พอโม่หลานกลับมา เห็นคนเต็มลานบ้าน และยังข้าวของสีแดงกระจายเต็มทุกที่ โม่หลานอึ้งเป็นไก่ตาแตกไปเลย
“นี่บ้านข้าทำอะไรน่ะ ทำไมพวกเจ้ามากันหมดเลยล่ะ?”
เมื่อวานพอนางออกมาจากจวนเฉินอ๋อง ก็ไปค่ายทหารเลย และเพราะเมื่อคืนฝึกซ้อมดึกไปหน่อย เลยนอนค้างที่ค่ายทหาร พอเช้าวันต่อมาถึงกลับมา เลยยังไม่รู้เรื่องสมรสพระราชทานของฮ่องเต้
“ฝ่าบาทพระราชทานสมรสให้กับเจ้าและเฉินอ๋อง อีกสิบวันให้หลังจะเป็นพิธีแต่งงาน พวกข้ามาช่วยเจ้าจัดการงานแต่งไง” หยุนถิงอธิบาย
“ชาติหนึ่งเจ้าแต่งงานครั้งนี้ครั้งเดียว พวกข้าต้องมาช่วยอยู่แล้วสิ” ซูชิงโยวเสริม
“โม่หลาน เรื่องพวกนี้ท่านพ่อกับท่านพี่เจ้าทำไม่ได้ พวกเราที่เป็นแม่คนแล้วละเอียดอ่อนและคิดรอบคอบมากกว่า” ฉินจิ้งอี๋เสริม
ใบหน้าโม่หลานแดงก่ำทันที “โม่ฉือชิงนี่ ไหนบอกว่าจะแต่งพร้อมหลีอ๋องหลังปีใหม่ไง ทำไมเลื่อนขึ้นมาแล้วล่ะ?”
นิสัยนางเป็นคนโผงผางตรงไปตรงมาอยู่แล้ว แต่พอมาเจอเรื่องการแต่งงานก็รู้สึกกระดากอายเหมือนกัน
“ไม่ใช่ความคิดของโม่ฉือชิงจริงๆ ท่านพ่อเจ้าให้ชินเทียนเจียนดูฤกษ์งามยามดีที่เร็วที่สุดมา!” หยุนหลีที่เดินออกมาแย่งตอบ
โม่หลานใบ้กินฉับพลัน “นี่พ่อแท้ๆงั้นรึ นี่อยากให้ข้าแต่งออกไปแค่ไหนกัน พ่อข้าล่ะ ข้าจะไปหาเขา”
“คุณหนูใหญ่ นายท่านอยู่ที่ศาลบรรพชนขอรับ” พ่อบ้านเดินเข้ามาบอก
โม่หลานรีบพุ่งไปศาลบรรพชนที่ด้านหลังทันที เดิมอยากไปถกเถียงกับพ่อตนเองสักยก สุดท้ายเห็นพ่อนั่งอยู่บนพื้นของศาลบรรพชน กอดป้ายวิญญาณท่านแม่ร้องไห้โฮ
“ฮูหยิน โม่หลานจะแต่งงานกับเฉินอ๋องแล้ว เจ้าคงเป็นสุขแล้วกระมัง ข้ายังคิดว่านังหนูนี่จะอยู่โดดเดี่ยวไปทั้งชาติแล้ว นิสัยอย่างนางน่ะ มีคนมาชอบได้มันไม่ง่ายเลยจริงๆนะ
ฮูหยิน ข้าสมความปรารถนาแล้ว ถึงเฉินอ๋องจะอ่อนปวกเปียกไม่รู้วรยุทธ์ แต่หาเงินเก่งมาก โม่หลานของเราน่ะไม่อดตายแน่
อันที่จริงเมื่อก่อนข้าก็ไม่พอใจเฉินอ๋อง เปิดหอว่านชุน(เป็นซ่องโสเภณี) วันๆเอาแต่วนเวียนอยู่ในสถานที่เริงรมย์ แต่หลายปีมานี้กลับเปลี่ยนนิสัยไปจริงๆ มั่นคงมาก
ประเด็นคือรักมั่นปักใจกับลูกสาวเรานัก ชอบนางมาหลายปีแล้ว มีแต่โม่หลานที่ไม่มีสมองนั่นถึงดูไม่ออก ข้าน่ะซาบซึ้งใจจะตายแล้ว
เพียงแค่โม่หลานของเราออกเรือน ข้าก็ไม่กังวลแล้ว ฉีเฟิงองอาจสง่างาม สืบทอดข้อดีของข้าไป ต่อให้หาดาษดื่นไปยังไงก็คงไม่แย่หรอก เจ้าต้องปกปักรักษาลูกสาวเรานะ
อย่าให้แต่งงานไปแล้ว พอโกรธทีก็เตะต่อยกับเฉินอ๋องนะ เกิดทำเขาบาดเจ็บตายไป ก็เป็นม่ายสิ เรื่องนี้ไว้ข้าจะกำชับนางสักหน่อย”
ฟังคำพูดของพ่อตนเองแล้ว โม่หลานอยากอัดเขาจนสลบเสียจริง นี่พ่อแท้ๆของตนรึ มีใครเขาพูดถึงลูกสาวแบบนี้กันบ้าง แต่พอดูท่าทางร้องไห้น้ำตาไหลพรากของเขาแล้ว โม่หลานเปลี่ยนใจ หมุนตัวจากไป
โม่หลานไปเรือนหน้า พูดคุยกับพวกหยุนถิงแทน แน่นอนว่าถามเรื่องการครองคู่ของสามีภรรยาหลังแต่งงาน
พริบตาเดียว สิบวันผ่านไปแล้ว มาถึงวันแต่งงานของโม่หลานกับเฉินอ๋อง
แต่เช้ามา โม่ฉือชิงในชุดเจ้าบ่าว ดูหล่อเหลานัก ขี่ม้าตัวใหญ่ นำขบวนแต่งงานมา มุ่งตรงไปยังจวนแม่ทัพอย่างครึกครื้นยิ่งใหญ่นัก
เกี้ยวเจ้าสาวมาหยุดลงตรงหน้าจวนแม่ทัพ ตีฆ้องร้องป่าว เสียงประทัดดังสนั่น สะท้านดังก้องแก้วหูนัก
โม่ฉีเฟิงแบกโม่หลานออกมา วินาทีที่ยื่นนางให้กับท่านพ่อ ยังไม่ลืมกำชับว่า “น้องพ่า หากวันหน้าเฉินอ๋องกล้าทำให้เจ้าโกรธ ยั้งมือไว้บ้างนะ!”
โม่หลานที่อยู่ใต้ผ้าคลุมหน้าสีแดงยิ้มเย็นบอก “พี่ใหญ่ ท่านไม่พูดไม่มีใครหาว่าท่านเป็นใบ้หรอกนะ”
“ได้ พี่ใหญ่ไม่พูด!”
แม่ทัพเฒ่าโม่จูงมือบุตรสาว และส่งนางออกเรือน “นังหนู ไปอยู่จวนเฉินอ๋องดีๆนะ อย่าไปรังแกใครเขาไปทั่วล่ะ”
“ท่านพ่อ ทำไมท่านเหมือนกับพี่ใหญ่เล่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...