จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 46

โม่ฉือชิงโมโหจนหน้ามืดแล้ว “หยุนถิงนี่เจ้าหมายความว่าอันใด ข้ามิหน้าด้านพอที่จะเป็นหนุ่มละอ่อนให้ผู้หญิงเลี้ยงหรอก”

“เจ้ามิเคยทานองุ่นแต่มิชอบองุ่นเปรี้ยว” หยุนถิงแบะปาก

“ถุย ข้ามิเคยเห็นมาก่อนต่างหากเล่า ข้ามีมือมีเท้าเลี้ยงดูตัวเองได้” โม่ฉือชิงกล่าวดูหมิ่น

“มัวกล่าวคำไร้สาระกับเขาทำไมกัน เร่งทานตอนกำลังร้อนดีกว่า เดี๋ยวจะเย็นเสียก่อน” จวินหย่วนโยวกล่าวพลางแกะก้างปลาของตนออก แล้ววางเนื้อปลาทั้งหมดลงบนจานของหยุนถิง

“ช่างเป็นซื่อจื่อที่แสนดีเสียจริง ข้าฟังเจ้าแล้วกัน ถือเสียว่าเจ้าเอ็นดูข้า” หยุนถิงคีบเนื้อปลาขึ้นแล้วทานทั้งคำใหญ่

จวินหย่วนโยวยังคีบปลามาวางใส่จานของนาง และแกะก้างปลาต่อไป

โม่ฉือชิงที่กำลังมองดูอยู่ก็รู้สึกมิค่อยสบายใจนัก แม้ว่าทั้งสองคนจะมิลงลอยกัน แต่ดูเหมือนว่ายังมิเคยมีใครเคยแกะก้างปลาให้เขาเลย

เพียงแต่เขามิเคยเห็นสักเท่าใดนักที่เอ่ยเพียงประโยคเดียวแล้วยังมิมีคนใช้วิ่งกรูกันเข้ามาปรนนิบัติตน

ฝั่งนั้นมีคนรับใช้เดินปรี่มาแล้วคำนับแสดงความเคารพกล่าวว่า “นายท่าน ยังจะรับประทานปลาที่อยู่ในหม้ออีกหรือไม่?”

“เป็นอันใดไปหรือ?” หยุนถิงหันมามอง

“ปลาที่นายหญิงทำรสชาติอร่อยเป็นอย่างยิ่ง ปกติข้าน้อยเยี่ยงตนก็นำปลามาประกอบอาหารเช่นกัน แต่มิเคยทำออกมาได้อร่อยเยี่ยงนี้” ข้าน้อยเพียงแค่คิดนะ หากนายหญิงมิรับประทานแล้ว ข้าน้อยก็จะนำกลับบ้านไปให้ท่านแม่ลองชิม” คนผู้นั้นตอบกลับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ

หยุนถิงได้ยินเช่นนั้นจึงตอบตกลงไปทันที “ยากนักที่จะเจอคนที่รักและเป็นห่วงมารดาเยี่ยงเจ้า นี่สิถึงจะสมควรเป็นแบบอย่างของสุภาพบุรุษที่ดี ปลาที่ในหม้อที่เหลือยกให้เจ้าทั้งหมดเลย เอากลับไปเถิด ”

“ขอบใจนายท่านมาก” คนผู้นั้นซาบซึ้งใจเป็นอย่างยิ่ง

โม่ฉือชิงได้ยินเช่นนั้นจึงกระโดดพรวดขึ้นทันที “หยุนถิง เจ้าทำเยี่ยงนี้มิถูกต้อง ข้ายังมิได้ทานเลย แต่เจ้ากลับยกให้กับคนรับใช้ไปเสียนี่”

“เหตุใดข้าจะต้องให้เจ้าทานด้วยเล่า จะว่าไปเจ้าเป็นถึงองค์ชายซึ่งนับว่ามิธรรมดาแล้วนะ และเจ้ามีสถานะเพียบพร้อม หากว่าเจ้าเป็นคนธรรมดาสามัญชนกระทำตัวตรงไปตรงมาราวขวานผ่าซากเช่นนี้มิรู้ว่าจะถูกคนตีไปกี่ครั้งแล้ว ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน หาได้จำเป็นต้องแบ่งชนชั้นกันถึงเพียงนี้ไม่ ในสายตาของข้านั้นเขายังดีกว่าเจ้าเสียอีก อย่างน้อยยังรู้จักรักและเป็นห่วงมารดา คนโสดอย่างเจ้าคิดแต่จะกินเที่ยวเล่นเพียงอย่างเดียว ไร้อนาคต” หยุนถิงกล่าวดูถูก

“สามหาวเกินไปแล้ว นังผู้หญิงอัปลักษณ์กล้าดียังไงมากล่าววาจาทำให้ข้าอับอายเยี่ยงนี้” องค์ชายสี่โกรธจนหน้ามืด

“ทำไมหรือ เจ้าจะลงไม้ลงมือกับนายหญิงของซื่อจื่อเชียวรึ?” จวินหย่วนโยวกวาดสายตามองอย่างเย็นชา

โม่ฉือชิงตกใจจนตัวสั่นเทา ถึงแม้จวินหย่วนจะเป็นคนขี้โรค แต่ฝีมือของหลิงเฟิงก็มิแพ้ใครในเมืองหลวง ประกอบกับเขายังมีองครักษ์เงามังกรที่คอยช่วยเพิ่มความกล้าหาญให้กับเขา และโม่ฉือชิงเองก็มิกล้าลงมือกับจวินหย่วนโยว

โม่ฉือชิงเหลือบมองไปยังเตาที่วางอยู่มิไกล พลางแก้คำพูดใหม่ทันทีว่า “ข้ายังมิได้ทานปลาเลยแม้แต่น้อย เหตุใดข้าจะเอาเปรียบคนใช้ของเจ้าสักหน่อยมิได้เล่า” กล่าวจบจึงวิ่งตะบึงไปทันที

จวินหย่วนโยวมิให้ความสนใจ หยุนถิงสังเกตโม่ฉือชิงได้ในทันทีว่ากำลังหาข้ออ้างให้กับตนเอง พลางมองเขานำปลาอีกตัวหนึ่งออกมา ก่อนที่จะแบ่งปลาสองตัวเหลือไว้ให้คนใช้ หยุนถิงมิได้กล่าวอันใด

เมื่อพวกเขาทั้งหลายรับประทานปลาเสร็จแล้วจึงกลับจวนซื่อจื่อไป

วันพรุ่งจะต้องไปบ้านตระกูลซูเพื่อทำแผลให้ซูชิงโยว ดังนั้นเมื่อหยุนถิงเข้ามาถึงในห้องแล้วก็ปิดตา ก่อนที่จะพาตนเองทะลุเข้าไปในมิติเพื่อทำแผ่นเคลือบผิวที่ช่วยขับพิษบนใบหน้า เพราะว่านางใช้ของที่มีอยู่หมดแล้ว

เมื่อจวินหย่วนโยวเข้าไปจัดการธุระในห้องหนังสือ พ่อบ้านจึงปรี่มารายงาน “ซื่อจื่อ ท่านลั่วส่งจดหมายมาแล้วบอกว่าจะกลับมาถึงเมืองหลวงในอีกครึ่งเดือน”

ในช่วงหลายปีมานี้ท่านลั่วคอยช่วยเหลือจวินหย่วนโยวดูแลรักษาร่างกายผู้คนมาตลอด คนภายนอกขนานนามว่าเป็นหมอปีศาจ เดินทางไปมาอย่างลึกลับ แม้แต่บรรดาเหล่าราชนิกุลหรือขุนนางทั่วสี่แคว้นก็ต่างแทบพลิกแผ่นดินตามหาเขา ครานั้นเมื่อท่านลั่วประสบกับความทุกข์ยากก็ได้รับการช่วยเหลือจากบิดาของจวินหย่วนโยว ดังนั้นในช่วงหลายปีมานี้ท่านลั่วจึงคอยช่วยรักษาจวินหย่วนโยวมาโดยตลอด

มินานก่อนหน้านี้ ภายในร่างกายของจวินหย่วนโยวก็เกิดเป็นพาวิกฤติขึ้นอย่างรุนแรง ท่านลั่ว จึงเดินทางไปยังภูเขาเทียนเพื่อตามหายารักษาด้วยตนเอง และหายไปเป็นเวลากว่าสามเดือนด้วยกัน จนกระทั่งตอนนี้เพิ่งจะได้รับข่าวคราว

“เยี่ยมมาก เร่งส่งคนไปแอบคอยคุ้มกันความปลอดภัยให้กับท่านลั่วโดยด่วน” จวินหย่วนโยวออกคำสั่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ