รถม้ามุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองตลอดทาง เมื่อโม่ฉีเฟิงที่เฝ้าอยู่ที่ประตูเมืองเห็นก็ขวางเอาไว้ทันที“รับคำสั่งตรวจค้น คนที่อยู่ข้างในคือใคร?”
ม่านรถม้าเปิดออก เหมยเฟยมองไปทางโม่ฉีเฟิงด้วยสีหน้าเย็นชา“พวกเจ้าจะตรวจค้นข้าด้วยหรือ?”
โม่ฉีเฟิงคำนับด้วยความเคารพนบนอบทันที“กระหม่อมคำนับเหมยเฟย กระหม่อมได้รับคำสั่งให้ตรวจค้นคนที่เข้าออกประตูเมือง เหนียงเหนียงโปรดลงโทษด้วย”
“ข้ากราบทูลต่อฝ่าบาทแล้ว บอกว่าจะออกไปนอกเมือง ฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว หรือเจ้ายังจะตรวจค้นอีก?” เหมยเฟยกล่าวด้วยความไม่พอใจ
ทันทีที่โม่ฉีเฟิงได้ยิน ย่อมไม่กล้าขัดขวางอีก“กระหม่อมมิกล้า ทหาร ปล่อยผ่านไป!”
องครักษ์คนอื่นๆปล่อยผ่านไปทันที รถม้าของเหมยเฟยจึงออกไปจากประตูเมืองด้วยประการฉะนี้
ไม่ไกลออกไป โม่ฉือหานผ่านประตูเมืองพอดี มองเห็นรถม้าของเหมยเฟยออกจากเมืองไปแล้ว“เกิดอะไรขึ้น?”
“เหมยเฟยจะออกไปนอกเมือง บอกว่าฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่ได้ขัดขวาง” โม่ฉีเฟิงกล่าวตอบโดยตรง
โม่ฉือหานชำเลืองมองไปทางนอกเมือง“ในเมื่อฝ่าบาททรงอนุญาตแล้ว เจ้าทำถูกต้องแล้ว ลำบากเจ้าแล้ว” กล่าวจบก็จากไป
เพียงแต่ว่าโม่ฉือหานไม่ได้กลับไปที่จวนหลีอ๋อง แต่ไปที่จวนซื่อจื่อ
ทันทีที่พ่อบ้านได้ยินว่าหลีอ๋องต้องการพบซื่อจื่อ ก็บอกไปโดยตรงว่าซื่อจื่อไม่สบาย คิดไม่ถึงว่าหลีอ๋องจะบอกว่าต้องการพบหยุนถิง พ่อบ้านถึงได้พาเขาไปพบฮูหยินอย่างไม่เต็มใจ
อาการของจวินหย่วนโยวยังไม่ดีขึ้น ไม่กินไม่ดื่มตั้งแต่เมื่อวานจนถึงวันนี้ ตำหนิตัวเองอย่างยิ่ง หยุนถิงให้หลิงเฟิงดูแลจวินหย่วนโยว และออกไปคนเดียว
“ไม่ทราบว่าหลีอ๋องหาข้าด้วยเรื่องอันใด?” น้ำเสียงของหยุนถิงห่างเหิน
โม่ฉือหานเห็นนางเป็นเช่นนี้ หัวใจที่เย็นยะเยือกรู้สึกเจ็บปวดอย่างอธิบายไม่ถูก รู้สึกอึดอัดตรงหน้าอกเล็กน้อย“ข้าก็แค่จะมาบอกเจ้าว่า เมื่อครู่นี้ข้าเห็นรถม้าของเหมยเฟยออกนอกเมืองไป และทหารรักษาการณ์หน้าประตูเมืองก็ไม่ได้ตรวจค้นรถม้าของนางด้วย”
สีหน้าของหยุนถิงตึงเครียด ถ้าหากก่อนหน้านี้คือการคาดเดา เช่นนั้นเวลานี้คำพูดของหลีอ๋องก็เพียงพอจะยืนยันความน่าสงสัยของเหมยเฟยแล้ว
“เหตุใดหลีอ๋องถึงมาบอกเรื่องพวกนี้กับข้า?” หยุนถิงขมวดคิ้ว
วันนี้โม่ฉือหานโดนคุณไสยหรือ เขาเห็นตัวเองขัดหูขัดตามาตลอด จู่ๆทำไมถึงใจดีมาบอกกับตัวเองเช่นนี้ได้
โม่ฉือหานเห็นสายตาที่สงสัยของหยุนถิง สีหน้ายิ่งไม่น่าดูขึ้นมาเล็กน้อย“ใครบอกว่าข้ามาบอกเจ้ากัน ข้ามาเพื่อต้องการจะบอกจวินหย่วนโยว พ่อบ้านบอกว่าเขาไม่สบายไม่ใช่หรือ เจ้าก็ไปบอกต่อให้เขาก็แล้วกัน”
“ท่านกับซื่อจื่อของข้ายิ่งไม่ถูกกันไม่ใช่หรือ?” หยุนถิงถามกลับ
คำพูดประโยคเดียว ตบหน้าโม่ฉือหานทันที ทำให้สีหน้าที่เดิมทีก็ไม่น่าดูอยู่แล้วกลายเป็นชั้นน้ำแข็ง เย็นยะเยือกสุดขีด“ข้าก็แค่ไม่อยากให้เขาตายในมือคนอื่นเท่านั้น เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่เจ้า!”
โม่ฉือหานทิ้งคำพูดเอาไว้ประโยคหนึ่ง หันหลังแล้วก็จากไปโดยตรง
หยุนถิงมองดูแผ่นหลังของเขา ถึงแม้จะไม่รู้ว่าโม่ฉือหานวางแผนอะไรอยู่กันแน่ แต่สิ่งที่เขาบอกตัวเองกลับเป็นข้อมูลที่สำคัญมาก
“ฮูหยิน ถ้าอย่างไรให้ข้าน้อยไปจับคนกลับมาดีไหม?” หลงซื่อรีบเข้ามาสอบถามอย่างรวดเร็ว
“ไม่ต้อง อย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น ในเมื่อเขาสามารถบูชาท่านแม่ของซื่อจื่อโดยที่ไม่มีใครรู้มาหลายปีขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่ารู้สึกผิดต่อนางหรือไม่ก็มีความเกี่ยวข้องกัน แม้แต่ซื่อจื่อก็ยังสืบไม่เจอ แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ในตอนนั้นเกี่ยวพันกันอย่างกว้างขวาง หรือไม่ก็มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง เจ้าส่งคนมีความสามารถสองสามคนไปสะกดรอยตาม ดูว่าพวกเขาไปพบใครบ้าง แล้วรีบกลับมารายงานทันที” หยุนถิงกล่าวสั่งการ
หลงซื่อยังอดที่จะรู้สึกนับถือไม่ได้“ฮูหยินฉลาดหลักแหลมสายตายาวไกล ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”
หยุนถิงเรียกตัวซูหลินมา ทั้งสองคนไปหากัวอวิ๋นโหรว พูดเรื่องที่สงสัยเหมยเฟยออกมา
ทั้งหมดปรึกษาหารือกันใหม่อีกรอบ ตัดสินใจค่อยๆทยอยอพยพออกจากเส้นทางที่คนของพรรควิหคเข้าร่วม ร้านค้าก็แอบอพยพอย่างลับๆ พัฒนาเส้นทางการขนส่งและการดำเนินงานใหม่ หากวันหนึ่งพรรควิหคทรยศขึ้นมา พวกนางก็จะไม่ถึงกับเสียหายมากเกินไป
เมื่อเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว หยุนถิงถึงได้พาซูหลินจากไป ตอนที่จากไปทั้งสองคนปลอมตัวในชุดผู้ชาย จะไม่ได้เป็นที่สังเกตของผู้คน
เดินผ่านถนนสองสามสาย หยุนถิงเหลือบไปในตรอกซอยบางแห่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หญิงสาวนางหนึ่งถูกอันธพาลสองคนตามตื้ออยู่ เสียงกรีดร้องก่นด่าดังมา
“หากพวกเจ้ากล้าแตะต้องข้า ข้าจะต้องสับพวกเจ้าเป็นหมื่นๆชิ้นอย่างแน่นอน!” เสียงผู้หญิงที่โอหังกราดเกรี้ยว และโกรธแค้นดังมา
“หากเจ้าเป็นองค์หญิง ข้าก็เป็นราชาเทพเซียนแล้ว พี่น้องทั้งหลายไม่ต้องพูดไร้สาระ รีบลงมือเถอะ” อันธพาลคนหนึ่งคำราม คนอื่นๆอดรนทนไม่ไหวนานแล้ว ยื่นมือก็ไปฉีกทึ้งเสื้อผ้าของผู้หญิงคนนั้น
“ไสหัวไป อย่ามาแตะต้องข้า ไอ้สารเลว ข้าจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไปเด็ดขาด ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย-----” องค์หญิงหลันรั่วร้องขอความช่วยเหลือ
นางหงุดหงิดอารมณ์เสียเพราะเรื่องตอนพื้นที่ล่าสัตว์ ดังนั้นจึงออกมาดื่มสุราข้างนอกคนเดียว แต่กลับคิดไม่ถึงว่าระหว่างทางกลับมาจะพบกับอันธพาลสองสามคนนี้
องค์หญิงหลันรั่วมองดูมือปลาหมึกที่ยื่นเข้ามาพวกนั้น ตกใจหวาดกลัวแทบแย่ ไม่มีเวลาสนใจอย่างอื่น ได้แต่ใช้มือตบและผลักออกไปอย่างแรง และร้องขอความเมตตา
เพียงแต่ว่านางจะเป็นคู่ต่อสู้ของพวกอันธพาลท้องถิ่นพวกนี้ได้อย่างไร เวลานี้ฟ้าก็มืดแล้ว ซอยนี้ก็ค่อนข้างเปลี่ยว ไม่มีคนเดินผ่านเลย
บวกกับอันธพาลพวกนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องการใช้อำนาจบาตรใหญ่ สารเลว ถึงแม้จะมีคนเดินผ่านก็ไม่มีใครกล้าไปยั่วยุ
“คุณหนูใหญ่ ก่อนหน้านี้องค์หญิงหลันรั่วคนนี้หาเรื่องท่านเช่นนั้น ถ้าอย่างไรเราแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นดีไหม?” ซูหลินกระซิบถาม
ถึงแม้จะรู้สึกว่าทำเช่นนี้จะโหดร้ายไปหน่อย แต่ก่อนหน้านี้หลันรั่วจงใจทำให้คุณหนูใหญ่อับอาย ยังคิดจะเลื่อยขาเก้าอี้ของคุณหนูใหญ่ แต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับซื่อจื่อ ถึงแม้ซูหลินจะรู้สึกสงสารนาง น่าสงสารแต่กลับน่าชิงชังยิ่งกว่า ดังนั้นจึงไม่อยากจะสนใจ
ดวงตาคู่สวยของหยุนถิงเย็นชา มองไปทางองค์หญิงหลันรั่วที่ถูกอันธพาลสองสามคนนี้ฉีกทึ้งเสื้อผ้าออกแล้ว มองดูสายตาที่ตื่นตระหนกและหวาดกลัวของนาง เข็มเงินที่อยู่ในมือพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
“สั่งสอนนาง ข้าลงมือเองก็พอแล้ว วิธีการที่สกปรกเช่นนี้ข้าไม่สนใจหรอก!” หยุนถิงกล่าวอย่างเย็นชา คนทั้งคนแว๊บเข้าไปทันที
ซูหลินนับถือจนอยากจะก้มลงกราบ สมกับที่เป็นคุณหนูใหญ่ จิตใจกว้างขวาง ไม่ถือสาหาความ วิสัยทัศน์กว้างไกล
อันธพาลสองสามคนที่อยู่ไม่ไกลยังไม่ทันได้ตอบสนองกลับมาก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนแล้ว มองดูคนที่จู่ๆก็วิ่งเข้ามารู้สึกโมโหขึ้นมาทันที“ไอ้เด็กบ้าเจ้าอย่ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน มิเช่นนั้นพวกข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”
หยุนถิงเหลือบมองไปทางพวกเขา“อย่าพวกเจ้า ก็คู่ควรหรือ!”
อันธพาลสองสามคนนั้นยังไม่ทันได้ตอบโต้ ก็ถูกหยุนถิงเตะกระเด็นออกไปทีละคนในพริบตา ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรง ไม่สามารถขยับเขยื้อนได้อีก
หยุนถิงหันหน้ามองทางองค์หญิงหลันรั่ว“เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?”
องค์หญิงหลันรั่วในเวลานี้ เสื้อผ้าถูกฉีกทึ้งจนขาดวิ่นไป ไหล่กับแขนล้วนเผยออกมาด้านนอก ผมเผ้ายุ่งเหยิง สายตาตื่นตระหนก ทุลักทุเลอย่างมาก
หยุนถิงเห็นนางตกใจจนตะลึงงันไป ไม่ขยับเขยื้อน มองดูตัวเองอย่างมึนงง ถอดเสื้อคลุมที่อยู่บนร่างกายลงมาคลุมให้นาง
ถึงแม้นางจะโอหังและกำเริบเสิบสาน น่ารังเกียจจริงๆก็เถอะ แต่อย่างไรก็เป็นหญิงสาวที่ยังไม่แต่งงาน จู่ๆก็เจอกับเรื่องแบบนี้เกรงว่าคงจะตกใจแย่แล้ว
“องค์หญิง องค์หญิงท่านอยู่ไหน?” ไม่ไกลออกไป เสียงตะโกนของคนไม่น้อยดังขึ้นมา
หยุนถิงหันหลังพาซูหลินจากไป จากนั้นก็เห็นผู้ติดตามขององค์หญิงหลันรั่วเข้าไปหาทางด้านนั้น ถึงได้จากไปอย่างวางใจ
หลิวมามาพาบรรดาองครักษ์เข้าไป มองเห็นองค์หญิงในสภาพที่ทุลักทุเลเหลือทน ยืนตะลึงงันอยู่ตรงนั้น บนพื้นยังมีผู้ชายนอนอยู่หลายคนก็ตกใจแทบแย่ในทันที รีบวิ่งเข้าไปทันที
“องค์หญิง องค์หญิงท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...