จอมนางข้ามพิภพ นิยาย บท 992

ลวดลายบนแผ่นหยกนั่น เหมือนกับแผ่นหยกอันที่โหลวซิงเจ๋อมอบให้นางเปี๊ยบเลย ไม่ว่าจะเป็นสี พื้นผิว หรือว่าลวดลาย

หยุนถิงสูดลมเย็น ๆ เข้าไปคำหนึ่ง แล้วก็เดาออกทันทีเลยว่าเด็กคนนี้กับคนพวกนี้จะเป็นคนจากเผ่าเลือดแน่นอน

นางคิดไม่ถึงว่าบรรพจารย์ตระกูลเวินจะโรคจิตมากขนาดนี้ เพื่อจะปรุงยาอายุวัฒนะแล้ว ถึงกับทำร้ายคนจากเผ่ามารดา และโหดร้ายทารุณเช่นนี้

จ้องมองคนที่เหี่ยวแห้งพวกนี้แล้ว ใจของหยุนถิงก็รู้สึกเจ็บปวดมาก สายตาของนางเหล่มองไปที่ช่องสุดท้ายบนกำแพง ในนั้นเป็นช่องว่าง คาดว่าบรรพจารย์ตระกูลเวินน่าจะเก็บไว้ให้ตัวเอง

จ้องมองแผ่นกั้นที่โปร่งใสราวกับกระจก แล้วหยุนถิงก็รีบหันมองรอบ ๆ และแล้วตรงด้านล่างสุด ก็มองเห็นหินก้อนเล็ก ๆ ที่โผล่ออกมาก้อนหนึ่ง แล้วก็รีบกดลงไปทันที

พอแผ่นกั้นเปิดออก หยุนถิงก็ใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดพาเด็กคนนั้นเข้าไปไว้ในมิติ ขณะเดียวกันก็คัดลอกเด็กอีกคนเก็บใส่เข้าไป

หยุนถิงพบเห็นโดยบังเอิญว่า ไม่ว่าสิ่งของอะไรที่นางคัดลอกออกมาจากมิติก็จะอยู่ได้ยืนยาว มีเพียงคนเท่านั้นที่จะสามารถมีชีวิตอยู่ได้แค่หนึ่งเดือน ถึงจะไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่ว่าเวลาหนึ่งเดือนก็มากพอแล้ว

พอนางทำให้แผ่นกั้นกลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ก็รีบเดินไปตรงตำแหน่งเมื่อกี้ แล้วเอาโซ่เหล็กมาคล้องขาตัวเองไว้ แล้วแกล้งทำเป็นหมดสติไป จากนั้นก็ใช้จิตเข้าไปในมิติ

“ถิงเอ๋อร์ เขาเป็นใคร?” จวินหย่วนโยวถามขึ้นมา

“ท่านแม่ ทำไมสีหน้าของพี่ชายคนนี้ถึงซีดจังเลย เขาไม่สบายหรือ?” จวินเสี่ยวเทียนชิดเข้ามาถามอย่างแปลกใจ

“เขาจะต้องไม่ได้กินพุทราจีนมาแน่เลย ท่านแม่บอกว่าเสียเลือดมากแล้วใบหน้าขาวซีด” จวินเสี่ยวเหยียนตอบกลับมาอย่างจริงจัง

“เสี่ยวเหยียนพูดถูก เดี๋ยวแม่จะรักษาอาการให้พี่ชายคนนี้ พวกเจ้าไปเก็บยาสมุนไพรที่แปลงสมุนไพรทางโน้นมาให้แม่หน่อย เอายาที่บำรุงเลือดนะ” หยุนถิงเสนอความเห็นออกมา

“ได้” แล้วเด็กทั้งสองคนเดินจากไปเลย

แล้วหยุนถิงก็เล่าเรื่องที่บรรพจารย์ตระกูลเวินดูดเลือดของพวกเขาจนแห้งออกมา พอจวินหย่วนโยวฟังแล้ว หัวคิ้วก็มีกลิ่นอายความอาฆาตที่เยือกเย็นปรากฏออกมาทันที

“คนที่เห็นชีวิตคนเป็นผักปลา จับเขาไปให้ม้าห้าตัวแยกร่างก็ยังถือว่าจัดการเขาน้อยไปเลย” หลงเอ้อกัดฟันพูดขึ้นมา

“ทำไมตาแก่นี่ถึงได้โรคจิตขนาดนี้ ถึงกับดูดเลือดคนจนแห้ง เขาก็ยังสามารถทำออกมาได้อีก” ซูหลินเองก็ตกใจเหมือนกัน

“ในเมื่อคนพวกนี้เป็นชนเผ่าเลือด งั้นก็เป็นคนจากเผ่ามารดาของถิงเอ๋อร์ พวกเขาถูกเซียวหรูซื่อฆ่าล้างโคตรไปในตอนนั้นแล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมถึงถูกบรรพจารย์ตระกูลเวินหาตัวเจอได้ล่ะ?” จวินหย่วนโยวถามเรื่องสำคัญออกมา

หยุนถิงสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ข้าสงสัยอยู่เช่นกัน เพราะฉะนั้นจะต้องช่วยเด็กคนนี้ให้ได้”

หยุนถิงตรวจดูอาการอย่างละเอียดไปรอบหนึ่ง ก็พบว่าเด็กคนนี้แค่เสียเลือดมากจนหมดสติไป ไม่ได้มีอะไรน่าเป็นห่วงมาก ก็รีบใช้เข็มเงินทิ่มนิ้วของเขาให้เป็นแผล แล้วเอาเลือดหยดหนึ่งของเขามาตรวจหากรุปเลือด จากนั้นก็เอาถุงเลือดที่ตัวเองเก็บสำรองเอาไว้ออกมาให้เลือดเขา แล้วป้อนอาหารสารอาหารให้เขา และพวกยาเสริมพลังจิตยาบำรุงต่าง ๆ เป็นต้น

เวลาค่อย ๆ ผ่านไป เด็กที่หายใจรวยรินในตอนแรกค่อย ๆ มีสีหน้าแดงระเรื่อขึ้น ลมหายใจก็สม่ำเสมอไปไม่น้อย

หยุนถิงกำลังจะพูดอะไร ก็ได้ยินด้านนอกมิติมีเสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้นมา “ท่านพี่ ถ้าเขาฟื้นขึ้นมาแล้วบอกข้าด้วยนะ” จิตของหยุนถิงออกจากมิติไป

บรรพจารย์ตระกูลเวินถือถ้วยเดินมาอีกครั้ง แล้วใช้แรงกดบาดแผลตรงข้อมือหยุนถิงอย่างแรง หยุนถิงเจ็บจนพึมพำออกมาคำหนึ่ง

“เมื่อกี้ท่านเอาเลือดข้าไปถ้วยหนึ่งแล้ว หรือว่าปรุงยาไม่สำเร็จ ก็เลยมาเอาอีก? วิชาการแพทย์ของบรรพจารย์ตระกูลเวินอย่างท่านมันก็ไม่เท่าไหร่เลยนี่?” หยุนถิงยิ้มเย็นแล้วพูดขึ้นมา

คำพูดประโยคเดียว ก็ทำให้บรรพจารย์ตระกูลเวินโกรธขึ้นมาทันที “น่ารังเกียจ เจ้ากล้ามาสงสัยวิชาการแพทย์ของข้าเลยหรือ คอยดูนะข้าจะดูดเลือดของเจ้าให้หมด ให้เจ้าได้กลายเป็นซากศพแห้ง ๆ เหมือนกันคนชนเผ่าพวกนั้นเลย!”

หยุนถิงแสร้งทำเป็นเหมือนไม่เข้าใจ “คนชนเผ่าอะไร ท่านอย่ามาโกหกข้าเลย คนเผ่ามารดาของข้าถูกเซียวหรูซื่อฆ่าล้างโคตรไปเมื่อหลายปีก่อนแล้ว ไม่มีทางหลงเหลือคนที่ยังมีชีวิตอยู่หรอก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จอมนางข้ามพิภพ