ซูนฟั่งจึงค่อยรู้สึกตัว ด้วยสีหน้าที่เขินอายยิ่งนัก และมือที่ตื่นเต้นก็เกาหัวโดยไม่รู้ตัว "คุณหนูสาม ข้า ข้าไม่มีอะไรจะพูด ข้ายังมีเรื่องขอตัวก่อนแล้ว"
“เจ้าบอกกับพี่ใหญ่ว่ายอมสละชีวิตเพื่อแลกกับอิสระของข้า แต่ทำไมเจ้าถึงไม่กล้าบอกข้าต่อหน้าอย่างชัดเจน” หยุนซูถาม
ซูนฟั่งพูดจาสะเปะสะปะ "ข้าเป็นเพียงขอทาน ไม่คู่ควรกับคุณหนูสาม"
“แต่ข้าไม่สนใจเรื่องเหล่านี้เลย เมื่อครู่เจ้าก็บอกแล้วว่า ทั้งชีวิตก็จะไม่แต่งงานกับหญิงอื่น จริงหรือไม่?” หยุนซูถาม
ซูนฟั่งตกตะลึง คุณหนูสามหมายความว่าอย่างไร หรือว่านางก็?
เขาพยักหน้าอย่างเร่งรีบด้วยความตื่นเต้น "ที่ข้าพูดไปนั้นเป็นความจริง หากข้าโชคดีที่ได้แต่งงานกับคุณหนูสาม ชาตินี้และชาติหน้าของข้าก็จะไม่แต่งเมียน้อยโดนเด็ดขาด และยิ่งไม่มีวันชอบผู้หญิงคนอื่น"
หยุนซูได้คำตอบ ก็พอใจมาก และถามว่า "แล้วเจ้าชอบข้าตั้งแต่เมื่อไหร่?
แก้มของซูนฟั่งแดงในทันที "ตั้งแต่ครั้งที่เจ้าช่วยข้าไว้ ตอนนั้นข้านึกว่าข้าจะถูกตีตาย เจ้าเป็นคนมาช่วยข้าไว้ และยังให้ของกินกับข้า
ไม่ใช่ความซาบซึ้ง แต่เป็นการชอบ หรืออาจกล่าวได้ว่ารักแรกพบ ข้ารู้ว่าฐานะของตัวเอง ไม่คู่ควรกับเจ้า ดังนั้นึงแอบปกป้องเจ้าอย่างลับๆ
แม้ว่าเจ้าจะเป็นบุตรีอนุภรรยา แต่ก็แตกต่างจากบุตรีอนุภรรยาของตระกูลใหญ่และตระกูลร่ำรวยอื่น ที่เอาแต่เปรียบเทียบ ประจบสอพลอ และเอาใจบุตรีภรรยาหลวงและเมียหลวง
เพื่อบริหารจัดการร้าน เจ้าขยันทุ่มเท เรียนรู้อย่างจริงจัง ถึงกลางดึกแล้วก็ยังเรียนรู้ฝึกฝนอยู่ แต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่เช้าและไปที่ร้าน ก็เพื่อจะเรียนรู้การบริหาร-----
ความพยายามและความทุ่มเทของเจ้า ข้าล้วนเห็นอยู่ในสายตา เจ้าไม่เสแสร้ง และพยายามเป็นตัวเอง ต่อให้จะทุ่มเท และเหนื่อยมากกว่าคนอื่นไปหลายเท่า เจ้าก็ไม่เคยสนใจ
เพียงเพื่อให้ตัวเองได้เรียนรู้และเป็นอะไรมากขึ้น และทำได้เยอะกว่าเดิม เพื่อแม่ของเจ้า เจ้าสามารถกล้ำกลืนความอัปยศมาตั้งหลายปี ดังนั้นข้านับถือเจ้ามาก และยิ่งเอ็นดูเจ้า
คุณหนูสาม แม้ข้าจะเป็นเพียงขอทาน แต่ด้วยความพยายามของข้าเอง ข้าได้กลายเป็นเจ้าสำนักของเมืองหลวง มีลานแห่งหนึ่ง และร้านค้าอีกสองสามร้าน
พ่อแม่ข้าตายเร็ว หากเจ้าอยากอยู่กับข้าจริง ก็จะไม่ขอทานกับข้าอย่างแน่นอน แม้ชีวิตอาจไม่ได้ดีเหมือนจวนตระกูลหยุน แต่ข้าจะดีกับเจ้าให้มากที่สุดที่ข้าทำได้ ต่อไปข้าจะฟังเจ้าทั้งหมด"
ซูนฟั่งพูดทุกคำที่อยู่ในใจออกมาหมด พูดจาสะเปะสะปะ และตื่นเต้นเล็กน้อย แต่หยุนซูเข้าใจแล้ว
“หากเจ้ารับรองได้ว่ามีเพียงข้าผู้เดียว และไม่แต่งเมียน้อยทั้งชีวิต เช่นนั้นข้าก็ยอมลองคบหากับเจ้าดู” หยุนซูรวบรวมความกล้าหาญทั้งหมดและพูด
นางรู้ว่าผู้หญิงควรสงวนตัว การแต่งงานควรเป็นไปตามคำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่อ แทนที่จะแต่งงานกับชายที่มีอำนาจและตระกูลใหญ่ที่ตัวเองไม่ชอบ ยังไม่ดีกว่าแต่งงานกับขอทานเลย อย่างน้อยในใจและสายตาของเขานั้นมีเพียงตนเอง
อำนาจและฐานะย่อมดี แต่ก็ยากที่จะเทียบกับใจของคนคนหนึ่งได้
ซูนฟั่งตื่นเต้นมากจนไม่อยากเชื่อ "คุณหนูสาม เจ้าหมายความว่ายอมให้โอกาสข้าหรือ?"
"อืม"
"ดีมาก ดีมากเลย!" ซูนฟั่งรู้สึกตื่นเต้นจนน้ำตาไหล หลังจากร้องไห้เสร็จก็รู้สึกว่าไม่ดี "แต่เช่นนี้ก็คงต้องทำให้เจ้ารู้สึกน้อยอกน้อยใจแล้ว"
“น้องสาวข้าย่อมจะได้รับความน้อยอกน้อยใจมิได้ ข้าดูคนไม่ดูที่ประวัติ ดูเพียงความสามารถและความขยัน ในเมื่อเจ้าเป็นเจ้าสำนักแห่งเมืองหลวงของสำนักขอทาน คิดว่าก็ต้องเชี่ยวชาญในด้านการส่งข่าวสินะ
ในเมื่อเช่นนี้ ข้าจะมอบหอชิงเฟิงให้เจ้าบริหารจัดการเป็นเวลาหนึ่งปี หากภายในหนึ่งปีนี้เจ้าสามารถบริหารจัดการได้ดีมาก และทำให้ทุกคนเลื่อมใสอย่างสุดจิตสุดใจต่อเจ้าได้ เช่นนั้นต่อไปเจ้าก็เป็นผู้นำของหอชิงเฟิง
ฐานะนี้คู่ควรกับซูเอ๋อร์ของข้า เป็นลูกเขยของตระกูลหยุนก็จะไม่เสียหน้าพ่อข้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...