“ทูลซื่อจื่อ เหยียนซู่เสวี่ยถูกนำตัวไปห้องด้านข้าง คนของพวกเราดูนางไว้อยู่น่ะพ่ะย่ะค่ะ ในระหว่างนั้นนางฟื้นแล้ว แล้วก็โดนตีจนสลบไปอีกครั้ง กลัวว่าจะรบกวนซื่อจื่อเฟยและจวิ้นจู่น้อยพ่ะย่ะค่ะ!” หลงยีตอบด้วยความเคารพ
นำตัวนางเข้ามา!” จวินหย่วนโยวกล่าวด้วยความไม่พอใจคำหนึ่ง
“พ่ะย่ะค่ะ!”
องครักษ์เงามังกรสองคนนำตัวเหยียนซู่เสวี่ยเข้ามา เมื่อเห็นผิวพรรณดำคล้ำของนาง ร่างกายก็บวมพองจนไร้ที่เปรียบ เหมือนกับหมูเช่นนั้น อีกทั้งบนผิวหนังก็ยังมีรอยกระสีดำอีก เพียงแค่มองก็ทำให้คนรู้สึกสะอิดสะเอียนแล้ว
แค่แวบเดียวจวินหย่วนโยวก็มองออกได้ เหยียนซู่เสวี่ยเป็นเช่นนี้เพราะโดนยาพิษแล้ว และเขาก็ไม่ได้ใช้พิษกับนางโดยสิ้นเชิง หยุนถิงก็ถอนพิษให้ลูกอยู่ตลอด ไม่มีเวลาลงโทษนาง
“ซื่อจื่อ นี่น่าจะเป็นหนอนพิษกู่ของจวิ้นจู่น้อยพ่ะย่ะค่ะ!” หลงยีรีบเอ่ยปากทันที
ก่อนหน้านี้จวิ้นจู่น้อยเคยบอกเขา บอกว่าเพียงแค่ถูกหนอนพิษกู่กัดก็จะอัปลักษณ์อย่างไร้ที่เปรียบ ผิวพรรณจะกลายเป็นสีดำ ทั้งยังจะมีรอยกระอีกด้วย ก็คือคนอัปลักษณ์โดยแท้จริง ดังนั้นหลงยีจึงได้สันนิษฐานเช่นนี้
“สมแล้วที่เป็นบุตรสาวของข้า ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนี้ยังคิดที่จะปล่อยหนอนพิษกู่ออกมาได้อีก!” มุมปากของจวินหย่วนโยวยกขึ้นด้วยความพอใจ
“ซื่อจื่อ จะจัดการนางยังไงพ่ะย่ะค่ะ?” หลงยีถามขึ้นทันที
“กล้าทำร้ายเสี่ยวเหยียน ข้าจะไม่ปล่อยไปง่ายๆเด็ดขาด! ในเมื่อนางห่วงใยเจว๋กู่เพียงนี้ ให้คนส่งนางเข้าไปที่ค่ายทหารของเป่ยหมิงฉี่ไปเป็นหญิงบำเรอของกองทัพ หากว่านางกล้าเล่นตุกติกหรือว่ารนหาที่ตาย ก็ขุดศพของเจว๋กู่ออกมา ทำลายกระดูกให้เป็นเถ้าถ่าน ถึงตายแล้วก็อย่าให้สงบสุข!” จวินหย่วนโยวกล่าวคำรามด้วยความเดือดดาล
“พ่ะย่ะค่ะ!” หลงยีรีบไปสั่งการทันที
โม่เหลิ่งเหยียนได้ยินการลงโทษของเขา ยกมุมปากขึ้นด้วยความพอใจ หมุนตัวแล้วเดินจากไป
“รอเดี๋ยว สามวันนี้ขอบใจเจ้ามากที่เฝ้าอยู่นอกประตู ข้าเชิญเจ้าไปดื่มชา!” จวินหย่วนโยวเปิดปากกล่าว
โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ยกมุมปากแสดงความพอใจ “ได้ แต่ข้าต้องการดื่มชาหลงจิ่งที่เก็บได้ก่อนฝนแรกของปีของเจ้า”
“ได้!” จวินหย่วนโยวรีบให้คนไปชงชาทันที
นี่คือชาที่จวินหย่วนโยวโปรดปรานเป็นอย่างยิ่ง หาได้ยากและพบได้น้อยเป็นที่สุด ทุกครั้งที่จวินหย่วนโยวออกเดินทางจะให้คนรับใช้ที่ติดตามพกติดตัว เห็นแก่ครั้งนี้ที่เขาเสี่ยงบุกเข้ามาช่วยทั้งยังเฝ้าประตูให้อีกสามวัน จวินหย่วนโยวจึงรับปากเป็นธรรมดา
ทั้งสองคนตรงไปที่โต๊ะหินในลาน ผู้ใต้บังคับบัญชารีบชงชาทันที
จวินหย่วนโยวยกกาน้ำชานั่นขึ้นด้วยตัวเอง เทชาให้โม่เหลิ่งเหยียนแก้วหนึ่ง “ขอบใจมากที่เจ้ายื่นมือเข้าช่วย! เสี่ยวเหยียนเป็นลูกสาวของข้า หากว่านางเกิดเรื่อง ข้าจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต!”
“ก็เพราะจุดนี้ เจ้าเหมาะสมกับการเป็นพ่อ ข้ารู้สึกปลื้มใจเป็นอย่างมาก!” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวชื่นชมขึ้นอย่างหาได้ยาก
“พูดมาเถอะ ครั้งนี้เจ้ามาสืบอะไรที่แคว้นเป่ยลี่?” จวินหย่วนโยวพูดอย่างตรงไปตรงมา
โม่เหลิ่งเหยียนเลิกคิ้ว ก็รู้ว่าเจ้าหมอนี่มาดื่มชากับตัวเอง จะต้องมีความคิดอยู่เป็นแน่ “ข้าสืบได้ถึงกองกำลังอันแปลกประหลาดได้จริงๆ นอกจากสำนักหิมะแล้วยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง เพียงแต่ร่องรอยการเดินทางของพวกเขานั้นลึกลับไม่มีที่อยู่แน่นอน แต่สามารถยืนยันได้ว่าพวกเขาอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นเป่ยลี่”
สีหน้าของจวินหย่วนโยวตึงเครียดขึ้นเล็กน้อยแล้วเช่นกัน “ขนาดคนของเจ้ายังสืบไม่ได้ ดูเหมือนจะไม่ธรรมดา!”
“ในเมื่อการแต่งงานครั้งใหญ่ของเป่ยหมิงฉี่สิ้นสุดลงแล้ว ก็รีบพาพวกเขากลับแคว้นต้าเยียนให้เร็วหน่อย”
“ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...