จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 669

หลิ่วกงกงตกใจสะดุ้ง หากเป็นเซียวเฟยวางยาพิษฝ่าบาทจริง เช่นนั้นนางก็ชั่วร้ายยิ่งนัก

เริ่นเซวียนเอ๋อร์เดินออกมา ผู้บัญชาการองครักษ์หลวงที่ยืนเฝ้าอยู่นอกประตูรีบทำความเคารพอย่างนอบน้อมทันที “กระหม่อมคารวะองค์หญิงสาม อาการของฝ่าบาทเป็นเช่นไรบ้างรึ?”

“เสด็จพ่อไม่ใคร่สบาย ขอท่านแม่ทัพเฝ้าที่นี่ไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเป็นใครก็ห้ามเข้าไปเยี่ยมเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นหากเสด็จพ่อเป็นอะไรไปก็จะเป็นความรับผิดชอบของท่านแม่ทัพเช่นกัน!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์แค่นเสียงเย็น

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จากนั้นหลิ่วกงกงก็พาเริ่นเซวียนเอ๋อร์ไปยังตำหนักของเซียวเฟยด้วยตนเอง พอเห็นมู่เซียวเซียวที่สลบไม่ได้สติบนเตียง เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตกตะลึงไปเลย

“นางคือเซียวเฟยรึ?”

ปกติเวลาเริ่นเซวียนเอ๋อร์เข้าวัง ก็เพียงมาเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ ส่วนสนมนางในพวกนั้นนางขี้เกียจสนใจ เพียงแต่ได้ยินว่าเสด็จพ่อโปรดปรานเซียวเฟยมาก เริ่นเซวียนเอ๋อร์เองไม่ได้เก็ยมาใส่ใจ

ตอนนี้มาเห็นมู่เซียวเซียว เริ่นเซวียนเอ๋อร์ครุ่นคิดในใจไปมาไม่หยุด ทั้งหมดนี้ปะติดปะต่อกันหมดแล้ว

สนมนางในของวังหลัง เริ่นเซวียนเอ๋อร์เคยเจอมาหมด มีเพียงเซียวเฟยคนนี้เท่านั้นที่นางยังมิเคยเจอเลย แน่นอนเริ่นเซวียนเอ๋อร์ไม่ได้สนใจอะไรนางนัก ตอนนี้ดูท่ามู่เซียวเซียวจงใจหลบหน้าตน คงกลัวว่าตนจะจำนางได้

ตอนนั้นที่หอเทพเซียนโดนเป่ยหมิงฉี่เผาเกลี้ยง ตายเกลี้ยงแล้ว มีเพียงมู่เซียวเซียวหนีออกมาได้ แถมยังเข้าวัง เป้าหมายนางไม่ธรรมดาแน่

“เรียนองค์หญิงสาม นางคือเซียวเฟยจริงๆ หลายวันก่อนตำหนักของเซียวเฟยเกิดไฟไหม้ เพื่อช่วยฝ่าบาทนางโดนคานหล่นลงมาทับ จนถึงตอนนี้ยังสลบไสลไม่ได้สติเลย” หลิ่วกงกงพูดขึ้น

“นางนี่นะช่วยเสด็จพ่อ ผียังไม่เชื่อเลย นางน่ะเป็นคุณหนูใหญ่ของหอเทพเซียน คนที่สามารถทิ้งครอบครัวและศิษย์ร่วมสำนักโดยไม่แยแส ตนเองกลับวิ่งหนีเอาชีวิตรอดได้ จะเสียสละตนเองช่วยคนอื่นรึ น่าขันจริงๆ”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์แค่นเสียงเย็น เอาเข็มเงินที่พกติดตัวทิ่มลงจุดชีพจรหลายจุดบนตัวมู่เซียวเซียว

หลิ่วกงกงได้ยินแล้วตกใจยิ่งนัก ถึงเขาจะอยู่ในวังมานาน แต่หลายปีก่อนก็เคยได้ยินเรื่องหอเทพเซียนโดนฆ่าล้างหมดสำนัก

เพราะหอเทพเซียนสืบทอดมานานเป็นร้อยปี กลับใช้คนเป็นมาลองยา ฆ่าคนเป็นผักปลา---หอเทพเซียนที่เคยได้รับการเลื่อมใสจากผู้คนกลับทำเรื่องชั่วร้ายเช่นนี้ออกมา ทำให้ทุกคนประณามไปตามๆกัน

แต่เขาไม่คิดเลยว่า เซียวเฟยกลับเป็นคนของหอเทพเซียน

มู่เซียวเซียวที่เดิมสลบไสลอยู่พลันขยับตัว ดวงตาขยับไปมาหลายครั้ง จากนั้นถึงลืมตาขึ้น

“มู่เซียวเซียว เจ้ากล้าวางยาพิษเสด็จพ่อของข้า มอบยาถอนพิษออกมาเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นข้าไม่ปล่อยเจ้าเอาไว้แน่!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตะคอกอย่างเดือดดาล

มู่เซียวเซียวกลับมีสีหน้างุนงงไม่เข้าใจ “เจ้าเป็นใคร เสด็จพ่อของเจ้าเป็นใครกัน ข้าไม่รู้จักสักหน่อย?”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์อาละวาดทันที “อย่ามาเสแสร้ง เจ้าไม่รู้จักข้า ข้าน่ะเป็นศิษย์น้องเล็กของเจ้านะ อย่าคิดว่าแกล้งความจำเสื่อมแล้วข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้นะ รีบมอบยาถอนพิษออกมาเร็ว?”

เพราะว่าโกรธมากเกินไป เริ่นเซวียนเอ๋อร์คว้าคอเสื้อมู่เซียวเซียวขึ้นมาทันที

“อ๊า ปล่อยข้านะ เจ้าเป็นใครกัน ข้าไม่รู้จักเจ้าสักหน่อย อย่าทำร้ายข้านะ!” มู่เซียวเซียวพูด พลางสะบัดมือของเริ่นเซวียนเอ๋อร์ที่จับตนอยู่อย่างแรง จากนั้นหนีไปหลบมุมเตียง นางตกใจตัวสั่นเทา ท่าทางน่าสงสารยิ่งนัก

พอเห็นนางเป็นอย่างนี้ เริ่นเซวียนเอ๋อร์ยิ่งเดือดดาลยิ่งนัก “มู่เซียวเซียวเจ้าพอได้แล้ว เสแสร้งเช่นนี้สนุกนักรึ?

หากมิใช่เจ้าวางยาพิษเสด็จพ่อข้า เขาจะถูกพิษมาปีกว่าได้อย่างไร ไม้นี้ของเจ้าอยู่ต่อหน้าข้าไม่มีประโยชน์หรอก

ข้าไม่หลงกลเจ้าหรอก หากมิใช่เพราะเสด็จพ่อข้าโดนเจ้าหลอก จะโดนเจ้าวางยาได้อย่างไรกัน พิษในร่างเขาข้ายังขจัดไม่ได้ เจ้าอย่าคิดใส่ร้ายคนอื่น”

“เสด็จพ่ออะไร วางยาอะไร ข้าไม่เข้าใจ เจ้าออกไปนะ อย่าเข้ามา---“ น้ำเสียงมู่เซียวเซียวสั่นสะท้านเล็กน้อย ดูแล้วตกใจเอามากๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ