จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 580

สรุปบท บทที่ 580 นางจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร: จอมนางข้ามพิภพ

สรุปเนื้อหา บทที่ 580 นางจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร – จอมนางข้ามพิภพ โดย Anonymous

บท บทที่ 580 นางจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร ของ จอมนางข้ามพิภพ ในหมวดนิยายประวัติศาสตร์ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Anonymous อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ผู้คุมในคุกพอได้ยินเสียงร้อง ก็พากันไม่สนใจ คิดว่าเฟิ่งจาวหยีแกล้งทำ

เฟิ่งจาวหยีร้องเรียกอยู่นานก็ไม่มีคนมา ยิ่งเดือดดาลหนักขึ้น ร้อนใจนัก “ท่านพ่อ น้องพี่อดทนไว้นะ ข้าจะเรียกคนมาช่วยเอง

ใครก็ได้ ใครก็ได้ ท่านพ่อกับน้องชายของข้าเกิดเรื่องแล้ว หากพวกเขาเป็นอะไรไป ฝ่าบาทต้องไม่ปล่อยพวกเจ้าไปแน่ ใครก็ได้รีบมาเร็ว!”

ผู้คุมด้านนอกพอได้ยิน ถึงได้รู้สึกผิดสังเกต รีบมาดู สุดท้ายเห็นเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนนอนน้ำลายฟูมปากอยู่บนพื้น นอนหายใจรวยริน ก็พากันตกใจยิ่งนัก

“ยังไม่รีบไปรายงานอีก เกิดเรื่องกับไท่เว่ยขึ้นมา พวกเจ้ายากจะรอดตัวไปได้ หรือว่าพวกเจ้าอยากถูกตัดหัวรึ!” เฟิ่งจาวหยีตะคอกดังอย่างเดือดดาล

“เจ้ารีบไปกราบทูลหลิ่วเฟยเหนียงเหนียงเร็ว ข้าจะไปเชิญหมอหลวง!” ผู้คุมสองคนวิ่งออกไปอย่างลนลาน

“ท่านพ่อ น้องพี่พวกท่านอดทนไว้นะ หมอหลวงใกล้จะมาแล้ว!” เฟิ่งจาวหยีปลอบ

“ข้าไม่ไหวแล้ว ไม่คิดเลยจริงๆว่า ไท่เว่ยอย่างข้าสุดท้ายจะต้องมาตายในคุก น่าขันนัก ลูกสาวพ่อ เจ้าต้องอยู่ต่อไปให้ดีนะ ล้างแค้นให้พ่อกับเฟิ่งหยวน เจ้าเป็นความหวังเดียวของตระกูลเฟิ่งแล้ว ต่อไปเจอเรื่องใดห้ามวู่วามเด็ดขาด---“ เฟิ่งไท่เว่ยกำชับ

“ท่านพ่อ ท่านไม่เป็นอะไรดอก หมอหลวงกำลังมาแล้ว ท่านจะไม่เป็นไรแน่นอน!”

“ท่านพ่อ พี่หญิง ข้าไม่อยากตาย ข้ายังใช้ชีวิตไม่พอเลย พี่หญิงช่วยข้า---“ เฟิ่งหยวนพูดอย่างอ่อนแรง อยากจะยื่นมือไปจับเฟิ่งจาวหยี หากเขายังไม่ทันได้แตะโดนเสื้อผ้าเฟิ่งจาวหยี ก็ขาดใจตาย

“เฟิ่งหยวน เฟิ่งหยวน---“ เฟิ่งจาวหยีเรียกเสียงดัง

พอเฟิ่งไท่เว่ยเห็นลูกชายขาดใจตาย ก็โกรธจัดจนขาดใจตายตามไป

“ไม่ ท่านพ่อ เฟิ่งหยวน พวกท่านจะเป็นอะไรไปไม่ได้นะ พวกท่านจากไปแล้ว เหลือข้าคนเดียวจะทำยังไง ท่านพ่อ ท่านฟื้นสิ เฟิ่งหยวนเจ้าลุกขึ้นมา พวกท่านลุกขึ้นมาสิ---“ เฟิ่งจาวหยีกอดศพบนพื้น ร้องไห้แทบขาดใจ

นางคิดไม่ถึงเลยว่า ท่านพ่อและน้องชายจะจากตนไปเช่นนี้ ต่อไปนางจะไม่มีพ่อและน้องชายอีกแล้ว

องค์หญิงใหญ่ที่อยู่ในคุกฝั่งตรงข้ามเห็นภาพนี้ มีสีหน้าเย็นเยียบและเย้ยหยัน “เมื่อครู่ใครเหิมเกริมต่อหน้าข้ากัน ตอนนี้มากอดศพสองศพ น่าขันนัก!”

น้ำเสียงเสียดแก้วหูนัก

เฟิ่งจาวหยีที่กำลังเสียใจหนักหันขวับไปถลึงตามองอย่างเดือดดาล “เจ้าใช่หรือไม่ เจ้าให้คนมาฆ่าพ่อและน้องชายของข้า ต้องเป็นเจ้าแน่ หญิงอสรพิษเช่นเจ้า ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไว้แน่!”

“สมองเจ้าโดนลาถีบแล้วกระมัง ข้ารึจะฆ่าพ่อกับน้องชายเจ้า เจ้าคิดออกมาได้นะ ข้าได้ผลดีอะไร ขันทีน้อยเมื่อครู่นั่นบอกว่าแม่เจ้าให้เขามาส่งข้าว ถ้ามีคนวางยาพิษก็คือแม่เจ้าทำ!” องค์หญิงใหญ่บอกอย่างไม่แยแส

“เหลวไหล ท่านแม่ข้าไม่มีทางวางยาพิษแน่!” เฟิ่งจาวหยีปฏิเสธโดยไม่คิดเลยสักนิด พลางเหล่มองอาหารเหล่านั้น แล้วก็ตะลึงไป

อาหารพวกนั้นเป็นอาหารที่เฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนชอบกินที่สุด หากมิใช่คนใกล้ชิด จะรู้ความชอบของพวกเขาได้อย่างไร

แต่ท่านแม่ไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนี้นี่นา ไม่มีทางเป็นท่านแม่แน่ๆ

ใช่ ขันทีน้อยเมื่อครู่ ต้องเป็นมัน ขอเพียงจับตัวมันได้ก็จะสืบจนรู้ความได้แน่

หลิ่วเฟยนำหมอหลวงกับองครักษ์โขยงหนึ่งเร่งรุดมา พอเห็นเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวนที่ขาดใจตายอยู่ที่พื้น หลิ่วเฟยสีหน้าเคร่งเครียดนัก “หมอหลวง รีบไปดูเร็ว!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หมอหลวงที่ตามมารีบรุดเข้าไป พวกเขาเอามืแตะชีพจรที่คอของเฟิ่งไท่เว่ยและเฟิ่งหยวน จากนั้นก็มีสีหน้าเคร่งเครียด

“เหนียงเหนียง เฟิ่งไท่เว่ยกับคุณชายใหญ่เฟิ่งชีพจรไม่เต้นแล้ว พวกเขาตายแล้ว!”

หลิ่วเฟยมองไป “บัดนี้ฝ่าบาทยังสลบอยู่ องค์หญิงใหญ่คงต้องอยู่สักระยะแล้วล่ะ!”

“ยังสลบอีก หากฮ่องเต้แคว้นต้าเยียนสลบไม่ฟื้น ข้ามิต้องโดนขังไม่ชั่วชีวิตรึ น่าตายนัก!” องค์หญิงใหญ่บอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน

“ตามหลักแล้ว เป็นเช่นนี้ ดังนั้นองค์หญิงใหญ่หวังให้ฝ่าบาททรงฟื้นเร็วขึ้นดีกว่านะ!” หลิ่วเฟยจะก้าวออกไป

“น่าตายนัก! หยุนถิงล่ะ นางเป็นอย่างใดบ้าง?” องค์หญิงใหญ่ถามออกมา

“ซื่อจื่อเฟยฟื้นนานแล้ว แข็งแรงดีมาก น่ากลัวว่าจะดีดพิณจิบชากินขนมอยู่ที่จวนซื่อจื่อกระมัง!” หลิ่วเฟยตอบ

เฟิ่งจาวหยีชะงักค้าง “เป็นไปได้อย่างไรกัน นางจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างไร!”

“เหตุใดจะเป็นไปไม่ได้ เฟิ่งจาวหยีวางยาพิษซื่อจื่อเฟยจริงงั้นรึ?” สายตาเย็นเยียบของหลิ่วเฟยมองมา

เฟิ่งจาวหยีถึงรู้ตัวว่าเผยพิรุธออกไป รีบพูดว่า “หม่อมฉันแค่เห็นนางกระอักเลือดอย่างหนักในงานเลี้ยง เลยคิดว่านางคงต้องสลบไสลสักระยะ จู่ๆได้ยินว่านางฟื้นแล้ว เลยรู้สึกเหลือเชื่อ”

หลิ่วเฟยยิ้มเย็น “เรื่องไม่น่าเชื่อมีมากนัก เฟิ่งจาวหยี แทนที่จะเป็นห่วงคนอื่น สู้คิดดีกว่าว่าระยะนี้ทำให้ใครไม่พอใจ!” ทิ้งไว้เท่านั้น หลิ่วเฟยเดินออกไปทันที

สีหน้าเฟิ่งจาวหยีไม่น่าดูขั้นสุด ดวงตางามจ้องมององค์หญิงใหญ่ ไม่ยอมปล่อยสีหน้านางไปแม้เพียงน้อย “องค์หญิงใหญ่ เป็นเจ้าใช่หรือไม่?”

“ปัญญาอ่อน เจ้าดูไม่ออกรึว่านางจงใจยุแยงให้แตกคอ” องค์หญิงใหญ่มองมาอย่างเย้ยหยัน

“ทางที่ดีอย่าให้เป็นเจ้า มิเช่นนั้นต่อให้ข้าตายเป็นผีก็ไม่มีทางปล่อยเจ้าแน่!” เฟิ่งจาวหยีบอกอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ