“ท่านลุง ตอนนี้ท่านค่อนข้างซุกซนแล้วนะ” หยุนหลีทำหน้ามุ่ย จู่ๆก็มีเสียงท้องร้องจ้อกๆดังมา
“ไป พาเจ้าไปกินข้าวเช้า”
ทั้งสองคนเดินไปทางด้านนอกร้าน คนงานที่อยู่ในลานเห็นพวกเขาจากไป ก็แอบโล่งใจเงียบๆ เขารีบไปบอกหัวหน้าว่าจะออกไปซื้อของทันที จากนั้นก็ออกไป
คนงานซื้อของเสร็จ ก็ฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเกต ไปย้งร้านสุราที่ไม่สะดุดตาแห่งหนึ่ง
องครักษ์ของจวนหลีอ๋องที่ติดตามเขาในที่ลับตั้งสติขึ้นมาทันที รอไปครู่หนึ่งเห็นว่าคนงานจากไปแล้ว และกลับร้านขายอาวุธหลังจากที่ซื้อของเสร็จ องครักษ์ลับรีบไปรายงานต่อเฉินอ๋องทันที
ทันทีที่โม่ฉือชิงได้ยินเกี่ยวกับร้านสุรานั่น สีหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นมา “เจ้ารีบไปจับตาดูร้านสุรานั่นเอาไว้ ข้าจะเข้าวังไปขอกำลังคนกับเสด็จพี่เดี๋ยวนี้ อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่นเด็ดขาด”
“ขอรับ!” องครักษ์ลับจากไปทันที
โม่หลานเลิกคิ้วมองมา “ไม่ได้พบกันสองสามวันมีสมองขึ้นมาแล้วนิ ยังรู้จักไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น”
โม่ฉือชิงเบะปาก “ข้าทำการค้ากับหยุนถิงมานานขนาดนี้ แม้ไม่เคยกินเนื้อหมูแต่ก็เคยเห็นหมูวิ่งไหม”
“ท่านเหมือนหมูจริงๆนั่นแหละ” โม่หลานกล่าวเย้าแหย่
“ก็มีแต่เจ้าเท่านั้นที่กล้าว่าข้าเช่นนี้” โม่ฉือชิงเข้าวังทันที ขอองครักษ์ลับกับฮ่องเต้มากมาย ให้พวกเขาจับตาดูร้านค้าทั้งหมดของเมืองหลวงเอาไว้
…………………….
ทางด้านนี้ หยุนถิงและคนอื่นๆใช้บอลลูนในการเดินทาง กล่าวได้ว่าเดินทางได้วันละพันๆลี้ เวลาประมาณสิบวันก็มาถึงด่านชายแดนแล้ว
เม็ดทรายลอยเต็มท้องฟ้า ดินเหลืองเป็นผืน มองไปมีแต่ทะเลทรายที่แห้งแล้ง ผู้คนเบาบาง ไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไรจริงๆ
“มิน่าตอนนั้นตระกูลเวินถึงหนีมาที่นี่ ในสถานที่ที่ทุรกันดารเช่นนี้ ใครอยากจะอยู่กัน” หลงเอ้ออดที่จะบ่นไม่ได้
“เป็นเพราะว่ากันดาร ดังนั้นจึงไม่มีใครไล่ตาม ถึงทำให้ตระกูลเวินประคองชีวิตรอดมาจนถึงทุกวันนี้ได้” โม่เหลิ่งเหยียนกล่าวเสียงเย็นชา
กองกำลังของจวนซื่อจื่อส่งรถม้า ม้าและเสบียงมาแล้ว ทุกคนขึ้นหลังม้าเร่งเดินทางต่อทันที เม็ดทรายดินเหลืองเช่นนี้ ถ้าหากเจอพายุทะเลทรายเข้า บอลลูนย่อมไม่เหมาะสมอยู่แล้ว
ทุกคนเดินไปประมาณหนึ่งวัน ก็เห็นโรงเตี๊ยมอยู่ด้านหน้าก่อนฟ้ามืด
ทุกคนลงจากรถม้า และเดินไปทางโรงเตี๊ยมทันที
ข้างในมีเพียงสามีภรรยาสูงอายุคู่หนึ่ง ทันทีที่ผู้เฒ่าเห็นคนมา ก็ต้อนรับด้วยความกระตือรือร้น “ทุกท่านพักค้างคืนหรือว่ากินอาหาร?”
“ท่านผู้เฒ่าเราจองห้องพักทั้งหมดที่นี่ของท่าน แล้วก็ต้มน้ำร้อน ทำอาหารอุ่นๆให้เราเล็กน้อยก็พอ” หยุนถิงตอบ
“ได้เลย” ชายชราพาพวกเขาขึ้นชั้นบนทันที ในขณะที่หญิงชราไปทำอาหารด้านหลัง
ห้องไม่ใหญ่ ดูทรุดโทรมเล็กน้อย แต่ว่าห้องจัดการได้สะอาดมาก ข้างหน้าต่างยังมีดอกไม้หลายกระถางวางอยู่
“ทุกท่านอย่าได้รังเกียจ ถึงแม้เรือนจะทรุดโทรมแต่เราทำความสะอาดทุกวัน ทุกท่านอยู่แก้ขัดไปก่อนเถิด” ชายชรากล่าว
“ท่านผู้เฒ่าเกรงใจไปแล้ว”
“เช่นนั้นพวกท่านพักผ่อนกันก่อน ข้าจะไปทำอาหารด้านหลัง” ชายชราเพิ่งจะจากไป เด็กน้อยสองคนก็วิ่งไปที่เตียง
แต่แล้วพวกเขาเพิ่งจะขึ้นไป เตียงก็ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมา หยุนถิงได้ยินก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“ท่านแม่ เตียงนี่ส่งเสียงได้ด้วย สนุกจริงๆ” จวินเสี่ยวเทียนเหยียบตรงนั้นที ตรงนี้ทีอยู่ข้างบน
“สนุกจัง” จวินเสี่ยวเหยียนก็เหยียบตามเช่นกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ
อัพต่อด้วยจ้า...
รอตอนต่อจ้า...
แต่ละบทที่่อ่านแล้ว ควรมีสีหรือเครื่องหมายที่แตกต่างกัน ผู้อ่านจะได้ทราบว่าเรืื่องนี้อ่านไปถึงบทไหนแล้ว...
รำคานโฆษณาที่เลื่อนเข้ามา เข้าใจได้ว่าต้องหารายได้ แต่ควรนำไปวางไว้ด้านล่างสุด ไม่ด้านซ้ายก็ด้านขวา จะได้ไม่เสียอารมณ์ในการอ่าน ปกติโฆษณาที่อยู่ระหว่างหน้าก็ใหญ่และมากอยู่แล้ว...
ขอร้องทงทีมงานช่วยอัพเดทจนจบด้วยนะคะ😭😭😭😭😭...
เรื่องนี้ทางทีมงานจะอัพเดทต่อมั้ยค่ะ😭...
รอตอนใหม่อยู่นะคะ😭🙏🏻...
เมื่อไหร่จะอัพเพิ่มค่ะหายไปเป็นเดือนแล้วนะ...
รอค่ะ ตามเรื่องนี้มานานมาก อัพตอนต่อจาก 1070 ให้หน่อยค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออ่านตอนต่อไปอยู่นะคะรบกวนลงต่อให้จบด้วยค่ะ กำลังสนุก...