สายตาจวินหย่วนโยวเย็นเยียบ “คนพวกนั้นที่แคว้นชางเยว่ล้วนมิใช่ธรรมดา พวกเขาสามารถลงมือกับชางหลันเย่ในพระราชวังของแคว้นต้าเยียน เห็นได้ชัดว่าไม่อยากให้เขากลับไป บัดนี้เขากลับไปได้อย่างปลอดภัย คนพวกนั้นมีหรือจะปล่อยเขาไว้!”
“ข้าอยากกลับจวนซื่อจื่อแล้ว ข้ามีความคิดดีๆแล้ว ถือว่าช่วยเขาแล้วกัน” หยุนถิงบอก
“ทำไมเจ้าต้องช่วยเขาถึงเพียงนี้?” จวินหย่วนโยวถาม
ทั้งๆที่เขาจำได้ว่าหยุนถิงมิได้สนิทสนมอะไรกับชางหลันเย่นัก ทำไมต้องทำเต็มที่ขนาดนี้
“เพราะข้าเห็นใจเขา เขาโดนคนที่สนิทที่สุดส่งตัวมาเป็นตัวประกันที่แคว้นต้าเยียนตั้งแต่เล็ก ต้องอดทนรับการทรมานเหยียดหยามทรมาน เขามีชีวิตอยู่มาได้จนบัดนี้ เห็นได้ชัดว่าเขาจิตใจมั่นคง มันไม่ง่ายเลยจริงๆ
ซื่อจื่อของข้ามีเงินมากขนาดนี้ ใช้ไปหลายชาติก็ใช้ไม่หมด เหตุใดต้องประหยัดเช่นนี้ ช่วยคนก็เหมือนช่วยตัวเอง ไม่แน่ว่าวันไหนพวกเราก็อาจต้องการการช่วยเหลือจากเขาก็ได้!” หยุนถิงอธิบาย
จวินหย่วนโยวเห็นนางใจกว้างเช่นนี้ สายตากว้างไกล ดวงตาดำขลับเต็มไปด้วยแววชื่นชม “ได้ ฟังเจ้านะ ตอนนี้พวกเรากลับไปก่อน!”
ทั้งสองคนกลับไปเก็บข้าวของ ส่งคนไปบอกฮ่องเต้ จากนั้นขึ้นรถม้าจากไป
ตอนองค์ชายสี่โม่ฉือชิงมาหาหยุนถิง ก็ไม่พบใครแล้ว
“สองคนนี้รีบร้อนกลับไปอย่างนี้ หรือมีเรื่องอะไรดีๆอีกกันแน่?” โม่ฉือชิงบ่น
ในเมื่อหยุนถิงกลับไปแล้ว เขาอยู่ต่อก็ไม่มีความหมายอะไร
ส่วนทางด้านซูชิงโยว หลังจากพักฟื้นสองวันแล้ว ข้อเท้าดีขึ้นหน่อย สาวใช้เห็นอากาศไม่เลว กำลังพยุงนางออกไปตากแดดในสวน จากนั้นก็เห็นหยุนไห่เทียนเดินเข้ามา
สีหน้าซูชิงโยวกระอักกระอ่วนยิ่งนัก คิดถึงคำพูดของหยุนไห่เทียนก่อนหน้านี้ เลยยิ่งไม่มีหน้าจะอยู่ต่อ
“คุณหนูซู ถิงเอ๋อร์ส่งคนมาบอกข้าว่านางมีธุระต้องกลับไปก่อน ให้ข้าสั่งคนส่งท่านกลับไป หากตอนนี้ท่านอยากกลับ ข้าจะให้ลูกน้องไปส่งท่านดีหรือไม่?” หยุนไห่เทียนถาม
“หยุนถิงมีเรื่องสำคัญอะไรรึ?” ซูชิงโยวถามอย่างกังวล
“มีจวินหย่วนโยวอยู่เป็นเพื่อนนาง น่าจะไม่เป็นอะไร”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ รบกวนแม่ทัพหยุนแล้ว ตอนนี้ข้าจะไปเก็บข้าวของเลย!” ซูชิงโยวพูดจบ หมุนตัวทำท่าจะไป
เพียงแต่นางลืมว่าข้อเท้าของตนยังบาดเจ็บอยู่ ขาพึ่งแตะพื้น ความเจ็บปวดเสียดแทงใจขึ้นมา ทำให้สีหน้าซูชิงโยวซีดเผือดหนักมาก แทบล้มลงพื้นไป
หยุนไห่เทียนเห็นอย่างนั้นก็พุ่งเข้าไปรับนางเอาไว้ “เจ้ายังดีอยู่หรือไม่?”
ซูชิงโยวรู้สึกได้ถึงว่ามือใหญ่มีพลังนั่นกำลังดึงแขนตนอยู่ แก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันที นางรีบยืนตัวตรง “ขอบคุณแม่ทัพหยุนนั่นที่ช่วยเหลือ แต่ข้ามิเป็นไรแล้ว แผลเล็กน้อยเท่านั้นเอง” ระหว่างพูด ก็ผลักมือหยุนไห่เทียนออก
“ถิงเอ๋อร์ไหว้วานข้าดูแลเจ้า ข้าย่อมไม่อาจให้เจ้าเกิดเรื่องได้ ให้สาวใช้เจ้าไปเก็บข้าวของเสีย ข้าจะให้คนนำรถม้ามาบัดเดี๋ยวนี้!” หยุนไห่เทียนหมุนตัวจากไป
สาวใช่รีบบอก “คุณหนู เมื่อครู่ท่านมิเป็นไรกระมัง ทำข้าตกใจหมด โชคดีมีแม่ทัพหยุนอยู่!”
แววตาซูชิงโยวมีประกายกระอักกระอ่วน “เจ้าไปเก็บข้าวของเถิด”
“เจ้าค่ะ!”
หยุนไห่เทียนพาลูกน้องสองคนมาอย่างรวดเร็ว และยังมีรถม้าคันหนึ่งหยุดอยู่นอกเรือน
สาวใช้เก็บข้าวของเสร็จแล้ว ก็พยุงซูชิงโยวออกไป
จวนจนรถม้าจากไป หยุนไห่เทียนถึงได้หมุนตัวจากไป
พอเขาหันหัวกลับมา ก็เห็นหลิ่วเฟยที่ยืนห่างไปไม่ไกลกำลังมองมาที่ตนเอง หยุนไห่เทียนรีบเข้าไปคารวะทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...