จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 927

“ฟั่งเอ๋อร์ ใช่เจ้าจริงๆหรือ ในที่สุดเจ้าก็ยอมพบข้าแล้ว ช่างดีจริงๆ” ฮูหยินจูเก่อยื่นมือเข้ามาจับมือของเขาเอาไว้ แต่กลับถูกซูนฟั่งสะบัดออกไป

“พอได้แล้ว เลิกเสแสร้งได้แล้ว ชาตินี้ข้าไม่อยากเห็นหน้าท่านอีก” ซูนฟั่งกล่าวด้วยความรังเกียจ

ใบหน้าของฮูหยินจูเก่อเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ฟั่งเอ๋อร์ ตอนนั้นแม่ผิดต่อเจ้าเอง แต่แม่สำนึกผิดแล้ว หลายปีมานี้แม่ใช้ชีวิตอยู่ในความรู้สึกผิดและตำหนิตัวเองมาโดยตลอด หวังเพียงแต่ว่าสักวันหนึ่งจะได้รับการอภัยของเจ้า

ถึงแม้เจ้าจะไม่คิดเพื่อตัวเอง แต่เจ้ากับคุณหนูซูรักใคร่ชอบพอกัน การแต่งงานเป็นไปตามคำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่อ เจ้าก็คงไม่อยากให้การแต่งงานของเจ้ากับคุณหนูซูในอนาคตถูกคนตราหน้าว่าเป็นมั่วโลกีย์หรอกใช่ไหม?”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา สีหน้าของซูนฟั่งโกรธแค้น เส้นเลือดบนหน้าผากปูดออกมา ดวงตาทั้งคู่แดงก่ำ ราวกับสัตว์ป่าที่เปิดเผยตัว ความรุนแรงและโหดเหี้ยมทั้งร่างกายนั่นปะทุขึ้นมาทันที

“หุบปาก ข้ากับซูเอ๋อร์รักใคร่ชอบพอกัน มีซื่อจื่อเฟยตัดสินใจแทนเรา ใครจะกล้าซุบซิบนินทา!”

ฮูหยินจูเก่อสะดุ้งตกใจในทันที รีบเปลี่ยนคำพูดทันที “แม่พูดผิดไปเอง แม่แค่รู้สึกว่าคุณหนูสามรักและแน่วแน่ในตัวเจ้า ในฐานะที่เจ้าเป็นผู้ชายจะต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่นางอย่างแน่นอน โดยเฉพาะสถานะ”

“พอได้แล้ว น้องหญิงสามของข้า ถือกำเนิดในตระกูลหยุน พ่อเป็นหยุนเฉิงเซี่ยงในรัชกาลปัจจุบัน เป็นเจ้าของร้านเนื้อย่างในสี่แคว้น สูงศักดิ์ขนาดไหน จำเป็นต้องให้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างเจ้ามาคอยจับผิดที่นี่หรือ

คำสั่งของพ่อแม่และการชักนำของแม่สื่ออะไรกัน อย่าคิดจะอ้างหลักศีลธรรมที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นมาบังคับซูนฟั่ง ยิ่งอย่าคิดใช้การแต่งงานของซูเอ๋อร์มาข่มขู่ซูนฟั่ง

มีข้าอยู่ทั้งคน การแต่งงานของพวกเขาก็คือสิ่งที่ถูกต้องตามหลักเหตุผลที่สุด ภายในสี่แคว้นข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกล้าพูดมาก หากให้ข้าได้ยินเจ้าพูดจาไร้สาระอีกคำเดียว ข้าไม่รังเกียจที่จะทำให้ชีวิตที่เหลือของเจ้ากลายเป็นคนใบ้!” หยุนถิงเข้าข้างคนของตัวเองอย่างเผด็จการ

นางเกลียดที่คนอื่นเอาเรื่องสถานะของบุตรีอนุภรรยามาพูดที่สุด หลายปีมานี้หยุนถิงเห็นความพยายามและทุ่มเทของซูเอ๋อร์อยู่ในสายตา นางไม่มีทางยอมให้ใครมาทำให้ซูเอ๋อร์อับอายเด็ดขาด

หญิงนางนี้ดูเหมือนฉลาด จงใจพูดเหมือนหวังดีกับซูเอ๋อร์ แต่เมื่อฟังอย่างตั้งใจก็จะสามารถฟังความหมายนอกเหนือจากคำพูดของนางออก ก็แค่จะใช้ซูเอ๋อร์ควบคุมซูนฟั่ง คนพูดจาปากหวานแต่แอบคิดร้ายกับคนอื่นเช่นนี้หยุนถิงเห็นมามากแล้ว ย่อมจะไม่ให้โอกาสนางอยู่แล้ว

ฮูหยินจูเก่อตกใจจนใบหน้าซีดขาวทันที รีบยอมรับทันที “ซื่อจื่อเฟยอย่าได้โกรธไป ซื่อจื่อเฟยไว้ชีวิตด้วย ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ขอซื่อจื่อเฟยโปรดตรวจสอบให้ชัดเจน!”

“มีหรือไม่มีเจ้ารู้ดีแก่ใจในเมื่อซูนฟั่งไม่อยากสนใจเจ้า รีบไสหัวไปก่อนที่ข้าจะบันดาลโทสะ หากให้ข้าเห็นเจ้าอีก ข้าไม่รังเกียจที่จะส่งศพของเจ้ากลับไป!” หยุนถิงกล่าวด้วยความโกรธ

ฮูหยินจูเก่อตกใจจนตัวสั่นสะท้าน ย่อมไม่กล้าเซ้าซี้อีก “เหตุการณ์ในวันนี้ข้าเป็นคนก้าวล่วงไป รบกวนซื่อจื่อเฟยแล้ว ข้าจะไปเดี๋ยวนี้แหละ!” กล่าวจบ ก็จากไปทันที

หยุนซูมองไปทางหยุนถิงด้วยความซาบซึ้งใจ “พี่หญิงใหญ่ ความจริงข้าไม่เป็นไรหรอก”

หยุนถิงยื่นมือไปจูงมือของนางเอาไว้ “เด็กโง่ เจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆของข้า ข้าไม่มีทางยอมให้ใครทำให้เจ้าอับอายเด็ดขาด บุตรีอนุภรรยาหรือภรรยาเอกแล้วมันสำคัญตรงไหน ตอนนี้คุณหนูใหญ่ลูกสาวภรรยาเอกมากมายในเมืองหลวงก็ยังสู้เจ้าไม่ได้ด้วยซ้ำ”

“อืม ข้าเข้าใจแล้ว” หยุนซูพยักหน้าอย่างแรง

ใช่แล้ว นางสามารถมีทุกสิ่งทุกอย่างเช่นในวันนี้พี่หญิงใหญ่เป็นคนให้ทั้งนั้น และนางก็รู้สึกขอบคุณหยุนถิงมากมาโดยตลอด วันนี้คำพูดของหญิงคนนี้ถึงแม้จะทำให้นางรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่จะไม่เก็บมาใส่ใจ เพราะนางยังไม่คู่ควร

ซูนฟั่งที่อยู่ด้านข้างคุกเข่าลงไปบนพื้นทันที “ซื่อจื่อเฟยโปรดอภัย ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเอง ที่ปิดบังชาติกำเนิด ไม่ได้ปกป้องซูเอ๋อร์ให้ดี ขอซื่อจื่อเฟยโปรดลงโทษด้วยเถิด!”

“ทุกคนย่อมมีความลำบากใจและความลับที่ไม่มีใครรู้ทั้งนั้น เจ้ายอมที่จะบอกว่าตัวเองเป็นขอทาน เป็นเด็กกำพร้า ก็ไม่ยินดียอมรับชาติกำเนิดของตัวเอง แสดงให้เห็นว่าพวกเขาทำร้ายเจ้าอย่างสุดซึ้ง ข้าแค่อยากจะถามเจ้าประโยคหนึ่ง เจ้าจริงใจต่อหยุนซูหรือไม่ สามารถละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อนางได้ไหม?” หยุนถิงมองมาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ