จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 670

สรุปบท บทที่ 670 มีเจ้าอยู่ข้าวางใจ: จอมนางข้ามพิภพ

บทที่ 670 มีเจ้าอยู่ข้าวางใจ – ตอนที่ต้องอ่านของ จอมนางข้ามพิภพ

ตอนนี้ของ จอมนางข้ามพิภพ โดย Anonymous ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายประวัติศาสตร์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 670 มีเจ้าอยู่ข้าวางใจ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ซื่อจื่อเฟยโปรดวางใจ ขอเพียงข้ายังมีลมหายใจอยู่ จะต้องคุ้มครองซื่อจื่อและพวกเด็กๆให้ปลอดภัยแน่นอน!” หลิงเฟิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ได้ มีเจ้าอยู่ข้าวางใจ!”

หยุนถิงกับโม่เหลิ่งเหยียน ตามเริ่นเซวียนเอ๋อร์ออกไป มุ่งตรงไปยังพระราชวัง

และในพระราชวัง

ฮวนกุ้ยเหรินและลั่วผินมาเยี่ยมฝ่าบาทด้วยกัน แต่กลับโดนผู้บัญชาการองครักษ์หลวงสกัดไว้ด้านนอก

“บังอาจ ข้ากับลั่วผินเป็นห่วงฝ่าบาท ดังนั้นเลยตั้งใจมาเยี่ยม เจ้ากลับขวางพวกข้าไว้ ในท้องลั่วผินน่ะกำลังตั้งท้องสายเลือดของฝ่าบาทอยู่นะ!” ฮวนกุ้ยเหรินเดือดดาลนัก

“พูดถูกต้องแล้ว ในท้องข้านี้น่ะเป็นสายเลือดราชวงศ์ หากเกิดเป็นอะไรไปเพราะการขวางของเจ้า เจ้ารับผิดชอบไหวรึ?” ลั่วผินเดือดดาลยิ่งนัก

ผู้บัญชาการองครักษ์หลวงจ้าวเฉวียนต๋าพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ขอฮวนกุ้ยเหรินและลั่วผินเหนียงเหนียงโปรดอภัยด้วย องค์หญิงสามสั่งการไว้ว่าห้ามผู้ใดเข้าเยี่ยมฝ่าบาททั้งสิ้น ขอเหนียงเหนียงทั้งสองโปรดอภัยด้วย”

“องค์หญิงสามถือสิทธิ์อะไรมาห้ามมิให้พวกเราเข้าเยี่ยมฝ่าบาทกัน?” ฮวนกุ้ยเหรินโกรธจัด

“องค์หญิงสามรู้วิชาแพทย์ ดังนั้นขอให้เหนียงเหนียงทั้งสองอย่าทำให้กระหม่อมลำบากใจเลย” จ้าวเฉวียนต๋าบอก

ฮวนกุ้ยเหรินเห็นเขาไม่ยอมขยับออกให้จริงๆ และยืนขวางหน้าประตู ก็เดือดดาลนัก แต่ไม่มีหนทางใด

“พวกนางสองคนไม่ได้ ข้าเล่า?” เสียงเย็นเยียบเข้มงวดเสียงหนึ่งลอยมา

ฮวนกุ้ยเหรินและลั่วผินหันไปมองด้านหลังทันที เฉียนกุ้ยเฟยเดินเข้ามาในชุดพระราชพิธีหรูหรางดงาม แต่งกายอย่างหรูหรา ราศีสูงส่งนัก

ฮวนกุ้ยเหรินและลั่วผินรีบถวายบังคมทันที “ถวายบังคมกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง!”

เฉียนกุ้ยเฟยไม่แม้แต่ชายตาแลพวกนางสองคน และเดินเข้ามาเลย “จ้าวเฉวียนต๋า ข้าจะเข้าเฝ้าฝ่าบาท!”

ถึงฮวนกุ้ยเหรินจะเดือดดาล แต่ก็ไม่กล้าหืออือ ได้แต่ถลึงตาใส่จ้าวเฉวียนต๋าอย่างขึ้งโกรธ “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงก็มาแล้ว แม่ทัพจ้าวยังไม่หลีกไปอีกรึ?”

จ้าวเฉวียนต๋าถวายบังคมอย่างนอบน้อม “กระหม่อมคารวะกุ้ยเฟยเหนียงเหนียง ขอกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงโปรดอภัยด้วย ข้าไม่อาจหลีกให้ได้ นอกเสียจากว่ากุ้ยเฟยเหนียงเหนียงจะข้ามศพข้าไปก่อน!”

เฉียนกุ้ยเฟยโกรธจนหน้าดำทะมึน เดือดดาลยิ่งนัก แต่นางเคยได้ยินมานานแล้วว่า จ้าวเฉวียนต๋าเที่ยงตรง ไม่กลัวเกรงอำนาจใด ยอมหักไม่ยอมงอ เถรตรงยิ่งนัก รับคำสั่งจากฝ่าบาทเท่านั้น นางไม่อาจฆ่าจ้าวเฉวียนต๋าได้จริงๆหรอก

“หายากนักที่แม่ทัพจ้าวจงรักภักดีในหน้าที่เยี่ยงนี้ มีท่านคอยอารักขาฝ่าบาท ข้าก็วางใจนัก แคว้นเทียนจิ่วของเราควรจะมีคนอย่างแม่ทัพจ้าวให้มากหน่อย!” เฉียนกุ้ยเฟยเอ่ยขึ้น

ลั่วผินอึ้งบื้อไปเลย “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง เหตุใดท่านพูดเช่นนี้เล่า แม่ทัพจ้าวน่ะแกล้งขวางไม่ให้ท่านเข้าไปนะ?”

ฮวนกุ้ยเหรินอยากยับยั้งแต่ไม่ทันการแล้ว ในใจลอบถอนหายใจ นังโง่ลั่วผินหาเรื่องตายหรือไรกัน

ทันใดนั้นก็เห็นเฉียนกุ้ยเฟยมองมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ใครก็ได้ ตบปาก!”

ลั่วผินชะงักกึก “กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง เจ้าถือสิทธิ์อะไรมาตบปากข้า?”

“ถือสิทธิ์ที่เจ้ายุแยงให้แตกคอ แม่ทัพจ้าวรับหน้าที่เฝ้าดูฝ่าบาท แน่นอนว่าต้องรับหน้าที่อารักขาความปลอดภัยของฝ่าบาทอยู่แล้ว ต่อให้ข้าเป็นห่วงฝ่าบาทเพียงใด ก็ไม่อาจละเลยกฎเกณฑ์ได้

และในฐานะสนมนางในของวังหลัง ไม่เพียงไม่อยู่ในตำหนักตนเองอย่างสงบเสงี่ยม แต่กลับมารบกวนการพักผ่อนของฝ่าบาทที่นี่ และยังยุแยงเช่นนี้ สมควรถูกลงโทษ!” เฉียนกุ้ยเฟยตะคอกอย่างเดือดดาล

กุ้ยเฟยอย่างนางกลับโดนแม่ทัพหักหน้า เดิมก็ไม่พอใจอยู่แล้ว ตอนนี้ลั่วผินแส่หาเรื่องเอง เฉียนกุ้ยเฟยไม่มีทางปล่อยนางอยู่แล้ว

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงโปรดยั้งมือด้วย ตอนนี้ลั่วผินตั้งครรภ์อยู่ หกาตบปากน่ากลัวจะกระทบกระเทือนถึงท้อง” ฮวนกุ้ยเหรินรีบเกลี้ยกล่อมทันที

คำพูดนี้ราวกับเป็นห่วงลั่วผิน แต่กลับเป็นการบอกเฉียนกุ้ยเฟยว่า ลั่วผินตั้งท้องอยู่ แตะต้องนางไม่ได้

“พ่ะย่ะค่ะ!” จ้าวเฉวียนต๋ารีบให้องครักษ์สองคนส่งลั่วผินกลับไปทันที

เฉียนกุ้ยเฟยจัดการลั่วผินเสร็จ มองดูฮวนกุ้ยเหรินที่ตกใจสีหน้าซีดเผือดอยู่บนพื้นแล้วสาแก่ใจยิ่งนัก

เจ้าโง่สองคนนี้กล้ามาโอหังต่อหน้าตน หาเรื่องตาย

อีกด้าน เริ่นเซวียนเอ๋อร์พาหยุนถิงกับโม่เหลิ่งเหยียนเข้ามา และเห็นหลายคนออกันหน้าประตูตำหนักแต่ไกลแล้ว เริ่นเซวียนเอ๋อร์สีหน้าทะมึน เดินเข้ามาทันที

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง?”

เฉียนกุ้ยเฟยเหล่มองเริ่นเซวียนเอ๋อร์ สีหน้าบูดบึ้งหนักกว่าเดิม “ข้ามิรู้เลยว่าอำนาจขององค์หญิงสามมีมากเพียงนี้ตั้งแต่เมื่อใดกัน ถึงกับให้แม่ทัพจ้าวขวางมิให้ข้าเข้าเฝ้าฝ่าบาท?”

“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงเข้าใจผิดแล้ว ข้ามิได้ให้แม่ทัพจ้าวขวางท่าน เพราะเสด็จพ่อไม่สบาย มิสะดวกให้ใครรบกวน” เริ่นเซวียนเอ๋อร์อธิบาย

เฉียนกุ้ยเฟยโกรธมาก แต่ไม่อาจพูดอะไรได้ สายตาเหล่มองหยุนถิงและโม่เหลิ่งเหยียนที่ยืนอยู่ข้างๆ ตะลึงเล็กน้อย “เช่นนั้นองค์หญิงสามพาคนนอกสองคนมาด้วยเหตุใดเล่า?”

“นี่คือซื่อจื่อเฟยแห่งแคว้นต้าเยียน ฝีมือการแพทย์สะท้านสะเทือนไปทั่วสี่แคว้น อยู่เหนือกว่าข้า ข้าเชิญนางมาช่วย ท่านนี้คือซวนอ๋องแห่งแคว้นต้าเยียน แคว้นเทียนจิ่วของเรากับแคว้นต้าเยียนมีสัมพันธ์อันดีต่อกัน ซวนอ๋องย่อมมาเยี่ยมเยียนเสด็จพ่ออยู่แล้ว” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตอบ

นางคงบอกไม่ได้หรอกว่า โม่เหลิ่งเหยียนมาคุ้มครองหยุนถิงน่ะ เพราะฐานะของทั้งคู่ไม่ธรรมดาเลย จะให้เกิดเรื่องไม่ได้

เฉียนกุ้ยเฟยตะลึง จากนั้นสีหน้าผ่อนคลายลงหลายส่วน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไม่รบกวนองค์หญิงสามแล้วกัน ขอองค์หญิงสามต้องรักษาฝ่าบาทให้ดีด้วย”

พูดจบ เฉียนกุ้ยเฟยไม่รอเริ่นเซวียนเอ๋อร์ตอบ หมุนตัวจากไปทันที

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถึงรีบพาหยุนถิงเข้าไป หยุนถิงรีบจับชีพจรให้ฮ่องเต้ที่สลบไสลไม่ได้สติทันที จากนั้นคิ้วขมวดมุ่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ