จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 681

“ไม่แน่ใจ อย่างไรก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ” กู้จิ่วเยวียนตอบ

“พูดแล้วก็แปลก บ่าวรับใช้ชายทั้งหมดของจวนผิงหนานอ๋องข้าล้วนเคยเห็นมาก่อนทั้งนั้น บ่าวรับใช้ชายที่เสด็จอาพามาในวันนี้ รูปร่างเตี้ยเล็ก หน้าตาอัปลักษณ์ บอกว่าก่อนหน้านี้ไปจัดการธุระ เพิ่งกลับช่วงไม่กี่วันมานี้” เริ่นเซวียนเอ๋อร์บ่มพึมพำ

ดวงตาของกู้จิ่วเยวียนมืดมนลึกล้ำ “รูปร่างของบ่าวรับใช้ชายคนนั้นดูเหมือนผู้หญิงใช่หรือไม่?”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตกตะลึง พอคิดดูแล้วก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา “เสด็จอาเก้า ความหมายของท่านคือบ่าวรับใช้ชายคนนั้นคือมู่เซียวเซียว?”

“ข้าก็แค่สงสัยเท่านั้น เซียวเฟยหายไปอย่างไร้ร่องรอยมันแปลกประหลาดจริงๆ นางไม่ได้มีรากฐานใดๆในแคว้นเทียนจิ่ว ต้องมีคนคอยช่วยนางอย่างแน่นอน” กู้จิ่วเยวียนตอบ

“เสด็จอาถึงกับพามู่เซียวเซียวไปที่พระราชวัง ภายใต้จมูกของข้า ข้ากลับไม่สังเกตเห็น ทำไมข้าถึงได้โง่เช่นนี้ ตอนนั้นข้าก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเล็กน้อยแล้ว แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก จากนั้นก็ได้ยินว่าท่านถูกคนลอบสังหาร ก็เลยเร่งเดินทางมาเลย” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความโมโห

“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า ในเมื่ออีกฝ่ายมีเจตนาจะปกปิด ย่อมไม่ให้เจ้าสังเกตเห็นเป็นธรรมดา” กู้จิ่วเยวียนปลอบโยน

“ข้านี่มันช่างโง่จริงๆ ข้าจะกลับไปเปิดโปงพวกเขาที่พระราชวังเดี๋ยวนี้” เริ่นเซวียนเอ๋อร์โกรธจัด กำลังจะลุกขึ้นมา จู่ๆพ่อบ้านก็พุ่งเข้ามาจากด้านนอกด้วยความตื่นตระหนก

“ท่านอ๋องแย่แล้ว ผู้บัญชาการองครักษ์หลวงนำกำลังคนล้อมรอบจวนเซ่อเจิ้งอ๋องเอาไว้แล้ว!”

“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ข้าจะไปถามให้รู้เรื่อง” ใบหน้าของเริ่นเซวียนเอ๋อร์เคร่งขรึม กำลังจะเดินออกไปทันที

“ข้าไปพร้อมกับเจ้า” กู้จิ่วเยวียนลงมาจากบนเตียง

“เสด็จอาเก้าท่านยังได้รับบาดเจ็บอยู่ ข้าไปเองได้”

“ที่พวกเขาล้อมคือจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง ย่อมพุ่งเป้ามาที่ข้าอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ประคองกู้จิ่วเยวียนไปที่หน้าประตู ผู้บัญชาการองครักษ์หลวงทำความเคารพทันที “ข้าน้อยคำนับเซ่อเจิ้งอ๋อง องค์หญิงสาม”

“ผู้บัญชาการจ้าวท่านหมายความว่าอย่างไร ใครให้ท่านทำเช่นนี้?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์กล่าวด้วยความโมโห

“เรียนองค์หญิงสาม ฝ่าบาททรงรับสั่งด้วยพระองค์เอง ให้ข้าน้อยล้อมจวนเซ่อเจิ้งอ๋องเอาไว้ ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าออก!” จ้าวเฉวียนต๋าตอบ

“เสด็จพ่อ เขาตื่นแล้วหรือ ตอนที่ข้าจากมาเขายังไม่ได้สติเลย เขาไม่มีทางปฏิบัติต่อเสด็จอาเก้าเช่นนี้เด็ดขาด?” เริ่นเซวียนเอ๋อร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ

“องค์หญิงสาม ท่านจากไปไม่นานเท่าไหร่ฝ่าบาทก็ตื่นแล้ว มีคำพูดหนึ่งข้าน้อยไม่รู้ว่าควรจะพูดดีไหม” จ้าวเฉวียนต๋าตอบหลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง

“คำพูดอะไร?”

“ข้าน้อยรู้สึกว่าฝ่าบาทที่ตื่นขึ้นมา ดูเหมือนจะแตกต่างจากเดิมเล็กน้อย เขาให้ข้าน้อยล้อมจวนเซ่อเจิ้งอ๋องเอาไว้ แถมยังให้องครักษ์หลวงคนอื่นๆล้อมรอบตำหนักบรรทมขององค์ชายองค์หญิงและเหนียงเหนียงในวังเอาไว้ทั้งหมด ไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่กันแน่?”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ตัวแข็งทื่อทันที “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ นี่ไม่เหมือนสิ่งที่เสด็จพ่อจะทำได้ ข้าต้องไปดูที่วังเดี๋ยวนี้?”

กู้จิ่วเยวียนกลับคว้านางเอาไว้ “ไปไม่ได้”

“เพราะเหตุใด?”

“หลายวันก่อนเกิดเรื่องกับบรรดาองค์ชายทั้งหมดภายในหนึ่งวัน ตอนนี้ก็เป็นองค์หญิงอีก การกระทำเช่นนี้กลับเหมือนว่ามีคนคิดจะกำจัดทายาทของราชวงศ์ หากเจ้าไปจะไม่เท่ากับพาตัวเองเข้าไปติดกับดักเองหรอกหรือ!” กู้จิ่วเยวียนกล่าวออกมาประโยคหนึ่ง

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ถึงได้เข้าใจ และโกรธแค้นสุดขีด “เสือแม้จะร้ายแต่ก็ไม่กินลูกตัวเอง เสด็จพ่อไม่ทำกับข้าเช่นนี้หรอก ข้าจะต้องไปถามให้ชัดเจนให้ได้”

“องค์หญิงสามขอโทษด้วย ฝ่าบาทไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง โปรดอย่าทำให้ข้าน้อยลำบากใจเลย!” จ้าวเฉวียนต๋ากล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“จ้าวเฉวียนต๋าเจ้าถึงกับกล้าขวางข้า หากองค์หญิงกับองค์ชายเป็นอะไรไป ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไปเด็ดขาด” เริ่นเซวียนเอ๋อร์จ้องมองมาด้วยความโมโห

ใบหน้าของจ้าวเฉวียนต๋าเต็มไปด้วยความตึงเครียด “ขอโทษด้วยองค์หญิงสาม ข้าน้อยฟังแค่พระบัญชาของฝ่าบาทเท่านั้น”

เริ่นเซวียนเอ๋อร์ค้อนเขาอย่างแรงครู่หนึ่ง สุดท้ายกู้จิ่วเยวียนก็เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้นางเข้าไป

ทันทีที่ประตูใหญ่ของจวนเซ่อเจิ้งอ๋องปิดลง และกลับไปถึงเรือน เริ่นเซวียนเอ๋อร์ก็รีบเอ่ยปากทันที “เสด็จอาเก้าเมื่อครู่ข้าแสดงได้เหมือนหรือไม่ ดูโกรธมากเลยใช่ไหม?”

“เหมือนมาก โชคดีที่ซื่อจื่อเฟยคาดเดาเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆแล้ว ตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับซื่อจื่อเฟยแล้ว” กู้จิ่วเยวียนทอดถอนใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ