จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 558

คำพูดประโยคเดียวทำให้องค์หญิงใหญ่แคว้นเทียนจิ่วโกรธสุดขีด เห็นเพียงสีหน้าของนางดำมืด ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปทางจวินหย่วนโยวราวกับกำลังพ่นไฟด้วยความโกรธ ถ้าหากสายตาสามารถฆ่าคนให้ตายได้ เกรงว่าจวินหย่วนโยวคงจะตายไปแปดร้อยครั้งแล้ว

เด็กรุ่นหลังคนหนึ่งถึงกับกล้าโอหังเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขายังเป็นลูกของผู้หญิงคนนั้นอีก คิดถึงตรงนี้องค์หญิงใหญ่ก็ยิ่งโกรธสุดขีด

“จวินหย่วนโยวเจ้าถึงกับกล้าทำให้ข้าอับอาย!” องค์หญิงใหญ่กล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“คนที่ข้าจะทำให้อับอายก็คือท่านนี่แหละ!” จวินหย่วนโยวตอกกลับไปอย่างแข็งกร้าว

“ดูท่าองค์หญิงใหญ่ยังอยากจะไปเป็นแขกของจวนซื่อจื่ออีก!” หยุนถิงกล่าวอย่างราบเรียบ

องค์หญิงใหญ่ที่เดิมทีโอหังและโมโห ก็หมดความโกรธในทันที นึกถึงคนที่เหมือนกับตัวเองทุกประการคนนั้น ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่ซีดขาวไปเล็กน้อย

นางได้แต่กลืนความโกรธนี้ลงไป“พวกเจ้าสองคนยอดเยี่ยมจริงๆ ช้าเร็วข้าจะจัดการพวกเจ้าซะ!” พูดจบ ก็มุ่งหน้าเข้าไปที่ประตูวัง

หลัวหรูจี๋กับจี้อวี๋ที่ตามอยู่ด้านหลังรีบตามไปทันที

จวินหย่วนโยวจูงมือของหยุนถิงเอาไว้ ทั้งสองคนก็ตามเข้าไปเช่นกัน

คืนนี้เป็นงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ฮ่องเต้ให้คนจัดงานเลี้ยงในพื้นที่ว่างหน้าพระตำหนักโดยเฉพาะ สถานที่กว้างขวางและยังสามารถชมจันทร์ด้วย ไม่เลวจริงๆ

เมื่อทุกคนเห็นหยุนถิงมา ต่างก็พากันเข้ามาทักทาย

องค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่วที่อยู่ตรงข้ามเห็นท่าทางที่ล้อมวงไต่ถามสารทุกข์สุกดิบหยุนถิงของทุกคน ใบหน้าเต็มไปด้วยการดูหมิ่น ปล่อยให้เจ้าได้ใจไปสักพักหนึ่งก่อน อีกเดี๋ยวดูสิว่าเจ้ายังจะยิ้มออกหรือไม่

“ฝ่าบาทเสด็จแล้ว!”

ทุกคนรีบลุกขึ้นมาทันที เห็นเพียงฮ่องเต้สวมชุดคลุมมังกรสีเหลืองสว่าง เดินเข้ามาอย่างสง่างามน่าเกรงขาม หลิ่วเฟย เหมยเฟย ฉินเฟย สนมทั้งสามติดตามอยู่ด้านหลัง

หลิ่วเฟยสวมชุดฝ่ายในสีฟ้าอ่อน ราวกับดอกบัวเขียวที่โผล่พ้นโคลนตม สง่างามหลุดพ้นจากทางโลก เหมยเฟยสวมชุดฝ่ายในสีชมพูเข้ม ช่วงหน้าอกของเสื้อปักลายดอกเหมย หยิ่งทะนงแต่กลับไม่แข็งกร้าว มีความอ่อนโยนและใกล้ชิดเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย

และฉินเฟย สวมชุดกระโปรงยาวลากพื้นสีม่วงทั้งชุด ราบเรียบและมีเสน่ห์เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แสงจันทร์สาดส่องไปบนกระโปรงยาวของนาง ประกายแสงรัศมีสีม่วง แค่เห็นก็รู้ว่าออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน

ทุกคนพากันคำนับทันที“คำนับฝ่าบาท คำนับเหนียงเหนียง!”

“เอาล่ะ ลุกขึ้นกันเถอะ วันนี้เป็นวันฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งมีความหมายของความสุขแห่งวันพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทุกคนไม่ต้องระแวดระวังกันเกินไป ทำตัวตามสบายก็พอ” ฮ่องเต้ตรัสอย่างราบเรียบ

“พ่ะย่ะค่ะ!” ทุกคนถึงได้พากันนั่งลง

“เป็นครั้งแรกที่แคว้นเทียนจิ่วอยู่ฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ที่ต้าเยียนข้า คืนนี้องค์หญิงใหญ่จะต้องสนุกอย่างเต็มที่นะ!” ฮ่องเต้มองมา

องค์หญิงใหญ่ยิ้มอย่างเฉยเมย“ฝ่าบาทมีน้ำใจลึกซึ้งเปี่ยมไปด้วยความเมตตากรุณาเช่นนี้ หากข้าปฏิเสธย่อมเป็นการแสดงความไม่เคารพ!” องค์หญิงใหญ่ตอบพร้อมกับยิ้มเล็กน้อย

“ฝ่าบาท หม่อมฉันให้คนเตรียมการร้องเพลงและร่ายรำเพื่อเพิ่มอรรถรส!” เฟิ่งจาวหยีเดินเข้ากล่าว พร้อมกับปรบมือ นางรำเจ็ดแปดคนก็เดินเข้ามา

“ดี!” ฮ่องเต้ตรัสด้วยความพอพระทัย

เสียงพิณดังขึ้นมา บรรดานางรำเยื้องกรายร่ายรำ คนอื่นๆต่างพากันมองไปทางนางรำ

บรรดานางกำนัลต่างพากันยกอาหารและสุราชั้นเลิศเข้ามา นางกำนัลคนหนึ่งยืนอยู่ด้านหน้าของหยุนถิงพอดี กำลังยกกาสุราที่อยู่ด้านข้างขึ้นมารินสุรา

เฟิ่งจาวหยีที่อยู่ไม่ไกลออกไปมองดูอยู่ จากนั้นก็ชำเลืองไปทางองค์หญิงใหญ่แห่งแคว้นเทียนจิ่ว ทั้งสองคนมองสบตากันครู่หนึ่ง ก็เบือนสายตาออกไปทันที

โม่ฉือหานที่อยู่ด้านข้างเห็นทั้งหมดนี้ในสายตา เดิมทีเขาก็ได้ยินมาแล้วว่าองค์หญิงใหญ่กับเฟิ่งจาวหยีร่วมมือกัน ตอนนี้พวกนางมองไปทางหยุนถิง และชำเลืองนางกำนัลที่รินสุราคนนั้นเมื่อครู่นี้ สีหน้าของโม่ฉือหานเย็นยะเยือกในทันที มือที่ถือถ้วยสุรายังอดที่จะใช้แรงไม่ได้

ถ้าหากเป็นจวินหย่วนโยว เขาจะไม่ยุ่งเด็ดขาด แต่เป็นหยุนถิง โม่ฉือหานลังเลและหงุดหงิดโมโห

ช่วยนาง หรือว่าไม่ช่วย?

และหยุนถิงที่อยู่ตรงข้ามเพียงแค่ชำเลืองมองนางกำนัลที่รินสุราคนนั้นอย่างราบเรียบครู่หนึ่ง ไม่ได้มีปฏิกิริยามากนัก

“ฝ่าบาท วันนี้เป็นวันฉลองเทศกาลวันไหว้พระจันทร์ ข้าดื่มคารวะพระองค์ ขอให้แคว้นต้าเยียนข้าสงบสันติประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรือง นอกเหนือจากนี้ขอบพระทัยเสด็จพี่ที่แต่งตั้งข้าเป็นอ๋อง!” เฉินอ๋องโม่ฉือชิงยกถ้วยสุราขึ้นมาก็ดื่มหมดในรวดเดียว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ