“องค์หญิงรองเกรงใจแล้ว” หยุนถิงตอบ
จวินหย่วนโยวแค่ปรายตามองมา มิได้สนใจเลยสักนิด
เป่ยตันเสวี่ยกระดากอายเล็กน้อย แต่ก็รู้ดีว่า จวินหย่วนโยวเย็นชายิ่งนัก ไม่สนใจใครและไม่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่น เขาไม่ไล่ตนออกไปก็ถือว่าเป็นบุญมากแล้ว
เป่ยจิงจิงกระโดดขึ้นเรือจวินหย่วนโยวอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด “ซื่อจื่อเฟย เมื่อครู่ข้าเห็นหลงเอ้อร์ เขาล่ะ?”
หยุนถิงมุมปากกระตุก ไม่คิดว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว เป่ยจิงจิงยังไม่ยอมแพ้อีก
“เมื่อครู่เขามีเรื่องต้องไปทำ เลยจากไปแล้วล่ะ!”
“เขาคงมิใช่เห็นข้า เลยจงใจหลบหน้าข้ากระมัง หลงเอ้อร์ เจ้าออกมานะ ข้ามีเรื่องจะพูดกับเจ้า” เป่ยจิงจิงบอก เดินเข้าไปอีกทางหนึ่งของเรือทันที เดินวนหาทั่วเรือรอบหนึ่ง ก็ไม่เจอตัวหลงเอ้อร์เลย
“หากซื่อจื่อเฟยไม่รังเกียจ พวกเราร่วมล่องเรือด้วยได้หรือไม่?” เป่ยตันเสวี่ยเสนอ
นางอยากจะดูสักหน่อยว่า หญิงงามเลิศล้ำที่ท่านพี่ไท่จื่อพูดถึงเป็นอย่างไรกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนหน้านี้นางเคยแต่งงานกับหลีอ๋อง มันยิ่งทำให้เป่ยตันเสวี่ยสงสัยหนักขึ้น
“ได้สิ” หยุนถิงบอก
คนเขามาขอร่วมล่องเรือด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จะปฏิเสธคงไม่ได้กระมัง
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก” เป่ยตันเสวี่ยพูดจบ หันมองโม่ฉือหาน “ท่านอ๋อง พวกเราไปด้วยกันเถอะ”
โม่ฉือหานเหล่มองใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของจวินหย่วนโยว ทั้งๆที่เขาไม่ชอบหน้าจวินหย่วนโยวที่สุด แต่เขายังคงยกเท้าก้าวข้ามเรือไป
“ซื่อจื่อเฟย หลงเอ้อร์ไปไหนกันแน่ ข้าไปหาเขาได้ไหม?” เป่ยจิงจิงถาม
“ภารกิจของเขาเป็นความลับ ข้าเองก็ไม่แน่ใจ เจ้าลองถามซื่อจื่อดูสิ” หยุนถิงโยนเรื่องไปให้
เป่ยจิงจิงมองไปทางจวินหย่วนโยว ตัวเขาเย็นเยียบดุจภูเขาน้ำแข็ง สีหน้าเหี้ยมโหดกระหายเลือด ต่อให้นางใจกล้าแค่ไหน ก้ไม่กล้าถามจวินหย่วนโยวหรอก
ยังไงซะหากตนอยู่กับจวินซื่อจื่อและซื่อจื่อเฟย ต้องได้เจอหลงเอ้อร์แน่ไม่ช้าก็เร็ว
“เมื่อครู่โชคดีได้ฟังจวินซื่อจื่อดีดพิณ คิดไม่ถึงว่าฝีมือการดีดพิณของจวินซื่อจื่อจะเยี่ยมยอดเช่นนี้ ตันเสวี่ยเลื่อมใสนัก” เป่ยตันเสวี่ยบอก
“เช่นนั้นรบกวนจวินซื่อจื่อดีดพิณอีกสักเพลง ให้ทุกคนหน่อยสิ!” โม่ฉือหานแค่นเสียงเย็น
จวินหย่วนโยวยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ลุกขึ้นจากพิณโบราณเดินมา “ข้าดีดพิณให้ถิงเอ๋อร์ฟังเท่านั้น คนอื่นไม่คู่ควรสักนิด”
สีหน้าโม่ฉือหานดำทะมึน เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ “จวินหย่วนโยว เจ้า!”
“ข้าทำไมรึ หากหลีอ๋องไม่พอใจก็กลับไปเรือตนเองสิ” จวินหย่วนโยวเลิกคิ้วแค่นเสียงเย็น
“ข้ามาเป็นเพื่อนองค์หญิงรอง องค์หญิงรองอยู่ที่ไหน ข้าก็อยู่ที่นั่น!” โม่ฉือหานโกรธแทบตาย แต่อดทนไม่ไป
หรือพูดอีกอย่างคือ เขาไม่อยากไป อยากมองดูหนุนถิงใกล้ๆเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว
พอเป่ยตันเสวี่ยได้ยินคำนี้ แก้มแดงเรื่อขึ้นมาทันที
หยุนถิงเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด “นานทีองค์หญิงรองจะมาแคว้นต้าเยียนเรา ลองชิมชานี้ดูสิ” พูดพลาง เทให้นางหนึ่งจอก
“ขอบคุณซื่อจื่อเฟยมาก!” เป่ยตันเสวี่ยหยิบถ้วยชามาจิบสักคำ “รสชาติอ่อนบาง กลมกล่อม เป็นชาดีจริงๆ”
ทั้งสี่คน มีเพียงโม่ฉือหานที่ไม่มีชา เขาหันมองกาน้ำชาฉับพลัน จากนั้นก็มองหยุนถิง ความหมายในสายตาชัดเจนนัก
“ข้าไม่เคยบังคับให้ซื่อจื่อเฟยทำเรื่องอะไร และยิ่งไม่ให้นางรับใช้ใครด้วย” จวินหย่วนโยวแค่นเสียงหึ จากนั้นยกกาน้ำชามาเทน้ำชาให้หยุนถิงหนึ่งจอก และก็ยกถ้วยชาขึ้นยื่นให้ถึงปากหยุนถิง
“ถิงเอ๋อร์ ลองชิมดูสิ”
หยุนถิงจิบไปหนึ่งคำ “ชาที่ท่านพี่เท อร่อยมาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...