“พี่หญิงใหญ่ ท่านเคยเห็นหน้ากากหนังมนุษย์บนหน้าเขาจริงรึ?” วี่หนานเสวียนที่แวะมาเพราะอยากดูเรื่องสนุกเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ทนไม่ไหวถามออกมา
“แน่นอน ข้าไม่ได้โง่เสียหน่อย เรื่องแบบนี้ข้าจะพูดจาเพ้อเจ้อได้อย่างไร หนานเสวียนเจ้าไปตรวจดูสิ” วี่รั่วยีเอ่ยปากทันที
หนานเสวียนเป็นน้องชายแท้ๆของนาง ต้องไม่หลอกตนแน่
“ในเมื่อพี่หญิงใหญ่พูดเช่นนี้ ข้าจะไปดูหน่อย” วี่หนานเสวียนเดินเข้าไปอย่างสงสัย และดึงทึ้งแก้มของจิ่วฟ่าง
คนอื่นเห็นดังนั้นอดเห็นใจจิ่วฟ่างไม่ได้ คุณชายน้อยคนนี้ลงมือหนักไปหน่อยกระมัง
“พี่หญิงใหญ่ ท่านมองผิดไปแล้วกระมัง ใบหน้าเขาไม่ได้แปลงโฉมมาจริงๆ ข้าขยี้ขนาดนี้ ต่อให้เป็นหน้ากากหนังมนุษย์ที่ดีแค่ไหนก็ต้องเผยรอยเหี่ยวย่นหรือแตกออกมาบ้างสิ” วี่หนานเสวียนตอบ
คราวนี้วี่รั่วยีสีหน้าเหมือนปลาตาย ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ เขาคือจวินหย่วนโยวชัดๆนี่
“ตอนนี้คุณหนูใหญ่ยังมีอะไรจะพูดอีกหรือไม่ พวกท่านสงสัยฐานะของข้า แต่ผลลัพธ์ได้รับการพิสูจน์จากหลายคน หรือว่ายังไม่เชื่อกันอีกรึ
ต่อให้อาจารย์ข้าไม่อยู่ ก็ไม่มีวันยอมให้พวกท่านมาลบหลู่รังแกข้าเยี่ยงนี้ ขอฮูหยินทำตามสัญญาเมื่อครู่ด้วย ให้คุณหนูใหญ่ขอขมาข้า!” จิ่วฟ่างเดือดดาลทะลุฟ้า บรรยากาศรอบตัวเย็นจนติดลบ
ครั้งนี้ทุกคนพากันเหงื่อตก ยิ่งรังเกียจวี่รั่วยีมากขึ้น เรื่องนี้เป็นใครก็ต้องไม่สบอารมณ์ทั้งนั้น ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนยังเป็นศิษย์ร่วมสำนักกันอีก
สีหน้าเซียวหลันทะมึนขั้นสุด ออกคำสั่งทันที “ยีเอ๋อร์ ขอโทษซะ!”
เมื่อคืนนางก็สงสัยจิ่วฟ่างเช่นกัน แต่ผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่ที่สองผู้อาวุโสยืนยัน เซียวหลันเลยไม่สงสัยเขาอีก
วี่รั่วยีเดือดดาลนัก บอกอย่างไม่ยอมแพ้ “ไม่ ข้าไม่มีทางยอมขอโทษ ข้าพูดความจริงทั้งนั้น หลายวันก่อนข้าเจอศิษย์คนหนึ่งแบกเขาที่บาดเจ็บสาหัสสลบไปอยู่ ข้าหวังดีเลยช่วยรักษาเขาจนรู้ความจริง
ใช่ บาดเจ็บภายใน ท่านแม่ท่านให้คนมาจับชีพจรจิ่วฟ่างสิ เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในหนักมาก นี่พึ่งผ่านไปไม่กี่วันเอง ไม่มีทางหายดีแน่นอน
ท่านแม่ ท่านเชื่อข้านะ ข้าไม่มีทางโกหก ข้าพูดจริงนะ ข้าเห็นเองกับตา และเคยช่วยจับชีพจรให้เขา ขอเพียงจับชีจรเขาก็ต้องรู้ได้ทันทีว่าเขาปลอมตัวมาหรือเปล่า”
เซียวหลันขมวดคิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่วี่รั่วยีขอร้องตน ครั้งแรกในรอบหลายปีมานี้ นางยอมละความเย่อหยิ่งลงขอร้องตน มันทำให้เซียวหลันลังเล
เพียงแต่เมื่อครู่ตนก็พูดไปแล้ว หากจะตรวจสอบอีก เท่ากับเป็นการกลับคำพูดสิ
“ในเมื่อคุณหนูใหญ่ใส่ร้ายข้าอีก เช่นนั้นขอให้ฮูหยินจับชีพจรให้ข้าเองเถอะ หากข้าไม่ได้รับบาดเจ็บ ข้าจะให้คุณหนูใหญ่คุกเข่าขอขมาข้า!” เสียงเย็นเยียบของจิ่วฟ่าง เน้นพูดทีละคำ
“ได้ หากเจ้าคือจิ่วฟ่างจริงๆ ข้าจะขอขมาเจ้า!” วี่รั่วยีพูดออกมาโดยไม่คิดเลย
นี่เป็นไพ่ไม้ตายของนางแล้ว นางต้องพลิกกลับมาเอาชนะได้ ต้องเหยียบจิ่วฟ่างลงใต้ฝ่าเท้าให้ได้
จิ่วฟ่างเดินก้าวเท้ายาวเข้ามาหยุดยืนลงตรงหน้าเซียวหลัน ยื่นแขนออกให้อย่างสง่าผ่าเผย
เซียวหลันจับชีพจรเขาทันที ไม่นานเซียวหลันก็ถลึงตามองวี่รั่วยีอย่างเดือดดาล “ยีเอ๋อร์ ขอโทษซะ!”
คราวนี้วี่รั่วยีอึ้งตาแตกไปเลย “ไม่ ไม่มีทาง อาการบาดเจ็บของเขาจะหายเร็วเพียงนี้ได้อย่างไรกัน ข้าไม่เชื่อ”
ระหว่างที่พูด นางอดทนความเจ็บปวดที่ไหล่และพุ่งเข้ามา ยื่นมือลูบแขนจิ่วฟ่าง
ดวงตาดำขลับของจิ่วฟ่างดำเมี่ยมราวก้นหม้อ แต่ไม่ได้สะบัดนางออก ในเมื่อวี่รั่วยียังไม่ยอมแพ้ เขาจะให้นางตายตาหลับ
นั่นไง วี่รั่วยีอึ้งตะลึงไปเลย ถอยหลังไปหนึ่งก้าวในบัดดล พลางปล่อยมือ
“เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน เจ้าไม่ใช่จิ่วฟ่าง เจ้าได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสมากแท้ๆ เป็นไปได้อย่างไรกัน?”
ชีพจรของจิ่วฟ่างไม่เคยได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสเลย พูดได้เลยว่า ไม่มีร่องรอยว่าเคยได้รับบาดเจ็บเลย
ครั้งนี้จิ่วฟ่างไม่ได้ให้โอกาสวี่รั่วยีแก้ตัว เขายกขาเตะแข้งวี่รั่วยีอย่างแรง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...