จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 567

องค์หญิงใหญ่ที่เดิมทีกำลังจะหมดสติ โกรธจนระเบิดอารมณ์ขึ้นมาโดยสัญชาตญาณ ชี้ไปที่โม่เหลิ่งเหยียนก็ก่นด่าขึ้นมา“ซวนอ๋องเจ้าพูดเหลวไหล ข้าไม่ได้วางยาพิษฮ่องเต้ต้าเยียนเลย เฟิ่งจาวหยีเป็นคนรับผิดชอบงานเลี้ยงในครั้งนี้ พวกเจ้าถึงกับใส่ร้ายข้า ยังมีกฎหมายอยู่อีกไหม!”

“หลีอ๋องนำกำลังคนตรวจค้นแปรพระราชฐาน พบยาเจ็ดวิญญาณในเรือนที่ท่านพำนักอยู่!” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวพร้อมหยิบขวดเครื่องเคลือบออกมา

ใบหน้าขององค์หญิงใหญ่เต็มไปด้วยความดูหมิ่น“ซวนอ๋องเอาขวดมาอันหนึ่งก็บอกว่าเป็นยาเจ็ดวิญญาณ สมองคงจะไม่ได้ถูกน้ำเข้าจนโง่หรอกใช่ไหม?”

โม่เหลิ่งเหยียนไม่โกรธ เพียงแต่เปิดฝาออกแล้วเทเม็ดยาที่อยู่ข้างในออกมา

ในตอนที่เห็นเม็ดยานั่น องค์หญิงใหญ่ชะงักงันไปจริงๆ“เป็นไปได้อย่างไร นี่มันเป็นไปไม่ได้เด็ดขาด!”

ตาเฒ่าเหอสกัดยาเจ็ดวิญญาณได้ทั้งหมดห้าเม็ดเท่านั้น นางใช้หมดแล้วแท้ๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีอีก

เพียงแต่ว่าสี และขนาดเล็กใหญ่ไม่แตกต่างจากยาเจ็ดวิญญาณจริงๆ นี่ทำให้องค์หญิงใหญ่รู้สึกประหลาดใจจริงๆ

มุมปากของโม่เหลิ่งเหยียนเกี่ยวขึ้นมาเย้ยหยันเล็กน้อย“องค์หญิงใหญ่รับสารภาพออกมาเองโดยไม่ต้องคาดคั้นทุกคนได้ยินอย่างชัดเจนแล้ว เด็กๆพาตัวออกไป!”

“ใครกล้า?” องค์หญิงใหญ่คำรามด้วยความโกรธ

“ข้ากล้า!” จู่ๆโม่เหลิ่งเหยียนก็แว๊บเข้ามาราวกับฟ้าแลบ สกัดจุดองค์หญิงใหญ่กับจี้อวี๋โดยตรง

ตอนนี้องครักษ์ลับและหน่วยกล้าตายข้างกายของนางล้วนถูกสังหารไปหมดแล้ว คนที่มีวรยุทธก็มีเพียงจี้อวี๋คนเดียวเท่านั้น

กองทหารหลวงสองสามคนเข้ามาทันที หิ้วตัวคนก็จากไป

“โม่เหลิ่งเหยียนเจ้าถึงกับกล้าสกัดจุดข้า ข้าไม่จบไม่สิ้นกับเจ้าแน่!” องค์หญิงใหญ่กล่าวอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“รอให้ท่านมีชีวิตออกมาจากคุกก่อนค่อยว่ากันแล้วกัน!” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวอย่างดูหมิ่น

องค์หญิงใหญ่สาปแช่งพร้อมถูกกองทหารหลวงนำตัวไป หลัวหรูจี๋ตกใจแทบตาย เขาได้ยินวิธีการของซวนอ๋องมานานแล้ว“ข้าไปเอง!”

โม่ฉือชิงมองด้วยความสาแก่ใจอย่างยิ่ง อดที่จะกล่าวชื่นชมไม่ได้“ซวนอ๋องเจ้านี่มันแน่จริงๆ จัดการคนเลวๆแบบนี้ต้องให้เจ้าลงมือจริงๆ!”

โม่เหลิ่งเหยียนชำเลืองมองเขาครู่หนึ่ง“ไม่มีความสามารถยังแสร้งทำเป็นเก่งอีก สมน้ำหน้า!”

“ใครเขาพูดจาอย่างเจ้ากัน ข้าก็แค่ให้ความสำคัญกับตำแหน่งเฉินอ๋องของข้า ใครจะไปคิดว่าเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด รีบให้ข้าดูหน่อย ตราพยัคฆ์ของแคว้นเทียนจิ่วหน้าตาเป็นอย่างไร?” โม่ฉือชิงเข้ามาใกล้

โม่เหลิ่งเหยียนโยนตราพยัคฆ์ที่อยู่ในมือเข้ามา โม่ฉือชิงรับเอาไว้ทันที มองซ้ายดูขวา ยังใช้มือชั่งน้ำหนักดูด้วยซ้ำ

“ของเล็กๆขนาดนี้เกือบจะทำให้ข้าตาย ไม่คุ้มเลยจริงๆ!” ขณะที่กล่าวไป โม่ฉือชิงก็เดินไปทางโม่หลาน ยื่นตราพยัคฆ์ให้กับนาง“ให้เจ้าเก็บเอาไว้เล่น!”

โม่หลานรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย“ท่านแน่ใจหรือว่าจะมอบสิ่งนี้ให้ข้า ตราพยัคฆ์อันนี้สามารถโยกย้ายกองทัพของแคว้นเทียนจิ่วนะ?”

“โยกย้ายกองทัพมีประโยชน์อะไร เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ชอบการตีรันฟันแทงเลย ข้าชอบแค่เงินเท่านั้น เจ้าสิ่งนี้อยู่ในมือข้าก็ไม่มีประโยชน์

ถ้าหากวันไหนมีคนคิดวางแผนอยากได้มัน ข้าก็ไม่สามารถปกป้องเอาไว้ได้ แถมยังจะนำมาซึ่งหายนะถึงชีวิต ไม่สู้ให้เจ้าเอาไว้ดีกว่า เจ้าเป็นถึงแม่ทัพของแคว้นต้าเยียน วันหน้าหากโจมตีแคว้นเทียนจิ่วต้องได้ใช้มันอย่างแน่นอน!” โม่ฉือชิงอธิบาย

โม่หลานคิดแล้วก็รู้สึกว่ามีเหตุผลจริงๆ“ได้ เช่นนั้นก็เอาไว้ที่ข้าก่อน หากวันไหนท่านต้องการขึ้นมา ข้าค่อยคืนให้ท่าน”

“ไม่หรอก ข้าไม่ต้องการมันหรอก!”

โม่หลานเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อโม่ฉือชิงในทันที ตราพยัคฆ์ที่คนมากมายแย่งกันหัวแตก ตราพยัคฆ์ที่แม้แต่องค์หญิงใหญ่แคว้นเทียนจิ่วก็ยังยอมที่จะตระบัดสัตย์ก็ไม่อยากเอาออกมา เขากลับมอบให้ตนเองเช่นนี้ ถึงกับไว้วางใจตนเองขนาดนี้

“วันหลังค่อยเลี้ยงเหล้าท่าน ถือว่าเป็นการขอบคุณ!” โม่หลานกล่าว

“อันนี้สามารถมีได้!”

โม่เหลิ่งเหยียนชำเลืองไปทางโม่ฉือชิงด้วยดวงตาที่มืดมน คิดไม่ถึงว่าเขาจะปฏิบัติต่อโม่หลานเช่นนี้ เห็นพวกเขาไม่เป็นไรแล้ว โม่เหลิ่งเหยียนถึงได้พากองทหารหลวงจากไป

เรื่องที่องค์หญิงใหญ่ถูกกุมตัวเข้าคุกแพร่กระจายไปทั้งพระราชวังในชั่วพริบตา หลีอ๋องให้คนปล่อยตัวขุนนางใหญ่กับสมาชิกในบ้านที่ถูกกุมขังพวกนั้นโดยตรง

เดิมทีก็แค่แสร้งทำเป็นพิธีเท่านั้น ตอนนี้หา “หลักฐาน” เจอแล้ว ย่อมไม่มีเหตุผลที่จะกักตัวคนอื่นๆเอาไว้อีก

เมื่อทุกคนได้ยินว่าสามารถจากไปแล้ว ก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง ก้มหน้าขอบคุณหลีอ๋องไม่หยุด จากนั้นก็กรูกันไปทางหน้าประตูพระราชวัง ด้วยกลัวว่าหากตัวเองเดินช้าไปจะถูกจับตัวกลับไปอีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ