แก้มของซูชิงโยวแดงก่ำด้วยความเขินอายทันที แต่ที่นี่ไม่มีรถม้า ก็ได้แต่ขี่ม้าแล้ว
“ตกลง!”
หยุนไห่เทียนยื่นมือมาอุ้มซูชิงโยวขึ้นไปบนหลังม้าในแนวนอน จากนั้นตัวเองก็กระโดดตัวขึ้นม้า จากไปอย่างสง่าผ่าเผย
ม้าสั่นโคลนเคลง เป็นครั้งแรกที่ซูชิงโยวขี่ม้าที่วิ่งเร็วขนาดนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย นางต้องการจะจับอะไรเอาไว้ แต่ไม่มีอะไรให้จับเลย รู้สึกตื่นตระหนกอย่างมาก
“จับบังเหียนเอาไว้ ไม่ต้องกลัว มีข้าอยู่!” หยุนไห่เทียนยื่นบังเหียนมาให้
ซูชิงโยวรีบจับเอาไว้ทันที อานม้ามีขนาดใหญ่เท่านี้ ซูชิงโยวอิงแอบอยู่ในอ้อมแขนของหยุนไห่เทียน ร่างกายของทั้งคู่สัมผัสกันเป็นระยะๆ นี่ทำให้ซูชิงโยวยิ่งรู้สึกอายมากขึ้น
แต่ในใจของนางรู้สึกหวานซึ้งจริงๆ ขี่ม้ากับแม่ทัพหยุนเป็นครั้งแรก ทั้งสองคนอยู่ใกล้ชิดกันและกัน ได้กลิ่นลมหายใจที่เย็นยะเยือกจากร่างกายของเขา ซูชิงโยวรู้สึกสบายใจอย่างมาก
“แม่ทัพหยุน ท่านส่งข้าไปที่จวนซื่อจื่อได้ไหม ข้าอยากไปเยี่ยมหยุนถิง?” ซูชิงโยวเอ่ยปาก
“ตกลง!”
จวนซื่อจื่อ
ซูชิงโยววิ่งเข้าไปด้วยความกระวนกระวาย แต่แล้วก็เห็นหยุนถิงที่อยู่ในลานกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือ กินขนมอบและแอบแดดอยู่ อย่าให้พูดเลยว่าสบายแค่ไหน
“หยุนถิงเจ้าไม่เป็นอะไรช่างดีจริงๆ ข้าเป็นห่วงเจ้าจะตายอยู่แล้ว สุขภาพของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง พิษที่ถูกได้รับการรักษาหรือยัง?” ซูชิงโยววิ่งเข้ามาด้วยความเป็นห่วง
หยุนถิงรู้สึกประทับใจมาก“วางใจเถอะ ข้าไม่เป็นไรแล้ว นี่เดิมทีก็เป็นแผนการที่ข้ากับซื่อจื่อและคนอื่นๆวางเอาไว้อยู่แล้ว จุดประสงค์ก็เพื่อกักตัวองค์หญิงใหญ่แคว้นเทียนจิ่วเอาไว้ ทำให้เจ้าเป็นห่วงแล้ว เหตุผลที่ไม่ได้บอกเจ้า ก็เพราะว่าเจ้ากับข้ามีความสัมพันธ์ที่ดี หากเผยพิรุธต้องถูกคนสงสัยอย่างแน่นอน!”
ซูชิงโยวถึงได้ปล่อยวางใจที่รู้สึกเป็นกังวลลง“ขอเพียงเจ้าไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เจ้าสบายดีและปลอดภัยอยู่เหนือกว่าทุกสิ่ง องค์หญิงใหญ่เป็นคนเจ้าเล่ห์เกินไป ไม่สามารถเผยพิรุธออกมาได้จริงๆ ข้าสามารถเข้าใจได้”
หยุนถิงยื่นมือไปจับมือของนางขึ้นมา“ชาตินี้ ได้มีเพื่อนคนนี้ ข้าซาบซึ้งใจและดีใจอย่างมาก”
“พูดอะไรน่ะ ข้าต่างหากที่รู้สึกเป็นเกียรติที่มีเพื่อนอย่างเจ้า!” ซูชิงโยวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หยุนถิงกับซูชิงโยวพูดคุยกันอีกพักหนึ่ง ในขณะที่จวินหย่วนโยวไปพูดคุยกับหยุนไห่เทียน ถึงแม้หยุนไห่เทียนจะกำลังพูดคุยอยู่ แต่สายตากลับมองไปทางซูชิงโยวเป็นระยะๆ
หยุนถิงเห็นทุกอย่างนี้ในสายตา เข้าไปใกล้ซูชิงโยว“เจ้ากับพี่ใหญ่ข้าสำเร็จแล้ว?”
ใบหน้าของซูชิงโยวแดงก่ำขึ้นมาในทันใด“เจ้าอย่าพูดจาเหลวไหล”
“ข้าพูดจาเหลวไหลที่ไหน ข้ากลัวว่าเจ้าจะได้รับความคับข้องใจในพระราชวัง ก็เลยให้คนส่งจดหมายไปให้พี่ใหญ่ เขาเร่งเดินทางมาที่พระราชวังในคืนนั้นเลย ข้าให้เขารอเจ้าอยู่ที่หน้าประตูพระราชวัง ใครจะไปคิดว่าเขาจะเข้าไปหาเจ้าเลย นี่ยังไม่ชอบอีกหรือ?” หยุนถิงจงใจเย้าแหย่นาง
ซูชิงโยวรู้สึกซาบซึ้งใจจริงๆ มองไปทางหยุนไห่เทียนโดยสัญชาตญาณ สายตาของทั้งคู่มองประสานกัน ซูชิงโยวรีบหลบสายตาออกไปทันที เพียงแต่ว่าลำคอก็แดงก่ำไปด้วย
“ดูท่าจวนตระกูลหยุนกำลังจะได้จัดงานมงคลแล้ว”
“เจ้าอย่าพูดเหลวไหล!”
หยุนถิงกับซูชิงโยวพูดคุยกันอีกพักหนึ่ง ถึงได้จากไป ก่อนจากไปหยุนไห่เทียนย่อมเป็นคนส่งนางไปอยู่แล้ว
“ดูท่าข้าต้องกลับไปที่จวนตระกูลหยุนสักครั้งแล้ว!” หยุนถิงเอ่ยปาก
“ข้าไปกับเจ้า!” จวินหย่วนโยวกล่าว
จวนตระกูลหยุน
เมื่อหยุนเฉิงเซี่ยงได้ยินว่าหยุนถิงกลับมา ก็มารับที่หน้าประตูด้วยตัวเองอย่างตื่นเต้น ยังให้พ่อบ้านไปเตรียมอาหารที่หยุนถิงที่ห้องครัวทันที
“ท่านพ่อ ลูกกลับมาเยี่ยมท่านแล้ว!” หยุนถิงเดินเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...