลลา!” เหมยเฟยเอาใจใส่อย่างยิ่ง คำนับเสร็จก็หันหลังจากไป
ตอนที่เหมยเฟยหันหลังฮ่องเต้ไม่ได้สังเกตเห็นรอยยิ้มเล็กน้อยตรงมุมปากของนางเลย
เหตุผลที่นางออกมายอมรับผิดด้วยตัวเอง ก็เพราะฝ่าบาทเป็นคนขี้ระแวง หากรอให้ถึงตอนที่ฝ่าบาทสงสัยมาถึงนาง เช่นนั้นเหมยเฟยก็จะหลุดพ้นจากข้อสงสัยได้ยากแล้ว
...............
จวนซื่อจื่อ
ตอนที่หยุนถิงกับจวินหย่วนโยวกลับไปฟ้าก็มืดแล้ว เมื่อพ่อบ้านเห็นท่าทางที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของจวินหย่วนโยว แล้วก็เหลือบมองเห็นลูกประคำเกล็ดหิมะที่เขาถืออยู่ในมือ คนทั้งคนของพ่อบ้านก็ชะงักงันไป
“ซื่อจื่อ นี่ นี่มันคือของของฮูหยินคนก่อนนี่นา!” พ่อบ้านกล่าวด้วยความตื่นเต้น
เขาอยู่ที่จวนซื่อจื่อมาหลายสิบปี คุ้นเคยกับสิ่งของของพ่อแม่จวินหย่วนโยวเป็นอย่างดี
“พบที่โต๊ะหนังสือในห้องลับของซ่างกวนเจิ้น พ่อบ้านเจ้าให้คนไปต้มซุปอุ่นๆมาหน่อยเถอะ ข้าจะประคองซื่อจื่อกลับพักผ่อน” หยุนถิงตอบ
พ่อบ้านมองไปที่ซื่อจื่อที่มีท่าทางเช่นนั้น ก็เดาออกแล้วว่าเขาคงไม่สามารถยอมรับได้ในทันที“ขอรับ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้”
หยุนถิงประคองจวินหย่วนโยวกลับไปที่เรือน คนทั้งคนของจวินหย่วนโยวราวกับคนปิดกั้นตัวเอง นั่งนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ไม่พูดไม่จา มองดูลูกประคำเส้นนั้นอย่างเหม่อลอย
เห็นเขาเป็นเช่นนี้ หยุนถิงก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่อยู่กับเขาเงียบๆ
ตอนเย็นจวินหย่วนโยวไม่ได้กินอะไร เพียงแต่บอกว่าอยากจะอยู่คนเดียวครู่หนึ่ง หยุนถิงออกไปจากห้อง ก็ให้หลิงเฟิงเฝ้าเอาไว้ทันที
ในลาน หยุนถิงผิวปาก ไม่นานนักอินทรีทองก็ปรากฏตัว หยุนถิงหยิบภาพเหมือนที่ได้มาจากซวนอ๋องออกมา“เสี่ยวจินจื่อ ข้าต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า หาตัวสองคนนี้ออกมา ทันทีที่พบร่องรอยของพวกเขาให้บอกข้าทันที บางทีพวกเขาอาจจะปลอมตัว ขอเพียงเจ้าพบคนที่หน้าตาคล้ายพวกเขาก็บอกข้าได้เลย”
อินทรีทองมองดูสองภาพนั้นอย่างจริงจัง พยักหน้าอย่างแรง ก่อนจากไปหยุนถิงแขวนเนื้อตากแห้งเอาไว้ที่คอของมันหนึ่งถุง อินทรีทองดีใจอย่างยิ่ง บินจากไปทันที
หลงเอ้อกำลังจะเข้ามาพูดอะไรบางอย่าง จู่ๆด้านหน้าของหยุนถิงก็มีอินทรีทองปรากฏขึ้นมาสิบตัว เดิมทีอินทรีทองก็มีขนาดใหญ่มากอยู่แล้ว ยืนกันกว่าครึ่งลานในชั่วพริบตา
แม้แต่องครักษ์เงามังกรกับองครักษ์ลับที่หมอบอยู่บนสันกำแพงก็สะดุ้งตกใจเช่นกัน อินทรีทองพวกนี้ปรากฏตัวขึ้นมากลางอากาศ ช่างแปลกประหลาดจริงๆ
หยุนถิงยังคงหยิบภาพเหมือนของพ่อลูกซ่างกวนเจิ้นให้พวกมันดู กล่าวกำชับสองสามคำ อินทรีทองก็บินจากไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...