จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 673

เพียงแต่ปากของกู้จิ่วเยวียนพลันโดนยัดยาใส่ไปหลายเม็ด เลยสำลักยาทันที ไอค่อกแค่กออกมาอย่างรุนแรง

พอเริ่นเซวียนเอ๋อร์เห็นดังนั้นก็ตกใจนัก รีบคว้ากาน้ำชาข้างๆมาเทน้ำชายื่นให้ทันที “เสด็จอาเก้า ท่านดื่มชาเสียหน่อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

กู้จิ่วเยวียนรับถ้วยชามา ดื่มไปหลายคำ ไอออกมาถึงดีขึ้นหน่อย

“เสด็จอาเก้าท่านยังดีอยู่ไหม เมื่อครู่ข้าไม่ทันระวังเอง” เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถามอย่างเป็นกังวล

“เจ้านี่น้า ยังวู่ว่ามเหมือนเคย ต่อไปหากไปทำกับคนอื่น ห้ามทำเช่นนี้นะ” กู้จิ่วเยวียนถอนหายใจดัง

“ข้าขี้เกียจสนใจคนอื่นนะ ยาราคาแพงขนาดนั้นข้าไม่มอบให้คนอื่นหรอก” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เบ้ปาก

กู้จิ่วเยวียนเลิกคิ้วบาง ยิ้มมุมปาก ราวกับพอใจกับคำตอบของเริ่นเซวียนเอ๋อร์

“วันนี้เจ้ามาจวนข้า มีเรื่องอะไรรึ?”

“เสด็จอาเก้า ข้าอยากเชิญท่านออกไปควบคุมสถานการณ์ ตอนนี้เสด็จพ่อสลบไม่ได้สติ ไท่จื่อเองก็บาดเจ็บสาหัสยังไม่ฟื้น ในเพียงวันเดียวเหล่าองค์ชายบาดเจ็บล้มตายไปตามๆกัน เหล่าขุนนางในราชสำนักนั่นพากันอลหม่านไปหมดแล้ว ข้ากลัวจะมีคนวางแผนทั้งหมดนี่ ก็เพื่อให้แคว้นเทียนจิ่ววุ่นวายภายใน!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์รีบตอบทันที

กู้จิ่วเยวียนสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นทันที “วิธีการชั่วร้ายเช่นนี้ ผู้อยู่เบื้องหลังมีจิตคิดละมบโลบมากอย่างเห็นได้ชัด เพียงแต่ร่างกายอ่อนแอของข้านี้น่ากลัวจะช่วยอะไรไม่ได้มาก เจ้าเองก็รู้ว่าข้าไม่ถามไถ่เรื่องภายนอกมาหลายปีแล้ว”

“เสด็จอาเก้า ข้าไม่ต้องให้ท่านทำอะไร ขอเพียงท่านออกมาทำให้ทุกคนมั่นใจเท่านั้นก็พอ ท่านน่ะเป็นเซ่อเจิ้งอ๋องที่เสด็จพ่อทรงแต่งตั้ง เวลานี้มีเพียงท่านมีสิทธิ์นี้ ขอให้เสด็จอาเก้าช่วยเหลือด้วย!” เริ่นเซวียนเอ๋อร์บอกพลางถวายบังคม

“องค์หญิงสาม ท่านอ๋องเก็บตัวอยู่ในจวนมานาน ไม่เข้าใจเรื่องในราชสำนักเลยสักนิด ในเมื่อเหล่าองค์ชายบาดเจ็บล้มตายไปตามๆกัน ท่านอ๋องออกไปแล้ว มิโดนพวกคิดไม่ซื่อพวกนั้นลอบทำร้ายเอารึ!” พ่อบ้านทนไม่ไหวถามออกมา

สายตาเย็นเยียบของกู้จิ่วเยวียนปรายมา “พ่อบ้าน เจ้าพูดมากไปแล้ว”

พ่อบ้านคุกเข่าลงพื้นทันที “ข้าน้อยเพียงเป็นห่วงความปลอดภัยของท่านอ๋องเท่านั้น เกิดเรื่องกับเหล่าองค์ชายมากมายขนาดนั้นแล้ว เห็นได้ชัดถึงความชั่วร้ายอำมหิตของผู้อยู่เบื้องหลัง ข้าน้อยหวังว่าท่านอ๋องจะปลอดภัยราบรื่น ขอท่านอ๋องโปรดลงโทษด้วย”

“ช่างเถิด เจ้าลุกขึ้นเถอะ” กู้จิ่วเยวียนถอนหายใจ

พ่อบ้านคนนี้อยู่กับตระกูลกู้มาหลายปี เริ่มต้นช่วยจัดการควบคุมตระกูลกู้มาตั้งแต่สมัยพ่อแม่เขา เรียกได้ว่าเห็นเขามาตั้งแต่เล็กจนโต กู้จิ่วเยวียนรู้ดีว่าพ่อบ้านเป็นห่วงตนเอง เลยไม่ได้ลงโทษอะไร

เริ่นเซวียนเอ๋อร์สีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย “เสด็จอาเก้า ข้าขอโทษ ข้าคิดไม่รอบคอบเอง คิดแต่อยากให้ท่านออกไปควบคุมสถานการณ์ ลืมไปว่าท่านเองก็จะมีอันตรายด้วย วันนี้คิดซะว่าข้าไม่เคยมาแล้วกัน ท่านพักรักษาตัวเถอะ”

พอเห็นนางทำท่าจะจากไปอย่างผิดหวัง กู้จิ่วเยวียนสงสารนัก รีบบอก “ช่างเถิด ข้าตามเจ้าไปสักครั้งแล้วกัน”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์หันกลับมามองอย่างตกตะลึง “เพราะอะไร?”

“ข้าเป็นร่างกายขี้โรคเยี่ยงนี้แล้ว คงอยู่ได้อีกไม่กี่ปี หากก่อนตายได้ทำอะไรเพื่อแคว้นเทียนจิ่ว ก็ไม่เสียแรงที่เกิดมาในชาตินี้แล้ว” กู้จิ่วเยวียนตอบ

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ซาบซึ้งใจนัก เดินเข้ามากอดหมับกู้จิ่วเยวียน “เสด็จอาเก้า ขอบคุณท่านมาก ข้าทำให้ท่านลำบากแล้ว”

กู้จิ่วเยวียนชะงักกึก นี่เป็นครั้งแรกที่นังหนูนี่กอดตน มันทำให้เขาลืมตัวไปชั่วขณะเลย

พ่อบ้านที่อยู่ข้างๆเห็นภาพนี้ก็ถอนหายใจอย่างหน่ายใจออกมา ต่อให้เป็นท่านอ๋องของเขา ก็ยากจะที่ผ่านด่านสาวงามได้เลยนี่ องค์หญิงสามผู้นี้เป็นด่านเคราะห์กรรมของท่านอ๋อง

ดวงตาทุ้มลึกของกู้จิ่วเยวียนมีแววสงสาร เขามีหรือจะยอมให้นางผิดหวังเสียใจ

“ไม่หรอก เจ้าคิดถึงข้า ข้าตื้นตันนัก ยิ่งไปกว่านั้นเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลส่วนตัวหรือส่วนร่วม ข้าก็มิมีทางไม่สนใจดอก” กู้จิ่วเยวียนปลอบ ยื่นมือตบหลังเริ่นเซวียนเอ๋อร์เบาๆ

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถึงออกจากอ้อมกอดเขา “ขอบคุณเสด็จอาเก้ามาก ท่านวางใจเถอะ ข้าจะต้องคุ้มครองท่าน ไม่ให้ใครทำร้ายท่านได้แน่!”

“ฮะฮะ ตกลง!” กู้จิ่วเยวียนขบขันนางนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ