จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 44

จวินหย่วนโยวที่อยู่บนเรือ แน่นอนว่าเขาเห็นการเคลื่อนไหวของหลิงเฟิง เขามิได้กล่าวอะไร ตกปลาต่อไป

มิไกล โจวโฉงและหลิ่วเหมยซึ่งกำลังกินเค้กอยู่ กล่าวคุยกันอย่างสนุกสนาน จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงขิมโบราณดังขึ้นมา และเมื่อมองเห็นผู้บรรเลงขิมโบราณ ใบหน้าของทั้งสองก็เผยให้เห็นถึงความดูถูก

“นั่นมิใช่สัญลักษณ์ของหอชุนเฟิงหรือ? นั่งหัวเรือเพื่อบรรเลงขิมโบราณ ช่างเป็นเรื่องน่ารังเกียจเสียจริง” โจวโฉงกล่าวด้วยความดูถูก

“จงใจแต่งตัวเพื่อดึงดูดคุณชายของตระกูลอื่น เนื่องจากหากได้แต่งงานกับคุณชายของตระกูลใดตระกูลหนึ่งอย่างเป็นทางการ เช่นนั้นก็จะเป็นโชคดีของชีวิต” หลิ่วเหมยกล่าวออกมาด้วยความดูหมิ่น

ขณะที่พวกนางทั้งสองกำลังมองผู้หญิงซึ่งกำลังบรรเลงขิมโบราณอยู่นั้น จู่ ๆ เรือของพวกนางก็สั่นไหว ทำให้โจวโฉงและหลิ่วเหมยตกใจเป็นอย่างมาก

“เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ เรือถึงโคลง คนพายเรือ?” โจวโฉงตะโกนออกมา

ชาในมือของหลิ่วเหมยหกเลอะเทอะ นางเอนไปด้านข้างและจับไปยังข้างเรือเพื่อพยุงโดยมิรู้ตัว

คนพายเรือมองไปโดยรับทันที “คุณหนู ข้าเองก็มิรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ที่ผ่านมาข้าก็มิเคยเจอกับสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน”

“นี่มิใช่เรือของเจ้างั้นหรือ? ทำไมเจ้าถึงมิรู้” โจวโฉงกล่าวด้วยความโกรธ

“นี่ นี่หรือว่าจะเป็นสิ่งชั่วร้าย?” หลิ่วเหมยกล่าวออกมาอย่างระมัดระวัง

“มิรู้ก็อย่ากล่าวจาเหลวไหล นี่คือคูเมือง จะมีสิ่งชั่วร้ายได้อย่างไร ก่อนหน้านี้พวกเราก็มาเที่ยวกันหลายครั้งแล้ว ทุกครั้งก็ไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน” โจวโฉงยังคงสงบ

“แต่นี่มันชั่วร้ายเกินไปหรือเปล่า คนพายเรือ เจ้ารีบนำเรือเข้าฝั่ง ข้าจะกลับบ้าน ข้าอยากกลับไปอย่างปลอดภัย” หลิ่วเหมยตกใจจนหน้าซีด

คนพายเรือรีบพายออกไปทันที แต่คิดไปคิดมามันก็แปล คนพายเรือพายออกไป แต่ทิศทางของเรือกลับตรงกันข้าม วนอยู่ในน้ำเช่นนั้น ไม่ได้เคลื่อนที่ไปด้านหน้าแต่อย่างใด

คนพายเรือเองก็ตกใจเป็นอย่างมาก “นี่มันสิ่งชั่วร้าย”

เรือหยุดเคลื่อนไหวอย่างกะทันหัน คนพายเรือออกแรงเต็มที่เพื่อพายเข้าฝั่ง

เห็นว่าเข้าใกล้ฝั่งแล้ว แต่สุดท้ายเรือกลับแล่นไปด้านหน้าอย่างไร้การควบคุม และความเร็วก็ช่างน่าตกใจเหลือเกิน

จากนั้นจวินหย่วนโยวก็เห็นเรือแล่นออกไปราวกับลูกธนูหลุดออกจากเชือก รวดเร็วจนน่าตกใจ ผู้หญิงทั้งสองคนบนเรือล้มลง กรีดร้องออกมาด้วยความตกใจและหวาดกลัว

เรือลำนั้นราวกับว่าถูกสิ่งชั่วร้ายสิงสู่ มันเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เหมือนกับมีใครกำลังควบคุมอยู่ แม้ว่าจะแล่นไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว แต่มันก็หลีกเลี่ยงการปะทะกับเรือลำอื่น และยังจงใจแกว่งไปมา ทำให้โจวโฉงและหลิ่วเหมยที่อยู่บนเรือเสียการทรงตัว ล้มลงบนพื้นเรือด้วยความเจ็บปวด และกรีดร้องออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า

คนบนเรือลำอื่นที่เห็นฉากนี้ต่างตื่นตกใจ พวกเขามองเข้ามาและบอกให้คนพายเรือของตนเองนำเรือเข้าฝั่ง

แม่น้ำสายใหญ่ว่างเปล่า มีเพียงเรือของโจวโฉงกับหลิ่วเหมยที่เหมือนกับถูกสิ่งชั่วร้ายควบคุมแล่นไปมาอยู่ในน้ำ

คนพายเรือตกใจมาก เขากระโดดลงไปในน้ำ การรักษาชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

ส่วนโจวโฉงกับหลิ่วเหมยว่ายน้ำไม่เป็น และคูเมืองนั้นลึกมาก พวกนางทำได้แค่ปกป้องชีวิตของตนเองอยู่บนเรือ คว้าสิ่งที่ทำได้ และพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อรักษาชีวิตเอาไว้

พวกนางร้องขอความช่วยเหลือมิยอมหยุด คนบนเรืออื่นต่างได้ยิน แต่ปกติแล้วโจวโฉงกับหลิ่วเหมยเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้าเล่ห์ มีเรื่องกับผู้คนมากมาย เวลานี้เกิดเรื่องขึ้นกับพวกนาง ทุกคนรู้สึกสะใจ มองดูสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างสนุกสนานโดยไม่คิดจะเข้าไปช่วย

ดวงตาของจวินหย่วนโยวเหลือบไปเห็นขอบด้านหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกล หลิงเฟิงเองก็ว่ายไปใกล้ฝั่ง ดูการแสดงด้วยใบหน้าที่ภาคภูมิใจ หัวเราะเป็นครั้งคราว รูปร่างหน้าตาของนางนั้นเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก

แม้มิเข้าใจว่าทำไมเรือดังกล่าวถึงเป็นเช่นนั้น แต่จวินหย่วนโยวเห็นว่านางมีความสุข เขาจึงปล่อยให้นางทำตามใจ

แววตาหลิงเฟิงที่อยู่ด้านข้างเต็มไปด้วยความงุนงง “ซื่อจื่อ หรือว่าเรือลำนั้นถูกสิ่งชั่วร้ายเข้าจริง ให้ข้าลองไปตรวจสอบดูหรือไม่?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ